ตอนที่ 1 ฟลินต์
“พาฝันไม่ให้ฟลินต์มีแฟน ถ้าฟลินต์มีแฟนพาฝันจะไม่พูดกับฟลินต์ จะไม่มองหน้า จะโป้ง โป้งเหมือนตอนนี้ โป้งๆๆๆๆๆๆ”
“พาฝันอยากถ่ายพรีเวดดิ้งกับฟลินต์”
“ถ้าพาฝันโตเท่าคุณแม่ พาฝันจะถ่ายพรีเวดดิ้งกับฟลินต์”
“ถ้าฟลินต์ผมขาวเหมือนคุณทวด พาฝันก็ยังจะแต่งงานกับฟลินต์ พาฝันจะดูแลฟลินต์เอง”
“ฟลินต์ต้องสัญญากับพาฝันก่อนว่าจะรอพาฝันโตเท่าคุณแม่ ฟลินต์ห้ามแต่งงานกับคนอื่น ถ้าฟลินต์แต่งงานกับคนอื่นพาฝันจะโป้ง โป้งเยอะๆ ด้วย”
ภาพของเด็กหญิงตัวน้อยแก้มป่องในช่วงวัยสี่ขวบเข้ามาในห้วงความคิดของผู้ดูแลกาสิโน กาสิโนที่ทันสมัย และครบวงจรที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ณ มาเก๊า ธุรกิจที่สร้างเม็ดเงินมหาศาลในเครือแทนไท คอร์ปอเรชั่น ฟลินต์ คือผู้ที่ได้รับความไว้วางใจจากครอบครัวแทนไท ให้อิสระในการบริหารจัดการได้อย่างเต็มที่ และเขาก็ทำมันได้ดีเสมอมา จนตอนนี้ก็ผ่านมาสิบเจ็ดปีแล้ว
ฟลินต์ยังคงรักษาคำสัญญาที่ให้ไว้กับพาฝัน แม้อายุของเขาจะล่วงเลยเข้าเลขสี่แล้ว ไม่ใช่ว่าเขาจะรอเด็กน้อยเติบโตแล้วมาเป็นเจ้าสาวของเขา แต่เขาทำตามสัญญาเพื่อความสบายใจของเจ้านายตัวน้อยที่เขารักและภักดี บัดนี้คุณหนูของเขาเป็นสาวสวยสะพรั่ง เรียนจบปริญญาตรีแล้ว และกำลังเดินทางมาเรียนต่อปริญญาโทที่นี่ ความรู้สึกของเขาที่มีก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง พาฝันยังเป็นเจ้านายตัวน้อยที่น่ารักน่าเอ็นดู และไร้เดียงสาของฟลินต์เสมอ แต่ความจริงแล้วเขาไม่อยากให้เธอมาเรียนที่นี่เลย…
เอี๊ยดดดดด!!
จู่ๆ รถที่ฟลินต์นั่งมาก็เสียหลักหมุนวนเป็นวงกลม ก่อนที่จะกระแทกกับแนวกั้นข้างทาง
“เป็นอะไรไหมครับบอส” หรงซิ่งที่นั่งคู่คนขับเอ่ยถาม
“ขอโทษครับบอส มีคนยิงล้อรถเรา” หมิงยู่คนขับรถ และควบตำแหน่งมือซ้ายของฟลินต์เอ่ยขึ้น
“มันรู้ได้ไงว่าวันนี้ฉันจะผ่านทางนี้” ฟลินต์เอ่ยเสียงเข้ม พร้อมหยิบปืนออกจากที่ซ่อน กระชับมันไว้แน่น
“รถอีกคันที่เราใช้เป็นเป้าล่อก็โดนซุ่มยิงเหมือนกันครับ” หรงซิ่งรีบตรวจสอบ แล้วรายงานผู้เป็นนาย
“มันคงหว่านแห” ฟลินต์สรุป และเพียงชั่วอึดใจเสียงไรเฟิลเจาะเข้าตำแหน่งคนขับ แต่กระสุนไม่สามารถทะลุผ่านเข้ามาได้ เนื่องจากรถเป็นรถกันกระสุนทั้งคัน ตามด้วยนัดที่สองเจาะเข้าตำแหน่งเดิม กระสุนยังไม่สามารถทะลุผ่านเข้ามาได้ แต่นัดที่สาม…
“หมอบ” ฟลินต์สั่งลูกน้องในรถให้หมอบต่ำ เป็นไปดังคาด กระสุนทะลุกระจกในตำแหน่งศีรษะคนขับพอดี
“เกือบไปแล้ว” หมิงยู่ลูบหน้าอกตัวเองอย่างรู้สึกใจหาย ก้มศีรษะลงต่ำกว่าเดิม
“เอาไงดีครับบอส” หรงซิ่งถาม
“คนของเราจะมาถึงเมื่อไร” ฟลินต์ถามท่ามกลางเสียงไรเฟิลที่กระหน่ำยิงเข้ามาไม่หยุด
“สิบนาทีครับ” หรงซิ่งบอกหลังจากส่งสัญญาณฉุกเฉิน และแจ้งพิกัด
