แคทเธอรีน เลขาฯ ประจำหน้าห้องของไทเรลล์ต้องเลิกคิ้วที่อยู่เหนือแว่นตาหนาเตอะขึ้นสูงด้วยความแปลกใจ เมื่อเห็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลเดินออกไปจากห้องของเจ้านายตัวเอง
“คุณหมอจะรับพนักงานใหม่เหรอคะ” หล่อนจึงอดที่จะเอ่ยถามไม่ได้
“เปล่าหรอก ผมก็แค่เรียกคุณสมควรมาคุยเรื่องของพนักงานทำความสะอาดเมื่อเช้านี้น่ะ ชื่ออะไรนะ ผมลืม...”
“งามระยับค่ะ”
“นั่นแหละ เรื่องของงามระยับ”
น้ำเสียงของไทเรลล์ราบเรียบ แต่แคทเธอรีนเลขาฯ ที่เป็นคนของมารดาของไทเรลล์อดที่จะสงสัยต่อไม่ได้
“ว่าแต่คุณหมอเรียกผู้จัดการมาคุยเรื่องแม่งามระยับทำไมล่ะคะ หรือว่าจะไล่ออก โทษฐานที่วิ่งไม่ดูตาม้าตาเรือมาชนคุณหมอ”
ศีรษะทุยได้รูปสวยของไทเรลล์ส่ายเล็กน้อย และเผยรอยยิ้มให้กับคู่สนทนาเมื่อตอบออกมา
“ไม่ใช่หรอก”
“อ้าว แล้วเรียกมาทำไมคะ...” แคทเธอรีนยังไม่หยุดสงสัย
“ผมแค่สั่งไม่ให้คุณสมควรตัดเบี้ยขยันของงามระยับน่ะ เธอไม่ใช่คนผิด ผมเป็นคนเดินไปขวางทางของเธอเอง”
“คุณหมอ?”
แคทเธอรีนเบิกตากว้างไม่เห็นด้วย รู้อยู่ว่าไทเรลล์เป็นคนใจดี แต่ก็ไม่ควรจะใจดีพร่ำเพรื่อแบบนี้
“ผมทำผิดหรือคุณแคท”
“ก็...ไม่ผิดหรอกค่ะ แต่ไม่ควรใจดีกับพนักงานแบบนี้ อีกหน่อยก็คงจะมาสายกันทั้งโรงพยาบาลหรอกค่ะ”
“ผมรู้ว่าอะไรเป็นอะไร เรื่องไหนควรผ่อนปรน เรื่องไหนควรตึง ไม่อย่างนั้นผมคงบริหารที่นี่ไม่ได้หรอก จริงไหมคุณแคท”
“เอ่อ...”
แคทเธอรีนหน้าเจื่อน เมื่อถูกไทเรลล์ต่อว่าด้วยน้ำเสียงนิ่มนวลแต่เจ็บไม่น้อย
“แล้วหวังว่าเรื่องนี้คุณแม่ผมคงจะไม่ทราบนะครับ”
“เอ่อ...”
“ผมรู้ว่าคุณรายงานท่านทุกอย่าง แต่ถ้าผมสั่งว่าอย่าพูด คุณก็ต้องไม่พูด เพราะผมเป็นนายจ้างสายตรงของคุณ และผมก็เป็นคนจ่ายเงินเดือนให้คุณ ใช่ไหมครับคุณแคท”
แคทเธอรีนไม่มีทางเลือก จำต้องตอบรับด้วยการตกลง “ค่ะ คุณหมอ”
ไทเรลล์ระบายยิ้มพึงพอใจ ก่อนจะเอ่ยถาม “ว่าแต่คุณมีอะไรกับผมหรือ ถึงเข้ามาหาน่ะ”
“เอ่อ มีบริษัทยาจะมาเสนอขายยาตัวใหม่ค่ะ แคทก็เลย...”
“ให้ทำเอกสารยื่นเรื่องเข้ามา แล้วนัดประชุมกับคุณหมอท่านอื่นด้วย”
“ค่ะ คุณหมอ”
“ทำตามที่ผมบอกก็แล้วกัน”
แคทเธอรีนยิ้มเจื่อนๆ ตลอดเวลา ก่อนจะค่อยๆ ถอยหลังและก้าวออกไปจากห้องทำงานของไทเรลล์เงียบๆ
คนตัวโตที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ทอดถอนลมหายใจออกมาเบาๆ เขาอึดอัดไม่น้อยที่มารดาซื้อตัวพนักงานใกล้ชิดของเขาเอาไว้ทุกคน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อท่านคือบุพการี
ปากกาด้ามทองในมือหมุนไปมา ก่อนที่ริมฝีปากหยักสวยจะระบายยิ้ม เมื่อนึกถึงดวงตากลมโตของแม่บ้านทำความสะอาดคนนั้นยามที่เงยหน้าขึ้นมาแล้วเห็นเขา
“ฉันรู้ว่าเงินสำคัญกับเธอมาก ดังนั้นฉันไม่ทำให้เธอสูญเสียรายได้เพราะความต้องการของฉันหรอก”
เขาระบายยิ้มมากขึ้น เมื่อนึกย้อนไปถึงตอนที่ตัวเองยืนอยู่ที่ซอกเสา ปากของเขาคุยกับแคทเธอรีนเรื่องงาน แต่สายตาของเขาจับจ้องไปที่ร่างเล็กที่วิ่งกระหืดกระหอบมุ่งหน้าไปยังเครื่องสแกนบัตรตลอดเวลา และเมื่อหล่อนมาถึง เขาก็ตัดสินใจก้าวไปขวางหน้าเอาไว้ ร่างเล็กปะทะมาเต็มแรง เขาตั้งใจจะคว้าหล่อนเอาไว้ในอ้อมแขน แต่ไม่ทัน หล่อนจึงร่วงลงไปกองกับพื้น และน่าจะเจ็บมาก เขาขอโทษขอโพยหล่อนอยู่ในใจหลายครั้ง
ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืน เดินไปหยุดที่หน้าต่างที่เป็นกระจกใส มองออกไปยังทิวทัศน์ด้านนอก
กี่ปีมาแล้วนะที่เขาเฝ้ามองหล่อนทุกฝีก้าว กี่ปีมาแล้วนะที่เขาต้องละสายตาจากงานในมือยามที่รถเคลื่อนผ่านป้ายรถเมล์เพื่อมองหล่อน ผู้หญิงที่ทำให้เขารู้สึกสดใสทุกเช้าที่ได้มองเห็น
งามระยับไม่ได้สวยเด่น แต่หล่อนมีเอกลักษณ์ประจำตัวที่ทำให้เขาหยุดมองไม่ได้เลย
อาจเป็นลักยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากทั้งสองข้างของหล่อน หรือไม่ก็คงเป็นดวงตากลมโตที่มักจะเบิกกว้างตื่นเต้นกับสิ่งรอบๆ ตัวเสมอ หรือไม่งั้นก็คงเป็นริมฝีปากอวบอิ่มที่ทุกคนอาจจะมองว่าหนาเกินไป แต่สำหรับเขาเรียวปากคู่นั้นช่างน่าบดขยี้เป็นที่สุด
รอยยิ้มพึงพอใจระบายบนหน้าหล่อจัดของไทเรลล์ เมื่อในหัวเต็มไปด้วยภาพของงามระยับมากมาย
“ฉันต้องพยายามมากสักแค่ไหนกันนะ ถึงจะมีความกล้าพอที่จะจีบเธอ แม่สาวขี้งก”