บทที่ 8 ความแค้นของนาง (nc++)

1195 คำ
เขาประคองนางให้ลุกจากอ่างก่อนจะหันไปดึงผ้าผืนใหญ่มาห่อร่างให้หญิงสาว เขาเช็ดตัวลวกก่อนจะพันร่างด้วยผ้าแล้วช้อนอุ้มร่างนางตรงไปยังเตียง เมื่อทั้งสองสอดร่างใต้ผ้าห่มด้วยกัน จานเจิ้งกอดนางเอาไว้ “ครั้งแรกเจ้าคิดจะวางยาอะไรข้าหรือ?” “ข้าคิดจะให้ท่านกินผงหยุดเคลื่อนไหว ต่อไปท่านจะได้กลายเป็นผักนึ่งอยู่บนเตียงและรถเข็น สมควรแก่ความแค้นของข้า” จานเจิ้งผงะ “ข้าเคยสร้างแค้นใดใหญ่หลวงให้เจ้า?” “ไม่ใช่ท่าน หากแต่เป็นบิดาของท่าน ใต้เท้าจานต่างหาก” ชายหนุ่มขมวดคิ้ว เท่าที่รู้ บิดาของเขาไม่เคยเล่นวิธีสกปรกกับผู้อื่น เหตุใดจึงมีคนคั่งแค้นขนาดนี้? “เจ้าเป็นใครกันแน่?” “ข้าคือกัวเจียงเยว่ บุตรีของใต้เท้ากัว ที่ท่านพ่อของท่านเคยทำให้ถูกเนรเทศไปชายแดนเมื่อหลายปีก่อน ถึงตอนนี้ท่านพ่อของข้าก็มีแต่ความทุกข์” จานเจิ้งนิ่งไปครู่ใหญ่ เขานึกทบทวนเรื่องราวระหว่างบิดากับใต้เท้ากัว เคยได้ยินว่าใต้เท้ากัวเคยมีปัญหากับคนผู้หนึ่งในงานเลี้ยง จากนั้นบิดาของเขากับใต้เท้ากัวก็กลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน เขารับรู้เพียงว่าต่อมาใต้เท้ากัวถูกเนรเทศและไม่อาจได้เลื่อนขั้นอย่างขุนนางผู้อื่นจนถึงตอนนี้ กัวเจียงเยว่ไม่รู้ว่าเหตุใดตนเองถึงได้ตอบคำถามของเขาอย่างซื่อสัตย์? แม้นางคิดจะตอบเลี่ยงๆ ก็ไม่อาจทำได้ “เจ้าแค้นบิดาข้ามากนักหรือ?” “แค้นมาก! เพราะหากไม่ใช่เพราะใต้เท้าจาน ท่านพ่อของข้าก็คงไม่ต้องอับอายผู้คน ต้องถูกเนรเทศ หนำซ้ำยังเป็นขุนนางเพียงคนเดียวในคนรุ่นเดียวกันที่ไม่ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง” “เจ้าคิดว่าท่านพ่อของข้าเป็นสาเหตุอย่างนั้นสิ?” “ใช่! ข้าถึงอยากให้ใต้เท้าจานได้รับความเดือดร้อนบ้าง ท่านเป็นบุตรชายคนโต แม้จะเสเพลแต่บิดากลับยังคงรักใคร่ท่านมากที่สุด หากข้าทำให้ท่านนอนป่วยกลายเป็นผักเสียได้ ใต้เท้าจานก็คงจะมีเรื่องเจ็บปวดใจไม่จบสิ้น เช่นนี้ถึงจะเป็นการล้างแค้นที่สาสมกับที่ครอบครัวข้าได้รับ เป็นเพราะท่านพ่อถูกเนรเทศ ข้ากับท่านแม่จึงต้องกลับไปอยู่เรือนของท่านตาท่านยาย กลายเป็นคุณหนูนอกคอกที่เติบโตในอำเภอห่างไกล ข้ารู้สึกโกรธแค้นแทนบิดาจนกระทั่งวันที่ได้เข้ามาในเมืองหลวงจึงสืบเรื่องในจวนของใต้เท้าจานและตามหาท่าน” กัวเจียงเยว่ทั้งเล่าทั้งกัดฟันกรอดๆ นางนึกถึงวันคืนที่คนในครอบครัวต้องแยกย้ายจากกัน ท่านพ่อไปชายแดนเมืองฉู่จิ้ง ส่วนนางกับพี่สาวและมารดาไปที่บ้านของท่านตากับท่านยาย กว่าท่านพ่อจะถูกเรียกตัวกลับจากชายแดนก็ผ่านไปหลายปี ครั้นกลับมาได้ก็ยังไม่อาจได้รับการเลื่อนตำแหน่งอย่างเช่นผู้อื่น “ข้าคิดว่าเรื่องนี้ต้องมีความเข้าใจผิดกันแน่ๆ ข้าจะต้องหาความจริงมาให้เจ้าให้ได้” เขาจ้องตอบนาง ยามนี้นางยังตกอยู่ภายในฤทธิ์ของยาตรงใจ การที่นางเต็มใจจะร่วมเตียงกับเขาย่อมเกิดจากความรู้สึกที่แท้จริงส่วนลึกในใจของนางและการที่นางแค้นบิดาเขามากจนอยากจะทำร้ายเขาก็เป็นความจริงอีกเช่นกัน