แม้ฤทธิ์ของยาตรงใจที่จานเจิ้งใช้จะหมดฤทธิ์ภายในหนึ่งชั่วยาม และนั่นคือตอนที่สองหนุ่มสาวเสร็จกิจครั้งที่สอง แต่กัวเจียงเยว่ก็ไม่อาจหลบหนีเขาลงจากเตียงได้เพราะจานเจิ้งกำลังกอบกุมดูดเคล้นสองเต้าของนางอย่างไม่ลืมหูลืมตา ส่วนตัวนางเองก็กระสันซ่านจนถึงกับทั้งลูบคอและจิกบ่าเขาแน่น ใจนางคิดว่าจะร้องให้เขาหยุด แต่ปากกลับร้องเรียกเพียงชื่อเขาออกมาเท่านั้น น้ำเสียงที่แหบพร่านั้นทำให้จานเจิ้งคิดว่านางกำลังพอใจในการเล้าโลมของเขา ชายหนุ่มจึงขยับลงไปยังเนินสวาทด้านล่าง ครั้นเสร็จรอบที่สามแล้ว กัวเจียงเยว่ที่นอนซบอกของคุณชายจานเริ่มลำดับเหตุการณ์ก็นึกโมโหที่เสียรู้และเสียตัวให้เขาเป็นคืนที่สอง จึงคิดจะหลบหนี
“เยว่เยว่ เจ้าเป็นคนของข้าด้วยความเต็มใจและข้าเองก็เต็มใจตกเป็นคนของเจ้า เจ้ายังคิดจะหนีข้าไปอีกหรือ? อย่าลืมนะว่าตอนที่เจ้ามีสติสัมปชัญญะบริบูรณ์ก็ได้ตกลงเป็นผู้คุ้มภัยข้าแล้ว และตอนนี้ยังเป็นภรรยาของข้าอีกด้วย เพิ่งจะคืนที่สองก็คิดจะทิ้งสามีที่เป็นเจ้านาย อย่างนี้จะใช้ได้ที่ไหนกัน?”
“ขะ ข้า ไม่ได้นับท่านเป็นสามีสักหน่อย”
จานเจิ้งที่กอดนางแน่นหัวเราะหึๆ “สภาพเจ้ากับข้าเช่นนี้บอกไปผู้ใดจะเชื่อเล่าว่าไม่เกี่ยวข้องกัน? คนทั้งจวนข้าก็เห็นกันหมดแล้วว่าข้าอุ้มเจ้าเข้ามา และเจ้าก็เต็มใจเข้าห้องกับข้าเสียด้วย”
กัวเจียงเยว่กัดริมฝีปากจนชา “เป็นท่าน...ท่านวางยาข้า!”
“ยานี้มีชื่อว่ายาตรงใจ หากเรื่องที่ทำไม่ตรงกับใจเจ้า เจ้าจะไม่ตอบเช่นนี้แน่...ข้าถามเจ้าแล้วว่าครั้งแรกเจ้าเต็มใจขึ้นเตียงกับข้าหรือไม่? เจ้าตอบว่าเต็มใจและยังชอบอีกด้วย คืนนี้ก็เป็นเจ้าที่เรียกร้องให้ข้าทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ เจ้ายังไม่พอใจอีกหรือ?”
“หึ! ข้าโง่เองที่ตกหลุมพรางคนอย่างท่าน”
“เรามาลองกันดูอีกครั้งก็แล้วกันว่าตกลงแล้วเจ้าชอบที่ข้าทำกับเจ้าหรือไม่?” จานเจิ้งไม่พูดพล่ามมือของเขาเข้ากุมเนื้อนูนนิ่มนิ้วแทรกเข้าไปบดคลึงปุ่มสวาทก่อนจะประกบริมฝีปากกับนาง
หญิงสาวที่รู้ตัวว่าตนเองมิอาจต้านทานบทรักของเขาได้ทำตัวแข็งอยู่ได้ครู่หนึ่งก็บิดร่างและจูบตอบไม่นานนักคนทั้งสองที่ต่างรู้ทางกันแล้วก็เข้าสู่ท่าทางที่คุ้นเคย ชายหนุ่มดึงมือของนางมากอบกุมท่อนเนื้อของเขาไว้เอาแล้วกระซิบกระเส่าอยู่ข้างหู
“ข้าตกเป็นของเจ้าแล้ว เยว่เยว่เจ้าเห็นว่าควรลงโทษอย่างไร?”
