4 ปีต่อมา…
มาริน’ s Part
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงสักที… วันที่ฉันเรียบจบ ฮือออ… กว่าจะจบมาได้ก็แทบจะกระอักเลือดอยู่เหมือนกัน ไหนใครบอกแค่ตั้งใจเรียนก็สามารถผ่านได้สบายฉันขอตีหน่อยเถอะ ยิ่งช่วงโค้งสุดท้ายตอนที่ทำโปรเจคจบเนี่ยฉันแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน บางทีนั่งทำงานมาทั้งคืนแล้วตื่นเช้ามาเรียนก็แทบจะเบลอไปเลยอยู่เหมือนกัน
แต่สุดท้ายฉันก็ผ่านมันมาได้แถมพ่วงด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 มาให้พ่อกับแม่ได้ภูมิใจอีกต่างหาก ฮิฮิ แล้วนี่ก็เป็นวันรับปริญญาของฉันด้วยแหละ
“ยัยริน… มาถ่ายรูปด้วยกันตรงนี้ก่อนเร็ว” เสียงของยัยโมพร้อมกับกวักมือเรียกฉันเพื่อให้ไปยืนถ่ายรูปรวมกับเพื่อนคนอื่นๆ ในคณะ
“มาแล้วๆๆ” ฉันรีบวิ่งไปหาเพื่อนในทันที
แชะ!
“จบแล้วต่อไปก็คงไม่ค่อยได้เจอพวกแกแล้วแน่ๆ เลยอะ” หลังจากที่ถ่ายรูปเสร็จฉันก็หันไปพูดกับเพื่อนด้วยน้ำเสียงเศร้าปนงอแงนิดหน่อย
“แกจะกลับไปช่วยงานที่บ้านเหรอ? ฉันก็นึกว่าแกจะอยู่นี่ต่อเสียอีก”
“ฉันก็อยากอยู่นะ แต่ว่ายังไม่ได้คุยกับพ่อแม่เลยอะ”
ฉันตอบโมเมไปตามความจริง เพราะพ่อฉันก็พูดมาหลายครั้งว่าหลังจากเรียนจบก็อยากให้ฉันไปช่วยงานที่โรงแรม แล้วท่านยังบอกอีกว่าปล่อยให้ฉันเล่นสนุกอยู่คนเดียวมามากพอแล้ว ความคุณพ่อขี้หวงลูกสาวอะเนอะฉันก็เข้าใจท่านแหละ
“แล้วนี่… แฟนเธอยังไม่มาอีกเหรอยะ” ยัยโมพยักหน้ารับรู้ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องถามฉันพร้อมกับรอยยิ้มมีเลศนัย
“เห็นโทรมาเมื่อกี้ว่ากำลังหาที่จอดรถนะ ว่าแต่แกน่ะ… หวังว่าแฟนฉันจะพาเพื่อนเขามาให้แกแทะโลมด้วยหรือไงยะ ดูยิ้มเข้า”
“หน้าฉันดูออกขนาดนั้นเลยเหรอ?” โมเมพูดพลางยกมือขึ้นจับที่ใบหน้าของตัวเองไปด้วยพร้อมกับสีหน้าที่ดูก็รู้ว่าแกล้งประหลาดใจ
“มากกกกกก ย่ะ”
ในขณะที่ฉันกำลังยืนคุยกับเพื่อนอยู่นั้นก็เกิดเสียงฮือฮาขึ้นมาไปทั่วบริเวณจน ฉันอดไม่ได้ที่จะต้องหันไปมองตามแล้วก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า เพราะแฟนฉันนั้นหอบดอกไม้ช่อโตพร้อมกับลูกโป่งมากมายมาเต็มไม้เต็มมือไปหมด เรียกได้ว่าเล่นใหญ่เว่อ
“นั่นใช่ดาราป่ะ?”
“ใช่ๆๆๆ ที่กำลังดังเลยเพทาย ที่มีซีรีส์ออนแอร์อยู่ตอนนี้ไง”
“หอบดอกไม้มาให้ใครอะ เล่นใหญ่มากแกแล้วแบบนี้จะเป็นข่าวมั้ยเนี่ย”
“เสียใจอะเขามีแฟนแล้วเหรอ… วาสนาผู้ใด๋หน๊ออ”
แล้วเสียงซุบซิบเหล่านั้นเป็นอันต้องเงียบลงเมื่อพี่เพทายหยุดลงตรงหน้าฉันพร้อมกับยื่นดอกไม้ช่อโตนั่นมาให้
“ยินดีด้วยนะครับที่รักของพี่”
“พี่เพทายเล่นใหญ่เกินไปแล้วค่ะ คนมองเต็มเลย”
ฉันรับดอกไม้มาถือไว้ก่อนจะโน้มตัวไปกระซิบข้างหูพี่เพทาย ซึ่งคนเล่นใหญ่ก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรแถมยังหัวเราะชอบใจอีกต่างหาก
ฉันกับพี่เพทายเพิ่งตกลงคบกันได้ไม่นาน ก็ต้อนที่ฉันสอบเสร็จวันสุดท้ายนี่แหละ แต่พี่เพทายน่ะตามจีบฉันมาตั้งแต่ปี 2 แล้ว เขาก็เป็นคนดี ใส่ใจ แถมยังตามจีบฉันมาตั้งนานอย่างมุ่งมั่น อดทนรอให้ฉันเรียนจบก่อนเพราะฉันบอกเขาว่าอยากตั้งใจเรียนให้จบก่อนค่อยคิดเรื่องมีแฟน อาจจะฟังดูหัวโบราณไปหน่อยใช่มั้ยล่ะ? แต่ว่าฉันคิกแบบนั้นจริงๆ เพราะพ่อกับแม่ไว้ใจให้ฉันมาอยู่คนเดียวที่นี่ฉันก็อยากจะรักษาสัญญาทำตัวเป็นลูกที่ดีเรียนให้จบก่อน อีกอย่างฉันก็ยังไม่ได้คิดเรื่องความรักจริงๆ นั่นแหละ
พี่เพทายเองก็เข้าใจในเหตุผลของฉันดี และพอวันที่สอบวันสุดท้ายเขาก็เลยตัดสินใจมาขอฉันคบ ฉันที่เห็นใจในความพยายามของเขาอีกทั้งตัวฉันเองก็ไม่ได้มีใครก็เลยตัดสินใจคบกับพี่เพทายดู จำได้ว่าพอฉันตอบตกลงเขาดีใจจนตะโกนเสียงดังลั่นเลยแหละ
ส่วนเรื่องที่พี่เพทายเป็นดาราดังนั้น ฉันก็ถามเขาแล้วว่าจะไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ย ก็แบบว่าถ้าคบกันแล้วจะต้องมาโดนกีดกันแบบในละครอะไรแบบนั้นฉันก็อาจจะไม่โอเค ไม่ใช่ว่าอยากจะเปิดตัวอะไรแต่แค่ฉันอยากให้ความสัมพันธ์ของเราเป็นไปแบบธรรมชาติมากกว่า ซึ่งพี่เพทายเองก็นั่งยันนอนยันว่าเดี๋ยวนี้ไม่มีปัญหาอะไรแบบนั้นแน่นอน
“เหนื่อยมั้ยครับวันนี้ เดี๋ยวเสร็จจากนี่เราไปหาอะไรทานกันมั้ย?”
“วันนี้ตอนเย็นรินมีนัดกับพ่อแม่แล้วค่ะ ไว้เราฉลองกันวันหลังน้า”
ฉันพูดอย่างเอาใจพี่เพทายซึ่งเขาก็ยิ้มรับอย่างเข้าใจพร้อมกับเอื้อมมือมาเกลี่ยผมที่ชื้นเหงื่อให้ฉันอย่างไม่นึกรังเกียจ แต่แล้วสายตาฉันก็ดันเป็นเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่ถือช่อดอกไม้เดินเข้ามาพอดีเหมือนกัน
“พี่อาทิตย์!” ฉันตะโกนเรียกคนตัวสูงอย่างดีใจพร้อมกับโบกมือให้รับรู้ว่าฉันยืนอยู่ตรงนี้
ก็นึกว่าจะไม่ยอมมาซะแล้ว เพราะตอนที่ฉันโทรไปอ้อนบอกว่าให้มายินดีกับฉันที่เรียนจบหน่อยพี่อาทิตย์บอกว่าติดงานสำคัญพอดี แต่สุดท้ายเขาก็มา พี่อาทิตย์ใจดีกับฉันไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ
“ยินดีด้วยนะ แล้วก็นี่… ของขวัญเรียนจบ”
พี่อาทิตย์พูดพร้อมกับยื่นช่อดอกไม้มาให้ฉันซึ่งฉันก็รับมาอย่างดีใจก่อนจะยื่นมือไปรับถุงของขวัญที่เขาเอามาให้ ดูจากถุงแล้วฉันก็รู้ได้ในทันทีว่าพี่อาทิตย์ให้อะไรเป็นของขวัญ ก็ของชิ้นนี้ฉันเคยบ่นอยู่หลายครั้งว่าอยากได้แต่ก็ไม่อยากขอเงินพ่อแม่มาซื้อเพราะราคามันแรงเอาเรื่อง ไม่คิดว่าพี่อาทิตย์จะซื้อมาให้
ใจป๋าไม่เบาเลยนะเนี่ย!
ตลอดเวลาที่ฉันมาเรียนที่กรุงเทพ ฉันได้เจอกับพี่อาทิตย์อยู่บ่อยๆ เพราะเขามักจะแวะมาหาและพาไปกินข้าวอยู่เสมอ ก็คงจะป้านับนั่นแหละที่ฝากฝังฉันไว้ ตอนนี้พี่อาทิตย์เรียนจบและเข้ามาบริหารงานของครอบครัวอย่างเต็มตัวแล้ว เห็นเขาบ่นให้ฟังอยู่บ่อยๆ ว่างานล้นมือมาก ถึงจะมีผู้ช่วยแต่ก็ใช่ว่างานจะเบาลงเลย
แต่ถึงจะยุ่งแค่ไหนพี่อาทิตย์ก็มาหาฉันอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งเป็นประจำ ถึงจะแอบเกรงใจว่าฉันจะไปรบกวนเวลาพักผ่อนเขาหรือเปล่าแต่เขาก็บอกเองว่าเต็มใจมาเพื่อคอยสอดส่องพฤติกรรมเด็กดื้อแบบฉันแล้วเอาไปรายงานพ่อกับแม่!
ฉันรู้ว่าเขาพูดเล่น แต่ก็แอบหมั่นไส้ไม่ได้อยู่ดี!
“ขอบคุณมากเลยนะคะ ของขวัญถูกใจรินที่ซู้ดดด”
“ที่รักคนนี้คือใครเหรอครับ?” พี่เพทายเดินเข้ามายืนข้างฉันพร้อมกับมองไปที่พี่อาทิตย์ด้วยความสงสัย
“ที่รัก??” ทางด้านพี่อาทิตย์เองก็ขมวดคิ้วด้วยความสงสัยไม่แพ้กัน
ก็แน่ละ… เพราะฉันไม่เคยเล่าเรื่องพี่เพทายให้พี่อาทิตย์ฟังเลยสักครั้ง แล้วพี่เพทายเองก็ไม่เคยเจอพี่อาทิตย์ด้วยเหมือนกัน ก็ตอนนั้นคิดว่าไม่มีความจำเป็นจะต้องแนะนำให้รู้จักกันนี่นา แต่ตอนนี้คิดว่าคงจะทำงั้นไม่ได้แล้วล่ะ
“เอ่อ พี่อาทิตย์คะ… พี่คือพี่เพทายเขาเป็นแฟนของรินเองค่ะ แล้วก็พี่เพทายคะ นี่คือพี่อาทิตย์พี่ชายของรินเองค่ะ เอ่อคือครอบครัวเราสนิทกันมากก็เลยรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแล้วพี่อาทิตย์เองก็เห็นรินเป็นเหมือนน้องสาวแท้ๆ ค่ะ”
“สวัสดีครับ” พี่เพทายทักทายพร้อมกับยื่นมือไปเพื่อทำความรู้จักซึ่งพี่อาทิตย์เองก็ตอบรับแต่โดยดี
“เราไปมีแฟนตั้งแต่เมื่อไร?”
“รินเพิ่งตกลงคบกับพี่เพทายได้ไม่นานนี้เองค่ะ เรียนจบแล้วด้วยตอนที่ตอบตกลงเพราะงั้นห้ามเอาไปใส่ไข่ฟ้องพ่อกับแม่นะคะ” ฉันรีบพูดดักไว้ก่อนถึงแม้จะรู้ว่าพี่อาทิตย์ไม่เคยทำอะไรแบบนั้นก็ตาม
หลังจากนั้นพี่อาทิตย์ก็อวยพรฉันนิดหน่อยก่อนที่จะขอตัวกลับไปก่อนเพราะเขาบอกว่าติดงานแต่แค่แวะมาหาฉันก็เท่านั้น
เห็นมั้ยล่ะ… ใครจะใจดีกับฉันได้เท่าพี่อาทิตย์อีกกัน
--------------------------------------
--------------------------------------
ใครจะใจดีได้เท่าพี่อาทิตย์ แล้วตอนนี้ใครจะหน้าแห้งได้เท่าพี่อาทิตย์ด้วยจ้าสาว!
แอบสงสารตาพี่อาทิตย์เหมือนกันนะ หุหุ~ ก็มัวแต่ชะล่าใจก็ต้องเจอคนแย่งคบตัดหน้าไปก่อนแบบนี้แหละ
คราวนี้จะทำไงต่อละอีพี่...