เขาตั้งใจจะหาความจริงเพื่อล้างมลทินให้กับบิดาให้ได้! “หากท่านพบว่าเรื่องนี้บิดาท่านผิดจริงๆ จะทำเช่นไร?” “ข้าก็จะให้ท่านพ่อรับผิดชอบต่อครอบครัวของเจ้า ชดเชยให้อย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตำแหน่งที่ท่านพ่อของเจ้าควรจะได้ รวมถึงสิ่งที่คนในครอบครัวเจ้าควรจะได้รับด้วย” กัวเจียงเยว่ขมวดคิ้ว “ข้าจะเชื่อคำพูดของท่านได้จริงหรือ?” “แม้ข้าจะเป็นคนโฉดผู้หนึ่งแต่ก็ไม่เคยผิดคำพูดกับผู้ใด” จานเจิ้งลูบไหล่เปลือยของนางเบาๆ “เรื่องนี้ต้องรอให้ข้าสืบให้กระจ่างเสียก่อน เจ้าอุตส่าห์กลับมาหาข้าอีกครั้ง เราไม่ควรเสียเวลาค่ำคืนอันมีค่าไปเปล่านะ” ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้ามาจูบนาง ทั้งยังใช้มือเรียวเคล้นเต้าข้างหนึ่งของนางเบาๆ ไม่นานนัก ร่างกายของคนทั้งสองร้อนผ่าว ผ้าเช็ดตัวผืนนั้นถูกโยนทิ้งลงข้างเตียง ใต้ผ้าห่มผืนหนามีเพียงร่างเปล่าเปลือยของสองคนที่กำลังเสียดสีนัวเนียกันไปมา เขาแทรกท่อนขาเข้าระหว่างขาอ่อนของนาง ท่อนเนื้อของเขาค่อยๆ ขยายและตึงขึ้นจนนางรู้สึกได้ ริมฝีปากของคนทั้งสองแนบกันสนิท นิ้วของชายหนุ่มบดขยี้ปลายปทุมถันของนางเบาๆ จานเจิ้งรู้สึกว่าสะโพกของนางเด้งขึ้นน้อยๆ เมื่อเขาเบียดท่อนเนื้อนั้นกับซอกขาเนียนนุ่ม มือเรียวที่กุมหน้าอกเลื่อนลงไปกุมเนินอวบส่วนล่างไว้แทน เขาใช้ปลายนิ้วเบียดบี้เบาๆ ก่อนจะเข้าโจมตีปุ่มสำคัญ นางครางอืออาในลำคอจนเขาเริ่มทนไม่ไหวผละออกแล้วก้มลงดูดปลายปทุมถันของนาง “อืม...อื๋อ....อะ...อ๊า...” บั้นท้ายของนางบิดไปมาเพื่อนิ้วของเขาสะกิดจุดสำคัญถี่ๆ ก่อนจะเลื่อนไล้ขึ้นลงตามกลีบเนื้อนุ่มจนนางร้องแรงขึ้น เมื่อความกระสันซ่านพุ่งขึ้นนางก็ครางเรียกชื่อชายหนุ่มออกมา จานเจิ้งรู้สึกราวผิวเขาถูกเปลวไฟอ่อนๆ คอยแผดเผา เมื่อขยับปรนเปรอเต้าซ้ายและย้ายไปเต้าขวาแล้ว ชายหนุ่มก็หยัดกายขึ้น มืออีกข้างแยกขานางให้กว้างออก กัวเจียงเยว่มองเห็นชายหนุ่มก้มหน้าลงระหว่างขาของตนก็ตกใจ “เยว่เยว่ คืนนี้ข้าจะทำให้เจ้าประทับใจยิ่งกว่าคืนแรก” เขาใช้มือสองข้างจับขานางชันขึ้นแล้วก้มหน้าลงตรงกลาง นางถึงกับร้องเสียงหลงเมื่อปลายลิ้นของเขาตวัดลงแตะจุดอ่อนไหวของนาง ชายหนุ่มยิ่งทำเร็วขึ้นนางก็ยิ่งกระดกบั้นท้ายเข้าหาเข้า “จานเจิ้ง โอว...อ๊า...” นางทั้งครางทั้งหอบหายใจแรงคล้ายจะขาดใจ ชายหนุ่มจึงใช้นิ้วเข้าไปสำรวจความพร้อมในร่องลึกของนาง เขาใช้ทั้งนิ้วและลิ้นจนนางปล่อยความชุ่มชื้นออกมาอย่างเต็มที่ ร่างของนางกระตุกน้อยๆ ร่างกายร้อนระอุ “ท่านเข้ามาเถอะ ข้า...ข้าอยากให้ท่านเข้ามาแล้ว” หน้าอกของนางกระเพื่อมแรง ถ้อยคำนั้นขาดๆ หายๆ จานเจิ้งผุดลุกขึ้นจับขานางแยกออกพาดบนหน้าขา กระตุ้นท่อนเอ็นอย่างแข็งขันแล้วสอดประสานกับร่างกายของนาง จากนั้นก็มีเสียงเนื้อกระทบกันและเสียงครางของคนทั้งคู่อวลอลอยู่ในม่านมุ้ง ************************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม