เมื่อเห็นคุณหนูของนางส่ายหน้าน้อยๆ ซูหลีก็ถึงกับขมวดคิ้ว
“คุณหนูเจ้าคะ ตกลงมันเป็นอย่างไรกันแน่?”
กัวเจียงเยว่จึงเล่าเหตุการณ์และถ้อยคำที่จานเจิ้งพูดกับนางให้ซูหลีฟัง ส่วนเรื่องที่นางกับเขาร่วมเตียงกันนั้น โดยไม่พูดถึงยาตรงใจที่จานเจิ้งใช้กับตน
“ข้าถูกกลิ่นสุราอาการแพ้เลยกำเริบก็เลย....”
“ก็เลยร่วมเตียงกับคุณชายจานอีกแล้วหรือเจ้าคะ?”
คุณหนูกัวหน้าร้อนผ่าว พยักหน้าน้อยๆ ด้วยความอาย “สายวันนี้ข้าจะไปเป็นผู้คุ้มภัยให้เขา คอยดูสิว่าเขาจะหาความจริงได้อย่างที่รับปากข้าหรือไม่? หากไม่ได้ข้าก็จะลงมือกับเขาแทน”
ซูหลีไม่อาจคัดค้านคุณหนูของตนจำต้องปล่อยให้นางไปหาจานเจิ้ง โดยที่นางแอบตามไปดูแลอยู่ห่างๆ สตรีในชุดบุรุษทั้งสองใกล้จะถึงจวนสกุลจาน กัวเจียงเยว่แยกเข้าไปข้างในจวนเพื่อพบกับจานเจิ้ง ส่วนซูหลีรออยู่ข้างนอก
จานเจิ้งได้ยินบ่าวรับใช้คนสนิทของตนวิ่งตึกๆ เข้ามารายงานก็ยิ้มร้าย
“เจ้าว่า ซูหลีคนนี้หมดจดใช้ได้หรือไม่?”
“หากจะพูดถึงใบหน้านางก็น่ารักใช้ได้นะขอรับ”
“ข้ามอบหมายให้เจ้าจัดการซูหลีผู้นี้ให้เรียบร้อยพอจะทำได้หรือไม่?”
“เอ๋? คุณชายหมายถึง?”
“กัวเจียงเยว่เป็นภรรยาของข้าแล้ว เจ้าก็ควรจะทำให้ซูหลีกลายเป็นภรรยาของเจ้า นางมีวรยุทธ์ข้าเกรงนางจะลงมือกับข้าแทนนายหญิงของนาง พวกนางมีความแค้นกับท่านพ่อของข้า และหมายจะทำให้ข้ากลายเป็นคนพิกลพิการแต่แรก หากเจ้ารวบหัวรวบหางนางได้ ข้าว่าเรื่องนี้จะง่ายดายขึ้น”
เสี่ยวเชี่ยนผงะเล็กน้อย “เอ่อ...นางจะไม่ฆ่าข้าน้อยหรือขอรับคุณชาย?”
“เจ้าเองก็มีฝีมือจะทำเช่นใดก็ทำไปสิ! หากเจ้าทำได้อย่างที่ข้าต้องการข้าจะให้รางวัลเจ้าอย่างงาม” จานเจิ้งยกยิ้มมุมปากพร้อมกับควักตลับยาเล็กๆ ให้บ่าวคนสนิท “นี่คือยาตามใจ เจ้าป้ายนางแล้วนางจะทำทุกสิ่งตามใจเจ้า”
บ่าวรับใช้จำต้องรับคำ เขารู้ว่ากิตติศัพท์ของคุณชายคือบุรุษที่หาความดีได้ยาก แต่ไม่คาดว่าเรื่องเช่นนี้ก็คิดจะทำด้วย “หากข้ากับนางมีสัมพันธ์กันแล้ว นางเกิดฆ่าตัวตายล่ะขอรับ”
“เสี่ยวเชี่ยน เจ้าก็ยังไม่มีพันธะก็รับนางเป็นภรรยาไปเสียเลยสิ ไหนๆ ข้าก็จะรับคุณหนูกัวเข้าสกุลแล้ว เจ้าก็รับซูหลีมาด้วยไม่ดีหรือ?”
ชายหนุ่มอึกอัก หากว่าคุณชายสั่งการเช่นนี้ย่อมต้องเตรียมเงินสำหรับแต่งงานให้เขาด้วย ดีกว่าเขาไปมองหาสตรีอื่นมาเป็นภรรยาตามที่มารดาขอร้อง ในฐานะบ่าวการจะเก็บเงินเพื่อแต่งงานช่างยากเย็นนัก
“เรื่องแต่งงานของข้า....”
“ข้าจัดการให้ ขอเพียงเจ้าสาวเจ้าเป็นซูหลี”
“ขอรับ”
“เดี๋ยวข้ากับกัวเจียงเยว่จะออกไปข้างนอกด้วยกัน เจ้าก็สะกดรอยแล้วตีสนิทกับซูหลีเสีย”
“ขอรับ”
ช่วงที่กัวเจียงเยว่กับจานเจิ้งพบกันและปรึกษาหารือ เสี่ยวเชี่ยนก็ออกจากจวนแสร้งไปเดินเตร่สังเกตซูหลีที่แต่งกายเป็นหนุ่มน้อยนั่งอยู่ร้านเกี๊ยวน้ำ
“น้องชาย ข้านั่งด้วยหน่อยได้หรือไม่? วันนี้มาคนเดียวไม่มีเพื่อนกิน ข้าเลี้ยงเจ้าก็ได้นะ”
ซูหลีเงยหน้าขึ้นเห็นชายหนุ่มในชุดบ่าวรับใช้เรือนสกุลจานก็คิดจะตีสนิทเขาเพื่อสืบเรื่องราวภายในจึงยิ้มกว้างผายมือเชื้อเชิญ
“ยินดีขอรับ ข้าเองก็มาคนเดียวยังไม่ได้สั่งอาหารเลย”
“เดี๋ยวข้าสั่งเผื่อเจ้าเอง” เสี่ยวเชี่ยนเดินกลับไปสั่งเกี๊ยวน้ำมาสองชาม พร้อมกับน่องไก่ทอด ก่อนจะเดินมาที่โต๊ะสุดท้ายของซูหลี “วันนี้คนคึกคักนัก ร้านนี้ก็ทำอร่อยข้ามักจะออกมากินบ่อยๆ”
“พี่ชาย ท่านทำงานอยู่ในจวนสกุลจานหรือขอรับ?”
“ใช่! ข้าอยู่ที่นี่มาตั้งแต่อายุสิบสองแล้ว นายท่านใจดีมีเมตตา ข้าขอออกจากจวนได้ไม่ยากนัก”
“ได้ยินว่าในจวนของท่านมีคุณชายอยู่หลายคนมิใช่หรือ?”
“อ้อ มีสามคน คุณชายใหญ่ออกจะโลดโผนหน่อยเจ้าน่าจะเคยได้ยินชื่อจานเจิ้ง ส่วนคุณชายรองกับคุณชายสามยังเด็กอยู่ตั้งใจเล่าเรียนเขียนอ่าน ไม่ค่อยออกมาข้างนอก”
“คุณชายจานเจิ้ง ใจคอโหดร้ายหรือไม่? ข้าเคยได้ยินว่าเขานิยมไปหอโคมเขียว เหลาสุราและยังไปบ่อนอยู่บ่อยๆ”
เสี่ยวเชี่ยนยิ้มน้อยๆ ชื่อเสียงของคุณชายใหญ่เป็นที่รู้กันทั่วเมืองหลวงในเรื่องเลวร้ายสารพัดอย่าง “ตรงกันข้าม กับบ่าวอย่างข้า คุณชายให้ความเมตตาและช่วยเหลืออย่างดี ไม่เคยลงโทษตามอำเภอใจสักครั้ง หากผู้ใดทำผิดจะให้พ่อบ้านเรียกมาไต่สวนโดยละเอียดแล้วค่อยทำโทษ”
ซูหลีได้ยินก็นิ่งไป “ข้าคิดว่าเขาจะชอบลงไม้ลงมือกับบ่าวและสาวใช้เสียอีก ใต้เท้าจานเองก็เป็นขุนนางใหญ่ ในจวนของพวกท่านคงจะมีคนที่ทำงานด้วยสัญญาทาสอยู่ไม่น้อยสินะ”
“เจ้าผิดแล้ว! ใต้เท้าจานแม้จะซื้อทาสมาก็จะให้ทำงานในฐานะทาสสิบปี จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นสัญญาจ้างให้ ทุกคนจึงยินดีรับใช้ใต้เท้าด้วยความจงรักภักดี รวมถึงตัวข้าด้วย ข้าถูกขายมาในฐานะทาสเช่นกัน ตอนนี้ข้าก็กลายเป็นลูกจ้างที่มีสัญญาจ้างสิบปีแทน”
“ใต้เท้าจานมีเมตตายิ่งนัก ท่านนับว่ามีวาสนา”
เสี่ยวเอ้อนำอาหารสองถ้วยกับหนึ่งจานลงมาวางต่อหน้า ซูหลีท้องร้องจ๊อก นางลืมไปว่าเมื่อเช้าตนเองกินข้าวต้มถ้วยเล็กมาเพียงถ้วยเดียว ยามนี้เลยเที่ยงวันแล้ว
“กันก่อนเถอะ วันนี้ข้าได้รับมอบหมายให้ตามสืบดูว่าคุณชายใหญ่ไปที่ใดบ้าง? ครั้งก่อนคุณชายถูกลอบทำร้ายนายท่านจึงไม่ค่อยสบายใจ สั่งให้ข้าคอยติดตามคุณชายอยู่ห่างๆ เห็นว่าวันนี้คุณชายมีผู้คุ้มภัยชื่อซูเยว่ ไม่รู้ว่าคนผู้นั้นฝีมือเป็นอย่างไร?”
********************