“นานเกินไป จับทิศทางของกระสุน” หากรอเวลานานขนาดนั้น ไรเฟิลต้องเจาะทะลุกระจกกันกระสุนได้อีกหลายตำแหน่ง มีหวังได้ตายกันในรถแน่ เขาสั่งลูกน้อง กระสุนมาจากสามทิศทาง แต่จากประสบการณ์สอนให้เขารู้ว่ามันอาจจะมีมากกว่านั้น
ฟลินต์ค่อยๆ เปิดประตูรถออก เคลื่อนไหวร่างกายอย่างเชื่องช้าในความมืด ส่วนประตูรถด้านหน้าหรงซิ่งกับหมิงยู่ก็ค่อยๆ แทรกตัวออกมาอย่างเชื่องช้า และเงียบที่สุดเช่นกัน แต่ก็ไม่อาจรอดพ้นเมื่อคนร้ายมองเห็นพวกเขาผ่านความมืดด้วยด้วยกล้องอินฟาเรด และกระสุนเป้าหมายก็เฉียดศีรษะของฟลินต์ไปกระแทกที่ประตูรถด้านหลังเข้าอย่างจัง
ฟลินต์ยิงสวนออกไปสองนัดตามทิศทางของกระสุนที่พุ่งมา เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้น ก่อนจะตามด้วยเสียงของหนักตกกระแทกลงบนพื้น ทั้งสามคนวิ่งไปหลบหลังพุ่มไม้ข้างทางใกล้กับรถที่โดนยิงจนยางแบนทั้งสี่ล้อจนไม่สามารถขับต่อไปได้
จากที่คาดคะเนว่าคนร้ายน่าจะมีสามคน ฟลินต์จัดการไปแล้วหนึ่งคน ยังเหลืออีกสอง แต่ก็ไม่สามารถไว้ใจได้ อาจจะมีคนที่สี่หลบซ่อนตัวอยู่อีก เพื่อคอยเก็บกวาดหากคนก่อนหน้าทำงานพลาด มือใหญ่คว้าก้อนหินที่อยู่ในบริเวณนั้นขึ้นมาแล้วโยนออกไปเพื่อล่อเป้า เสียงปืนดังขึ้นสองนัดจากคนละทิศทาง
“ยิง!” น้ำเสียงเย็นยะเยือกสั่งการไม่ดังและไม่เบาจนเกินไปให้ลูกน้องทั้งสองที่เล็งปืนไปยังคนร้ายตามทิศทางของกระสุนเมื่อครู่นี้ ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ คนร้ายทั้งสองถูกจัดการ ฟลินต์ทำตามแผนเดิมอีกครั้ง มีคนร้ายคนที่สี่จริงๆ และถูกจัดการด้วยฝีมือของเขาเอง
“พวกมันถูกเราจัดการหมดแล้วครับบอส”
“หมิงยู่!” ฟลินต์ถลาคว้าตัวของลูกน้องที่ก้าวออกไปดูลาดเลาเมื่อเหตุการณ์สงบลง ผิดไปจากที่คาดคะเน คนร้ายคนที่ห้าปรากฏตัว กระสุนพุ่งเป้ามาที่หมิงยู่ ทั้งสามคนกดตัวลงต่ำ
เสียงปืนดังสนั่นหลายนัดติดต่อกัน ไม่รู้ว่ามาจากทิศทางใดบ้าง และใครเป็นคนยิง จนกระทั่งเสียงปืนสงบลงจึงหยัดกายยืนขึ้น สายตาคมมองเห็นลูกน้องหลายสิบคนที่ลงจากรถจำนวนห้าคันที่จอดหันหน้ามาทางเขา ไฟหน้ารถสาดส่องให้ความสว่าง ทั้งหมดวิ่งกรูกันเข้ามายืนล้อมเป็นกำแพงมนุษย์สองชั้น
“ผมขอโทษครับบอสที่ไม่ระวัง” หมิงยู่ก้มหัวให้ผู้เป็นนายด้วยความรู้สึกผิด
“ช่างมันเถอะ…โอ๊ะ!” ฟลินต์ไม่ได้นึกเคืองโกรธลูกน้องแต่อย่างไร ฝ่ามือใหญ่ยกขึ้นจับไหล่ซ้ายของตนและเผลออุทาน
“โดนยิงหรือครับบอส” หรงซิ่งแหวกกำแพงลูกน้องเข้ามา เพราะเสื้อที่ผู้เป็นนายสวมอยู่สีดำสนิท ถ้าไม่สังเกตดีๆ จะมองไม่เห็นรอยเลือดวงใหญ่นั้น
“อืม” ฟลินต์ตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยไร้ร่องรอยความเจ็บปวด ก่อนจะก้าวเดินขึ้นไปบนรถ