ใบหน้าของนางแดงก่ำ นิ้วของเขาสอดเสียดในร่องน้อยของนางจนฉ่ำแฉะ หญิงสาวรูดท่อนเนื้อนั้นอย่างที่เขาเคยสอนไว้ เขาทั้งดูดชิมใบหูและประกบปากนาง ลิ้นของคนทั้งสองส่ายสอดรัดกันไปมา หญิงสาวปล่อยตัวปล่อยใจไปกับชายหนุ่มที่สอนบทพิศวาสให้นางมาหลายครา ครั้งที่สี่ของคืนที่สองนี้กัวเจียงเยว่ถูกเขาสอดใส่ไปหลายท่าจนนางไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าร่างกายของนางตกเป็นทาสสวาทของชายโฉดจานเจิ้งไปแล้ว
อีกไม่ถึงหนึ่งชั่วยามฟ้าก็จะสว่าง ซูหลีที่นั่งซุ่มรออยู่หน้าจวนสกุลจานเห็นคุณหนูของตนในชุดเสี่ยวเอ้อขี่ม้าอยู่ในอ้อมกอดของคุณชายจานก็พลันชะงัก
‘นี่มิใช่ว่า....คุณหนูตกเป็นเหยื่อของคุณชายจานอีกแล้วนะ’
ซูหลีดูท่าทางระทดระทวยของคุณหนูของตนแล้วก็พอจะดูออก พวกเขาสองคนหายเข้าไปในจวนตั้งแต่ยามห้าย (21.00-22.59 น.) เพิ่งจะกลับออกมายามอิ๋น (03.00-04.59 น.)
จานเจิ้งขี่ม้ามาส่งนางใกล้ถึงจวนสกุลกัวแล้วก็เกรงว่าหากมีคนเห็นนางจะกลายเป็นเรื่องเอิกเกริก เขาจึงกระซิบถามนางถึงวิธีการกลับเข้าจวนโดยไม่ให้คนในรู้
“ข้ามีสาวใช้ชื่อซูหลีที่ต้องคอยรอข้ากลับเข้าจวนพร้อมกัน ข้างในข้ากับนางมีสายคอยเปิดประตูให้อยู่ แต่เราต้องไปทางประตูเล็กด้านหลัง”
ชายหนุ่มขี่ม้าเลียบหลบไปทางประตูเล็กหลังจวน ซูหลีที่วิ่งตามมาเห็นหญิงสาวชายหนุ่มยืนเคียงกันอยู่ข้างม้าก็รีบร้องทัก
“คุณหนู ข้าอยู่นี่เจ้าค่ะ”
“นั่น! ซูหลีมาแล้ว!”
จานเจิ้งหันไป รอบข้างสลัวๆ จึงเห็นหน้าสาวใช้ประจำตัวของนางได้ไม่ถนัดนัก เขาทักทายกับซูหลีพอเป็นพิธีก่อนจะหันไปสั่งกัวเจียงเยว่
“พรุ่งนี้เจ้าแต่งกายเยี่ยงบุรุษแล้วไปหาข้าที่จวนสกุลจานนะ คงรู้ว่าข้าไม่อยากรอนาน มิฉะนั้นข้าอาจจะต้องมาเยือนจวนเจ้าด้วยตัวเอง”
กัวเจียงเยว่รีบรับคำแล้วบอกให้เขากลับไปได้แล้ว ก่อนที่จะมีผู้อื่นมาเห็นเข้า ชายหนุ่มรอจนนางทั้งสองหายเข้าไปในประตูเล็กแล้วจึงควบม้ากลับจวน
“คุณหนูเจ้าค่ะ เกิดอันใดขึ้นหรือ?”
กัวเจียงเยว่ที่อ่อนเพลียโบกมือบอกให้ซูหลีอย่าเพิ่งถาม ยามนี้นางอยากนอนพักผ่อนเสียก่อน “พรุ่งนี้ข้าจะเล่าให้เจ้าฟัง”
ครั้นถึงห้องนอน หญิงสาวที่ถูกเคี่ยวกรำมาทั้งคืนก็พุ่งขึ้นเตียงนอนหลับไปทันที จนซูหลีส่ายหน้ารีบมาขยับร่างคุณหนูของตนให้เลื่อนขึ้นไปนอนบนเตียงดีๆ และห่มผ้าให้นาง
กัวเจียงเยว่หลับไปหนึ่งชั่วยามก็ต้องลุกขึ้นเพราะรู้สึกเนื้อตัวเหนียวเหนอะหนะ นางเรียกให้สาวใช้ข้างนอกเตรียมน้ำมาให้นางอาบในตอนที่ฟ้าเริ่มสาง จากนั้นนางก็กลับไปนอนอีกครั้ง
ซูหลีเดินเข้ามาดูคุณหนูของตน เมื่อสภาพนายของตนไม่ค่อยดีก็เดินลิ่วไปรายงานให้นายท่านและฮูหยินทราบว่าคุณหนูปวดศีรษะจึงขอนอนต่ออีกสักหน่อย รออีกหนึ่งชั่วยามกัวเจียงเยว่ก็ตื่นขึ้นด้วยท่าทีสดชื่นก่อนจะเดินเข้าไปเช็ดตัวและผลัดเสื้อผ้าโดยมีซูหลีเดินตามเข้าไปดูแล
“คุณหนูเจ้าคะ เมื่อคืนคุณชายจานทำร้ายท่านอีกหรือ?”
ใบหน้าของกัวเจียงเยว่แดงก่ำ นางไม่อยากยอมรับว่าตนเองให้ความร่วมมือกับจานเจิ้งในเรื่องบนเตียงเป็นอย่างดี อีกทั้งยามนี้ก็ยังอยากจะให้เข้ามาอยู่ใกล้ๆ และทำเช่นเมื่อคืนนี้อีก
***********************