วันนี้ฉันแต่ตัวเต็มยศ สวยเริดมาดมั่น มั่นอกมั่นใจ ฉันลากกระเป๋าสุดหรูของพี่หมอกออกมาจากห้องข้างในมีแต่เสื้อผ้า
ส่วนพวกพาสปอร์ตฉันไปทำกับยัยน้ำฝนหลายวันแล้วค่ะแล้วก็ผ่านแล้วด้วย ถึงแม้ว่าฉันจะไม่เคยไปเมืองนอก แต่ภาษาของฉันก็ไม่ได้แย่จนสื่อสารกับใครไม่ได้นะคะ
ฉันสามารถสื่อสารกับฝรั่งได้แบบ Snake Snake Fish Fish น่ะค่ะ ถ่อมตัวเอาไว้ทั้งที่ฉันโคตรจะเก่ง (พูดภาษาอังกฤษสำเนียงอีสานอ่ะ) แต่ระดับน้ำค้างซะอย่างสวยมั่นอกมั่นใจแค่ฉีกยิ้มให้ผู้ชายก็หลงใหลแล้วค่ะฮ่าๆๆ (ไม่ค่อยหลงตัวเองเลยนะเมิงงงงง5555)
“แต่งตัวอะไรเนี่ย ดูชุดซิหนามากทำยังกะจะไปขั้วโลกเหนือ ไปแค่ภูเก็ตภูเก็ตไม่มีหน้าหนาวน้ำค้าง” เสียงพี่สาวของฉันเอ่ยขึ้นในขณะที่ฉันกำลังลากกระเป๋าสุดหรูเดินออกมาจากบ้าน
“แหม่พี่หมอก น้ำค้างเห็นชุดมันหนาดีน้ำค้างก็เลยลองใส่ดู ใส่แล้วก็ดูเหมือนสาวเกาหลีไม่น้อยเลยใช่ไหม?”
“เกาลงเกาหลีอะไร? หน้าแกเหมือนจิ้งจกหาวเข้าไปทุกวัน” พี่ฉันนี่ปากคอเราะร้าย เอาฉันไปเปรียบเทียบกับจิ้งจกร้ายกาจชะมัด ฉันออกจะสวยขนาดนี้มองด้านข้างเหมือนมีนพีชญา มองข้างหน้าเหมือนแต้วณฐพร หุ่นฉันก็สวยเหมือนอั้มพัชราภา สวยกว่าฉันไม่มีแล้วค่ะฉันมันคนสวยมากๆ ถึงแม้ว่าความเป็นจริงก็รู้อยู่เต็มอกว่าไม่ได้สวยเท่าไหร่หรอกฮ่าๆๆ
“พี่หมอกอะ” ฉันหน้าหงิกงอ พร้อมกับค้อนพี่สาว พี่หมอกถึงกับหัวเราะออกมากับท่าทางของฉันค่ะ
“จะไปเที่ยวภูเก็ตแล้วมีเงินหรือเปล่าล่ะ?” เออจริงสิ! มันต้องใช้เงินนี่นา แล้วไปที่สวีเดนมันน่าจะใช้เงินเยอะส่วนพวกตั๋วเครื่องบินก็ไม่แพงเท่าไหร่หรอกค่ะยัยน้ำฝนจัดแจงให้ฉันเรียบร้อยแล้ว
แต่เงินที่ฉันจะไปกินไปอยู่ที่โน่นสิมันต้องเอาไปด้วยเผื่อฉันกับคุณพายุไม่ได้เจอกันง่ายๆฉันก็ต้องมีเงินสำรองเอาไว้กิน ถึงแม้ว่าเพื่อนของฉันจะรวยแต่ฉันก็ไม่จำเป็นต้องใช้เงินมันเพราะพี่เขยของฉันรวยเหมือนกันค่ะ มีพี่เขยรวยเอาไว้ให้เกาะแดกก็ต้องเกาะสิคะฉันมันคนชอบเกาะอยู่แล้วก็พี่เขยแดกค่ะฮ่าๆๆ
“ไม่มี”
“นี่บัตรรูด ส่วนเงินในบัญชีพี่ปั้นจั่นโอนเข้าให้เรียบร้อยแล้ว”
“เท่าไหร่คะ”
“พี่ไม่รู้หรอกนะว่าเป็นเงินจำนวนเท่าไหร่ แต่พี่ปั้นจั่นบอกว่าโอนให้น้ำค้างแล้ว น้ำค้างก็ไปเช็คดูแล้วกันว่าพี่ปั้นจั่นให้เท่าไหร่” พี่สาวของฉันยื่นบัตรให้พร้อมกับพูดแบบนี้ เริ่ดมากเลยค่ะ มีพี่เขยที่ดีและสนับสนุนแบบนี้ถ้าได้คนพายุเป็นผัว น้ำค้างจะมากราบเบญจางคประดิษฐ์เลยค่ะ ผู้สนับสนุนการเอาผัวของน้ำค้างอย่างเป็นทางการ
“ขอบคุณค่ะ พี่หมอกฝากบอกพี่ปั้นจั่นด้วยนะ ว่าน้ำค้างขอบคุณที่สุดถ้าน้ำค้างกลับมาจากเที่ยวแล้วน้ำค้างจะมากราบงามๆเลยค่ะ”
“จ้า เดินทางปลอดภัยนะหัดระวังตัวไว้บ้าง เป็นผู้หญิงอย่าเที่ยวไปไว้ใจคนอื่นให้มาก บางคนรู้หน้าไม่รู้ใจยังไงก็ระวังตัวไว้ดีที่สุด”
“ค่ะพี่”
“ให้น้าคมสันไปด้วยไหม? จะได้มีคนคอยดูแลเผื่อมีปัญหาอะไรน้ำค้างจะได้ มีคนคอยช่วยอยู่ข้างๆ” ม่ายยย น้าคมสันไปด้วยก็จะไปเป็น กขค ที่ย่อมาจากกองขี้ควายสิคะ
แค่ยัยน้ำฝนไปด้วยกันฉันก็คิดหนักแล้ว ถ้าไม่ติดว่ายัยน้ำฝนช่วยฉัน เพราะฉันไม่เคยไปสวีเดนสักครั้ง ที่จริงฉันไม่อยากให้ยัยน้ำฝนไปด้วยหรอกค่ะ เพราะไม่อยากให้ใครไปขัดขวางความสุขของฉันกับคุณพายุ แต่ฉันไปไม่เป็นเลยตั้งพึ่งมัน
“ไม่ค่ะ” ฉันส่ายหน้าปฏิเสธทันทีเรื่องอะไรฉันจะให้น้าคมสันไปด้วยล่ะ ไม่มีทางเด็ดขาด
“น้าเองก็ไม่ว่างครับคุณม่านหมอก พอดีน้าต้องไปทำธุระให้กับคุณหนู คุณน้ำค้างโตแล้วน้าว่าคุณน้ำค้างไปเที่ยวเองจะดีกว่า ใช่ไหมครับคุณน้ำค้าง” น้าคมสันจ้องหน้าฉันพร้อมกับขยิบตาให้ฉัน ให้มันได้อย่างนี้สิ! รักน้าคมสันก็ตรงนี้แหละ ท่านช่วยเหลือทุกอย่างเลยแม้กระทั่งไม่ติดสอยห้อยตามฉันไป และหาทางออกให้เป็นอย่างดีโคตรรักเลยค่ะ
“อ๋อค่ะ แล้วจะพากันไปแบบไหนขับรถไปหรือว่านั่งเครื่องไป”
“นั่งเครื่องค่ะ”
“งั้นก็ไปเถอะ เดี๋ยวจะตกเครื่องเอาเดินทางปลอดภัยนะ”
“ค่ะ” ฉันพยักหน้าพร้อมกับสวมกอดพี่สาว ก่อนจะลากกระเป๋าเดินทางไปที่รถสปอร์ตสุดหรูของตนเองด้วยหัวใจที่ลิงโลดค่ะ อีกไม่นานหรอกฉันก็จะได้เจอว่าที่สามีแล้ว
ฉันขับรถไปจนกระทั่งถึงบ้านของยัยน้ำฝนค่ะ ซึ่งมันก็รอฉันอยู่แล้ว ฉันจอดรถไว้แล้วเอากระเป๋าลง ลากไปหามัน
“ไปกันเถอะ”
“กูหิวว่ะ”
“เดี๋ยวไปซื้อไรกินกันบนรถ ลุงเสริมขับรถไปส่งฝนหน่อย”
“ครับคุณหนู”
“ไปแล้วนะแม่”
“เดินทางปลอดภัย ฝากบอกพี่น้ำเหนือด้วยนะว่าแม่คิดถึง”
“ค่ะ”
“น้ำค้างไปแล้วนะคะแม่น้ำจันทร์” ฉันยกมือไหว้ท่าน
“จ้า”
“ไปกันเลย!” ฉันรีบลากกระเป๋าของตัวเองไปขึ้นรถโดยที่มีลูกน้องของยัยน้ำฝนช่วยจัดแจงขนขึ้นรถให้ค่ะ
“จอดรถซื้อของกินด้วยนะลุงเสริม”
“ครับคุณหนู” รถหรูขับเคลื่อนออกไปอย่างรวดเร็วลุงเสริมจอดซื้อพวกขนมทุกอย่างที่ฉันอยากกินไปตลอดทางเลยค่ะ และแน่นอนคนอย่างน้ำค้างก็สวาปามไปตลอดทั้งทางเหมือนกัน กินจนอิ่มแปล้เลยค่ะ กินเน้นๆกินแบบจุกๆไปเลย
“อีห่า ปอบลงมึงเหรอแดกซะ!”
“เอิ้ก! ก็มันอร่อยอะ” ฉันเรอพร้อมกับพูดออกมา
“กูเห็นสภาพมึงเป็นแบบนี้ถ้ากูเป็นลุงนะพายุกูไม่เอามึงเป็นเมียหรอกทุเรศมาก”
“อีสัส! กูบอกว่าไม่ให้เรียกลุง!”
“โถ! อีเพื่อนเวร!”
ผ่านไป30นาที รถก็วิ่งไปถึงสนามบินค่ะ เมื่อทำการเช็คอินเรียบร้อยแล้ว เราจะได้ Boarding Pass ที่ใช้ในการเดินทาง ตรวจสอบข้อมูลให้เรียบร้อยและเข้าสู่ขั้นตอนในการสแกนสัมภาระ โดยจะมีสิ่งของต้องห้ามในการถือขึ้นเครื่องบินคือ ห้ามนำของเหลวถือขึ้นเครื่องเกินชิ้นละ 100 ml รวมกันไม่เกิน 1000 ml และห้ามนำของมีคม วัตถุไวไฟ อาวุธ ถือขึ้นเครื่อง เช่น กรรไกร มีด ฯลฯ ขึ้นโดยเด็ดขาดรวมไปถึงห้ามนำ Power Bank ใส่กระเป๋าเดินทางโหลดใต้ท้องเครื่อง แต่สามารถใส่กระเป๋าถือขึ้นเครื่องได้ บลาๆ หลายอย่างถ้าให้ร่ายมาหมดคงยาวเป็นกิโลค่ะ อธิบายไม่หมดหรอก พอขึ้นเครื่องเท่านั้นแหละค่ะงานเข้าเลย
“อีฝน” ฉันสะกิดมันค่ะ มันนั่งเบาะข้างๆฉัน ตอนนี้ฉันเวียนหัวและพะอืดพะอมมาก พวกขนมต่างๆตีขึ้นมาจนถึงคอหอยแล้วค่ะ ตอนนี้ฉันเมาเครื่องบิน
“อะไรของมึง” มันเสียบหูฟังๆเพลง นี่มันโคตรถึกเลยค่ะ มันไม่เมาเครื่องเหมือนฉัน
“มีถุงไหม?”
“ถุงส้นตีนไรของมึง” มันถอดหูฟังออกข้างนึงพร้อมกับจ้องหน้าฉันตอนนี้ฉันหน้าซีดเผือดพร้อมกับเหงื่อไหลออกมาจนชุ่มไรผม
“ถุงๆ กูจะอ้วก!”
“ไปห้องน้ำด่วนสิอีผี”
“พากูไปหน่อย อึก” ฉันตอนนี้เหมือนหมาขย้อนอ้วกอ่ะค่ะ มันรีบปลดเข็มขัดพาฉันไป พอไปถึงแค่นั้นแหละค่ะ
“อ้วก! แหวะ!”
“โอ้ยอีเวรเอ้ย!” มันสบถพร้อมกับลูบหลังให้ฉัน ฉันอ้วกออกมาหมดไส้หมดพุงเลยค่ะ
“แฮ่กๆ” ฉันเช็ดปากตัวเองหลังจากอ้วกจนหมดแรง
“ไหวไหม?”
“ไหวสิ แต่อาการเมาเครื่องแม่งโคตรทรมาน” ฉันพูดพร้อมกับเดินกับมาที่นั่งของตนเอง
“มึงร่านอยากไปหาเขาเอง อีบ้านนอก”
“ทรมานกูก็ยอม ไฟร่านกูมันพร้อมปลดปล่อยออกมาแล้ว”
“ปากดี”
“มียาดมยาหม่องไหม?”
“อีสัสกูไม่มี มึงนี่ภาระเน้นๆเลย”
“อีเพื่อนเวร!”