บทที่ ๒ เมิ่งถิงเซ่อ(๒)

1111 คำ
จะว่าไปคืนวันสิ้นปีของยุคนี้ไม่ได้แตกต่างจากยุคที่นางจากมามากนัก พอนึกถึงภาพวันส่งท้ายปีในชาติภพของตน วราลีในร่างเมิ่งถิงเซ่อถ้าไม่ทอดถอนใจให้มากสักหน่อยคงผิดวิสัยยิ่งนัก แต่พอดึงรั้งตัวเองกลับมา ก็เอาแต่ยืนทอดสายตามองไปยังเรือนสามชั้นหลังใหญ่ที่สว่างไสวไปด้วยโคมแดง โคมแดงสาดแสงวาบหวาม เนื้อหญิงงามยามต้องแสงชวนหลงใหล รั้งสายตากลับก็พบว่าเสี่ยวชุนยกขนมที่ทางเรือนครัวแบ่งมาให้ นับตั้งแต่มาอยู่กับนางที่เรือนชิงเถา อาการคงดีขึ้นไม่น้อย จากพูดไม่กี่คำก็พูดเป็นประโยคยาวขึ้น ทว่าถึงจะเป็นเช่นนั้นก็ยังมีบางเวลาที่อาการกำเริบ ปวดหัวจนต้องกรีดร้องออกมา หนำซ้ำยังไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ก็ไม่เคยทำให้สายตาที่เมิ่งถิงเซ่อทอดมองแปรเปลี่ยนเลยแม้แต่น้อย เมื่อเห็นเสี่ยวชุนวางขนมลงจึงเดินไปหยิบเอาเทียนเล็กเล่มหนึ่งมาปักบนขนม มือทั้งสองข้างประกบกันในท่วงท่าขอพร หลับตาร้องเพลงสวัสดีปีใหม่ในชาติภพที่จากมาแล้วเป่าเทียนดับ อีกฝ่ายมองแล้วหรี่ตาลง พึมพำถามว่า “คุณหนูทำอะไรเจ้าคะ” “เป่าเทียน” นางบอกด้วยแววตาสงบ แต่ประกายตาคล้ายจะทอด้วยแสงมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวชัดเจน “เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ และก็เริ่มต้นปีแรกของการมาอยู่ยุคนี้” แน่นอนว่าประโยคท้ายเมิ่งถิงเซ่อไม่อาจกล่าวให้เสี่ยวชุนได้ยิน และก็ไม่อาจให้ผู้อื่นได้ยินด้วย หลังเป่าเทียนกินขนมเรียบร้อยแล้วพลันหลุบตาลงครุ่นคิด ไม่รู้ว่าที่นั่นจะเป็นเช่นไรบ้าง จะมีคนรู้หรือไม่ว่านักแสดงสาวนามว่า วราลีอย่างตนไม่ได้อยู่ที่นั่น ไม่ได้ร่วมนับถอยหลังในวันสิ้นปีร่วมกับครอบครัว พ่อแม่พี่น้อง เพื่อนนักแสดง พวกเขาจะนึกถึงบ้างหรือไม่ ตัวนางที่อยู่ทางนี้คิดถึงบ้าน คิดถึงพี่น้องมากมายเหลือเกิน ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือในยามนี้แม้ไร้ซึ่งน้ำตา แต่ใครจะรู้ว่าภายในอกกำลังหลั่งน้ำตาออกมามากมายเพียงใด เห็นคุณหนูเงียบ ก็ได้แต่นึกว่าคุณหนูคงคิดถึงฮูหยิน หรือไม่คงคิดถึงบิดาที่เป็นถึงท่านโหว มือบอบบางแห้งกรังราวกับใบไม้ขาดน้ำจึงแตะหลังมือของเมิ่งถิงเซ่อเบาๆ แววตาที่เมิ่งถิงเซ่อสัมผัสได้จากเด็กคนนี้จึงเต็มไปด้วยความเจ็บปวด สงสารยิ่ง เห็นแล้วก็ได้แต่เม้มปาก แม้จิตใจจะไม่ปกตินักแต่กลับรู้ว่าควรปลอบโยนนางเช่นใด “เจ้าอย่าห่วงเลย ข้าไม่เป็นอะไร และในภายภาคหน้าเจ้าก็จะไม่เป็นอะไรเช่นกัน” จะว่าไปแล้วชะตาชีวิตของทั้งสองล้วนไม่แตกต่างกันเลยสักนิด ทั้งคู่คนเป็นคนที่จอมยุทธ์หญิงเมิ่งหรูถิงดูแล คนหนึ่งเป็นบุตรสาว คนหนึ่งเป็นสาวใช้ พอเมิ่งหรูถิงจากไปเสี่ยวชุนก็ถูกทำร้ายจนป้ำๆ เป๋อๆ ส่วนร่างนี้กลายเป็นคนบ้าที่มีกำลังภายในล้ำเลิศ หลังจากจอมยุทธ์หญิงตายไปแล้ว ชีวิตของพวกนางล้วนได้ท่านตาหวงซวนเป็นผู้ดูแล นางเม้มปากแน่น วันข้างหน้าไม่ว่าจะเดินไปทิศทางไหน ย่อมต้องพึ่งคำชี้แนะจากท่านตาทั้งสิ้น เห็นคุณหนูนิ่งเงียบก็ไม่พูดอะไรอีก เอาแต่ยืนอยู่ด้านข้างอย่างสงบเสงี่ยม แต่ภายในใจลึกๆ ยังอยากให้คุณหนูไปจวนเจิ้นหยางโหวสักครั้ง เพราะความหวังเดียวที่ฮูหยินต้องการก่อนจากไปคือ ให้คุณหนูกลับไปหาท่านโหว ใช้ชีวิตเป็นคุณหนูใหญ่อย่างสุขสบาย ไม่ต้องลำบากลำบนอยู่ข้างนอก แต่หลังจากคุณหนูคลอดกระทั่งฮูหยินจากไป ที่ผ่านมาไม่ว่าฮูหยินจะพยายามเพียงใดล้วนไม่อาจทำความหวังนี้ ถึงเมิ่งถิงเซ่อจะไม่รู้ว่าเสี่ยวชุนกำลังคิดหรือรู้สึกเช่นใด แต่รู้ว่าลึกๆ แล้วมารดาของร่างนี้ย่อมต้องปรารถนาให้คืนสู่ฐานะคุณหนูใหญ่จวนเจิ้นหยางโหว มองไปถ้วนทั่วแผ่นดิน จะมีแม่คนใดไม่คิดเผื่อลูกในไส้ของตนบ้าง ดังนั้นที่พึ่งพิงสุดท้ายคงจะเป็นบิดาของร่างนี้ ต่อให้สถานที่อย่างจวนเจิ้นหยางโหวจะเป็นถ้ำเสือแดนมังกรก็ตามที นางสูดหายใจ พิจารณาสภาพร่างกายของตนเองให้ถี่ถ้วน ตั้งแต่วันแรกที่ได้รับการรักษาจากท่านตา จนกระทั่งถึงทุกวันนี้เรียกได้ว่าร่างกายดีขึ้นไม่น้อย ความร้อนแผดเผาภายในร่างหายไปจนแทบเป็นปกติ เหลือแค่เพียงรูปลักษณ์หญิงบ้าที่ต่อให้ใจกล้าเพียงใดก็ยังไม่สามารถทำลายลงได้ จะให้ทำลายลงง่ายๆ ได้อย่างไร ในเมื่อที่นี่หาใช่สถานที่ควรเปิดเผยความงามไม่ ดังนั้นเส้นผมจึงยังคงยุ่งเหยิง ใบหน้าแต้มขี้เถ้าบางเบา คงมีเพียงร่างกายแขนขาที่มีน้ำมีนวลมากกว่าแต่ก่อน พอเห็นว่าหิมะด้านนอกสร่างซาลงไปมากแล้ว แม้อากาศจะยังคงหนาวเหน็บแต่เสี่ยวชุนคงพอทนไหว นางจึงเดินไปหยิบเสื้อคลุมเก่าตัวหนึ่งห่อไหล่เอาไว้พลางเอ่ยด้วยแววตาอ่อนโยนยิ่ง “ท่านแม่ อยากให้ข้าไปหาท่านพ่อหรือไม่” ดวงตาของสาวใช้แดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด ริมฝีปากที่ควรแดงระเรื่อกลับซีดแตก แต่พอเห็นแววตารอคอยของคุณหนูพลันรีบพยักหน้า “อยากเจ้าค่ะ” “แล้วเจ้าเล่า อยากไปจวนโหวกับข้าหรือไม่” ครานี้เสี่ยวชุนโผเข้าหา กอดนางแนบแน่น ราวกับต่อให้หนทางข้างหน้าที่ต้องเดินเป็นทะเลเพลิงก็พร้อมจะติดตามไปด้วย เมิ่งถิงเซ่อจึงได้แต่ลูบแผ่นหลังที่ผอมแห้งของอีกฝ่ายเบาๆ “ถ้าเช่นนั้น เราก็ไปที่นั่นกันสักครั้งเถิด” นางยิ้มเอ่ยแต่รอยยิ้มกลับส่งไปไม่ถึงดวงตาแม้แต่น้อย คงเป็นเพราะลึกๆ ก็อยากรู้เหมือนกันว่าบิดาที่เป็นถึงท่านโหวหน้าตาเป็นเช่นไร และอยากรู้ว่าทำไมบิดาถึงทอดทิ้งนางกับมารดาไว้ แม้กระทั่งมารดาจากไปแล้วยังไม่คิดตามหานางเลยแม้แต่ครั้งเดียว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม