ผมรู้เรื่องภรรยาผมดี(คิมหันต์+เพียงขวัญ)

1704 คำ
ในที่สุดก็เปิดเรียนจริงจัง 4สาวมาเรียนทุกวันแก้มอาการแพ้ท้องเป็นแค่ช่วงเช้า ส่วนเพียงขวัญแทบไม่มีเลย แสนรักเริ่มคุ้นกับเพื่อนใหม่ ลูกพีชเองก็ชอบที่จะได้คุยกับเพื่อนใหม่เช่นกัน สองเดือนกว่าแล้วที่เรียนหนังสือ ชุดนักเรียนเริ่มใส่ไม่ได้ อาจารย์ใหญ่เคยเรียกไปคุยครั้งหนึ่งว่าจะพักการเรียนก่อนไหม แม้ว่าโรงเรียนไม่ได้ปิดกั้น แต่ว่าก็ไม่อยากให้เพื่อนๆในโรงเรียนมองเด็กสาวสองคนด้วยสายตาที่ไม่ดี "ครูว่าพวกเธอพักการเรียนไปก่อนไหมครูเป็นห่วง แล้วสามีของเธอสองคนล่ะเพียงขวัญ กวินตาอยู่ด้วยกันหรือไม่ หรือว่าพลาด" "สามีของหนูกับแก้มอยู่ด้วยกันค่ะครูใหญ่ เรามาเรียนได้ค่ะ ไม่สนสายตาใครหรอกค่ะครูพวกหนูเข้มแข็งพอ" "แล้วผู้อำนวยการล่ะคะว่ายังไงดี เพียงขวัญเป็นหลานสาวท่าน เห็นว่าท่านไปยุโรปไม่ทราบว่าท่านทราบไหมคะว่าหนูเอ่อ.." ครูไม่กล้าเอ่ยต่อแต่มีคนเอ่ยแทน เสียงคิมหันต์ดังแทรกมา "ขอบคุณที่เป็นห่วงแต่ว่าผมทราบครับครูใหญ่ ผมทราบทุกอย่างเกี่ยวกับภรรยาผมดี ขวัญวันนี้หมอนัดได้เวลาแล้วค่ะ แก้มไปพร้อมอานะคะอาหมอมีเคสผ่าตัดด่วนมาไม่ได้" "ค่ะอาคิม แล้วแแพรกับผึ้งล่ะคะ" เพียงขวัญถามสามี " แพรกับผึ้งอาธามมารับไปแล้วค่ะ ผมกลับก่อนนะคุณอาคม ครูมยุรี พอดีภรรยาถึงวันนัดตรวจครรภ์พอดี" ทั้งสามคนออกไปแล้ว ครูใหญ่กับผ.อ.ได้แต่ยืนงงอยู่ นึกว่าหลานสาวที่แท้เมียเลยหรือ นี่มันแล้วนามสกุลนี่แปลว่าจดทะเบียนสมรสแล้ว แสนรักรอรถที่บ้านมารับ อาเมฆผีเข้าผีออกเดี๋ยวก็ด่าเดี๋ยวก็ดี ลูกพีชกลับแล้วพี่ชายมารับ ยาหยีสะพายกระเป๋าเดินออกมาจากตึกเรียนก่อนจะไปยังป้ายรถเมล์ กรธวัฒน์มารับแสนรัก เมฆานั่งอยู่ที่เบาะหลัง เด็กสาวก้าวขึ้นรถพร้อมสวัสดีเขา ไม่มีเสียงตอบ มีเพียงกรธวัฒน์ที่เอ่ยปากทักทายสาวน้อย "วันนี้เรียนเป็นอย่างไรบ้างคะ ปรับตัวได้หรือยัง" "ได้แล้วค่ะ อากายคะจอดหน่อยได้ไหมคะตรงป้ายรถเมล์นั่น คือเพื่อนแสนค่ะ เอ่อ อาเมฆคะ" "จอดหน่อยไอ้กาย น่ารำคาญวุ่นวาย" กายมองเห็นร่างเล็กๆที่ยืนรอรถเมล์ หึแม่คุณหนูตกอับ ขี้กลากไม่ขึ้นหรือไงมารอนั่งรถเมล์เหมือนคนอื่นเขา กายจอดรถจนเกือบเบียดร่างเล็ก คนที่ยืนรอรถเมล์มองมาเป็นตาเดียวอย่างไม่พอใจ แต่ด้วยราคาของรถที่มาจอดทำเอาไม่กล้ามีเรื่อง กายลดกระจกก่อนจะตะโกน "ขึ้นมา จะรอปูพรมแดงหรือไงแม่คุณ" ยาหยีที่เห็นหน้าเขาก็เมินใส่ แต่เพราะสายตาทุกคู่ที่ป้ายรถเมล์มองมาเธอจึงจำใจก้าวขึ้นรถ มานั่งข้างๆแสนรัก ยาหยียกมือไหว้เมฆา ก่อนจะทักทายเพื่อน กรธวัฒน์ถึงกับหัวเสีย กล้าเมินฉันหรือยายตัวดี ก่อนจะออกรถด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวจนเมฆาต้องเอ่ยปาก "ไอ้กาย ขับให้มันดีๆกูทำงานอยู่" "โทษทีพี่เมฆ แค่อยากเอาเสนียดลงจากรถไวๆน่ะ เลยรีบไปหน่อย" "อากายแค่ปากไวไปหน่อยไม่มีอะไรหรอก อย่างน้อยก็ไม่Toxicเหมือนบางคน ว่าแต่หยี ไม่เป็นไรใช่ไหมกลับบ้านน่ะ" แสนรักจับมือเพื่อนให้กำลังใจ เมฆาถึงกับละสายตาจากงานตรงหน้ามามองเด็กในปกครอง เมื่อก่อนวาจาแบบนี้ไม่มีแน่ๆ ตั้งแต่คบเมียไอ้คิมปากดีขึ้นเยอะ แถมยังต่อต้านเป็นอีกด้วย ต้องคุยกับไอ้คิมสักหน่อยแล้ว "ว่าแต่ที่คอแดงนี่บอกได้ไหม ไม่ได้ทำอะไรโง่ๆนะหยี" "พ่อยากได้เงินประกันที่แม่ฉันทิ้งไว้ให้นะ ฉันเอาออกมาไม่ได้เพราะอายุไม่ถึง พ่อจะให้ไปหลอกจากยายเอามานะ เลยโมโหเผลอบีบคอฉันน่ะ" "เยอะเหรอ " "20ล้าน แม่แบ่งเป็น3ส่วน เรียนจบสามารถจัดการได้เอง มีเงินปันผลจากบริษัทที่แม่ถือหุ้นอยู่ แม่เปลี่ยนเป็นชื่อฉันก่อนตาย เงินนั่นปันผลปีละเกือบ2ล้าน ฉันให้น้าชายเดือนละห้าหมื่นเอาไว้ใช้จ่ายกับยาย น้าแท่งไม่มีเมียเลี้ยงยายอยู่ที่อยุธยาน่ะ" "ฉันก็เป็นคนอยุธยาเหมือนกัน แต่ว่ามันนานมาแล้ว ตอนนี้เป็นแค่กาฝาก" "เราขนของสำคัญออกมาหมดแล้ว สอบเสร็จกำลังจะลาออกกลับไปอยู่ต่างจังหวัดกับยายไปเรียนที่นั่นน่ะแสน" "อ้าวทำไมล่ะเปิดมาครึ่งเทอมแล้วนะ พ่อเธอรับผิดชอบอะไรบ้าง นอกจากให้รถไปรับไปส่ง" "ที่ผ่านมาเป็นเงินที่แม่ทำไว้ให้ สำหรับเรียนหนังสือ แม่ไม่ได้เกาะพ่อกินอย่างที่พ่อเข้าใจหรอก แม่มีเงินพ่อไม่รู้ เพราะว่าพ่อเจ้าชู้แม่เลยใส่ชื่อฉันทุกอย่าง ยายมีแค่แม่กับน้าชายแค่นั้นยายเป็นผู้จัดการมรดกน่ะ จนกว่าจะอายุ20ถึงเบิกเงินก้อนออกมาได้ 0พ่อไม่เคยจ่ายเลย แต่แม่วางแผนไว้ให้ เงินเข้าบัญชีฉันทุกเดือนๆละ50,000 จนกว่าจะจบ หากต้องเบิกมากกว่านั้นยายต้องไปเซ็นรับรอง" "แล้วตอนนี้หยีไปอยู่ไหนล่ะ" "เพิ่งออกมาเมื่อคืนเช่าห้องเช่ารายวันไว้ แสนแกอายุ18เมื่อไหร่อ่ะ" "อีก2เดือนทำไมเหรอ" "ทำสัญญาเช่าคอนโดให้หน่อยสิสัก3เดือน ฉันคิดว่าเรียนจบเทอมนี้แล้วย้ายกลับต่างจังหวัด คุยกับครูใหญ่ไว้แล้วเรื่องเอกสาร ค่อยไปขอเรียนที่นั่น" "ได้ คงสอบเสร็จพอดี" "ขอบใจนะแสนจะถึงบ้านแสนแล้วเราลงเลยแล้วกัน เดี๋ยวต่อรถเอา อาเมฆขอบคุณมากนะคะ" ยาหยียกมือไหว้เมฆา เขาพยักหน้าก่อนจะเอ่ย "กายแกไปเอาของกับเด็กมันหน่อย ให้มาอยู่กับแสนรักไปก่อน ผู้หญิงคนเดียวอันตราย" "ไม่หรอกมั้งพี่ บางทีอาจชอบด้วย เผลอๆได้เงินปลดหนี้พ่ออีกต่างหาก" ยาหยีกำมือแน่น แต่เพราะเมฆาอยู่ด้วยเธอจึงไม่อยากทะเลาะ เขามักมาดักหาเรื่องเธอทุกวัน แสนรักทำหน้าไม่ดีกายเห็นจากทางกระจกหลังจึงเอ่ย "ได้ๆ เห็นแก่หนูหรอกนะคะ แสนคะบางคนช่วยก็ใช่ว่าจะสำนึกบุญคุณ เลือดชั่วๆเลือดเนรคุณอกตัญญูน่ะนะ ต่อให้ถ่ายออกไปก้ยังเหลืออยู่ ความเนรคุณบางทีมันฝังถึงลูกถึงหลาน" เมฆาอ่อนใจกับไอ้เด็กบ้านี่จริงๆ เจ้าคิดเจ้าแค้นน่ะเขาเข้าใจ แต่จำเป็นต้องมาเอาเรื่องกับเด็กไม่รู้เรื่องด้วยหรือไง รถเลี้ยวเข้ามาจอดในบ้าน แสนรักไม่ลงอยากไปเป็นเพื่อนยาหยีแต่สายตาดุของผู้ปกครองทำให้ต้องก้าวลงมา กายออกรถทันที พอออกจากบ้านได้ก็เหน็บแนมคนข้างๆไม่เลิก "ไงแม่คุณหนูตกอับ นั่งรถที่ไอ้กระจอกขับเนี่ยไม่กลัวขี้กลากขึ้นหรือไง หึ" "...." "พูดไม่ออกจี้ใจดำหรือ ก่อนจะโกงคนอื่นเขามาจนรวย พ่อเธอขนาดแย่งข้าวหมาก็คงเคยทำล่ะมั้ง" "จอดเถอะ ฉันอยากลงอีกอย่างฉันจะขอโทษอาเมฆเองเรื่องนี้ ไม่เต็มใจก็ช่วยจอด" "ทำไม พูดไม่ได้พ่อเธอวิเศษมากหรือ ก็แค่ไอ้แกรอวันตาย ว่าแต่จะตายแบบไหนล่ะ ถูกยิงถูกฒ่าหั่นศพ เจ้าหนี้เยอะขนาดนั้นน่ะ หึ" ยาหยีมองหน้าเขาตรงก่อนจะเอ่ย "คุณกรธวัฒน์ ถ้าไม่เต็มใจช่วยกรุณาจอด คุณเกลียดฉันก็อย่ามาเสนอหน้าช่วย ต่อให้เป็นคำสั่งอาเมฆฉันรู้ว่าคุณไม่ทำก็ได้ ช่วยเป็นลูกผู้ชายแมนๆหน่อย มานั่งจีบปากจีบคอด่าผู้หญิง อยู่บ้านคุณใส่กระโปรงเหรอ" กายเลี้ยวรถเข้าข้างทางทันทีก่อนจะเอ่ย "ปากดีไปหน่อยนะ ที่หนีหัวซุกหัวซุนอยู่นี่ไม่ใช่ว่ากลัวถูกขายเป็นเด็กเสี่ยเหรอ เธออขายให้ฉันไหมฉันช่วยซื้อเองว่าแต่เธอสดไหม ถ้าสดฉันให้รอบละหมื่น ถ้าทำฉันแตกได้เกิน5น้ำต่อคืนๆละแสนฉันก็จ่าย ว่าไงนิลยา แต่สารรูปอย่างเธอนี่ทำให้kฉันแข็งยังทำไม่ได้เลยมั้ง" เพียะ!!! กายหน้าหันไปตามแรงตบก่อนที่ยาหยีจะเปิดประตู เขากดล็อกเธอหันกลับมามองหน้าเขาแล้วตวาด "เปิด!!" กายกระชากร่างบางเข้ามาหาก่อนจะเอ่ยลอดไรฟัน น้ำเสียงเหี้ยมเกรียม "คราวก่อนเธอตบฉันที่บ้านเธอ แถมด่าฉันว่าไอ้กระจอก วันนี้ยังกล้าลงมืออีกอยากตายมากหรือนิลยา" "กล้าฆ่าไหมละ ถ้าดีแต่เห่าก็เปิดประตูรถฉันจะลง" "มีปัญญาก็ลงเองสิ" ยาหยีรอจังหวะเขาเผลอก็เอื้อมไปหวังปลดล็อกจากทางฝั่งเขา กายโอบเอวบางไว้ ยาหยีตอนนี้อยู่ในท่านอนอยู่บนตัวเขาครึ่งตัว มือบางพยายามที่จะเอื้อม แต่ถูกคนตัวสูงรวบข้อมือไว้ก่อนจะออกแรงดึงคนตัวเล็กมานั่งบนตักเขาทั้งตัว "คุณกาย ปล่อย!!" "ปล่อยแน่ ไม่ได้อยากแตะหรอกโสโครกขนาดนี้ ขอโทษฉันเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นเธอน่าดูแน่" "ไม่ ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด" กายมองหน้ากำลังจะเอ่ยมีเสียงเคาะกระจก เขาจึงจับเธอไปนั่งที่เบาะตามเดิม สายตรวจเคาะเรียกเพราะเห็นว่าจอดนานแล้ว "นั่งสงบปาก ไม่งั้นเธอได้ตายตามไอ้ยิ่งยศพ่อเธอแน่"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม