ตอนที่ 10 ปล่อยฉัน

2305 คำ
“นุดี คุณโทรถามณฉัตรสิ ว่าคุณริสาดีขึ้นหรือยัง ถ้าดีขึ้นแล้ว ให้เธอเอาแฟ้มผลประกอบการย้อนหลังห้าปีขึ้นมาหาผมหน่อย คงมีเรื่องต้องคุยกับเขาอีกเยอะ” “ทราบค่ะท่านประธาน” ใช้เวลาไม่นาน อริสาและเลขาสาวก็หอบหิ้วแฟ้มผลประกอบการย้อนหลังมาหาเขา “ณฉัตร คุณกลับไปทำงานเถอะ แค่คุณริสาคนเดียวก็คงให้ข้อมูลผมได้ จริงไหมครับคุณริสา” “ค่ะ” เมื่อเลขาสาวของเธอออกจากห้องทำงานของท่านประธานไป ทั้งเขาและเธอก็เริ่มต้นทำงานกันทันที ชายหนุ่มสอบถามถึงข้อมูลต่างๆที่เขาต้องการรู้ทั้งหมด ซึ่งเธอก็สามารถให้ข้อมูลเขาได้อย่างละเอียดและลงลึกจริงๆ สมกับเป็นผู้บริหารที่มีความสามารถ เป็นผู้หญิงคนตัวเล็กๆ แต่พยายามประคองโรงแรมที่สถานการณ์จวนเจียนจะเจ๊งแบบกู่ไม่กลับ ให้กลับมาลืมตาอ้าปากขึ้นมาได้ มันเพียงพอที่บริษัทเขาสามารถตัดสินใจเข้าเทคโอเวอร์ได้ แต่มันไม่เพียงพอให้โรงแรมของเธอกลับมาฟื้นตัวได้เหมือนเดิม เพราะเม็ดเงินที่เธอถูกโกงกินไปนั้น มันมหาศาลจริงๆ เขาสั่งให้เลขาเตรียมอาหารเที่ยงให้เขากับอริสาในห้องทำงานนี้เลย โดยที่เขาเป็นผู้เลือกเมนูอาหารที่เธอชอบ อันที่จริงก็ไม่ได้อยากจะเอาใจอะไรเธอที่สั่งแต่สิ่งที่เธอชอบมา เพียงแต่สิ่งเหล่านี้มันถูกฝังอยู่ในสมองของเขามายาวนาน เลยสั่งออกไปแบบอัตโนมัติมากกว่า ครืด ครืด ครืด โทรศัพท์มือถือของเขาสั่นขึ้นมาระหว่างที่เธอกับเขากำลังดูผลประกอบการย้อนหลังปีสุดท้ายแล้ว “ครับ แม่” “พ่อตัวดี แกทำอะไรลูกสาวของเพื่อนแม่ฮะ” ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น ลูกสาวของเพื่อนแม่ที่เขายุ่งด้วยในตอนนี้ก็คงมีเพียงจิดาภาคนเดียวเท่านั้น แล้วเขาไปทำอะไรเธอตอนไหนกัน อย่างมากก็แค่เกือบๆ ยังไม่ได้ทำให้เธอเสียหายขนาดนั้นเสียหน่อย “ผมไปทำอะไรใครครับแม่” “ก็หนูจีด้าไง แกพาน้องเข้าไปนอนกับแกที่ห้องหรอตาปัถย์ ทำไมชิงสุกก่อนห่ามฮะลูก แม่แกจะโดนเขาถอนหงอกแล้วนะ” “ใครบอกแม่ครับ ว่าผมทำอะไรจีด้า” ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่เดินเลี่ยงออกไปคุยโทรศัพท์ที่ไหน เขายังคงนั่งอยู่ตรงข้ามกับเธอที่โต๊ะทำงานตัวใหญ่เหมือนเดิม “มีคนเขาเห็นน่ะสิ เอาไปเม้ากันต่อจนน้องเสียหายหมดแล้ว ทำไมลูกทำแบบนี้” “ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยครับแม่” “ไม่รู้ล่ะ น้องเสียหายไปแล้ว เพื่อนแม่ก็ต่อว่าแม่อยู่กลายๆ ว่าลูกไปทำลูกสาวเขาเสียหาย” โถ ลูกสาวของเขาก็ใช่ว่าจะบริสุทธิ์ผุดผ่องมาจากไหน ก่อนมาถึงเขา ก็ผ่านผู้ชายมาแล้วไม่น่าจะน้อย อันที่จริงเขาก็ไม่ได้รังเกียจเธอในเรื่องนี้หรอก นิสัยใจคอก็เข้ากันได้ด้วยซ้ำ “แล้วจะให้ผมทำยังไงครับ” “แม่จะให้ลูกหมั้นกับจีด้าไว้ก่อนนะ เสร็จจากโปรเจคกระบี่ ค่อยแต่ง” ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไป ดวงตาคมกริบจ้องหน้าอริสาที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเขา เธอนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือของเธอไป ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างมีความสุข ท่าทางคงจะคุยกับไอ้ผู้ชายคนนั้นสินะ ดีเหมือนกัน เขาก็ไม่ได้มีใครเป็นตัวเป็นตน ชีวิตและหัวใจขาดหลักยึด ยิ่งกลับมาเจอหน้ากับเธอคนนี้ ยิ่งรู้สึกจิตใจที่เคยเข้มแข็ง มันแกว่งไกวทุกครั้งที่เห็นหน้าเธอ เรื่องอะไรเขาจะยอมใช้ชีวิตโดดเดี่ยวไม่มีความสุขอยู่คนเดียว ในเมื่อเธอก็มีคนอื่น เผลอๆอาจจะแต่งงานแล้วด้วยซ้ำ “ครับแม่ ผมจะหมั้นกับจีด้าครับ “ ดวงตากลมโตสบเข้ากับดวงตาของเขาด้วยความตกใจ เธอไม่ได้คิดจะแอบฟังเขาคุยหรอก แต่บังเอิญมันได้ยินเอง พยายามจะไม่ใส่ใจที่จะฟัง แต่เรื่องของเขามันกลับกระแทกเข้าโสตประสาทเธออย่างจัง เมื่อรู้สึกตัวก็ก้มหน้าลงมองโทรศัพท์ของเธอเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือมืออันสั่นเทาของเธอที่แทบจะทำโทรศัพท์ตกลงพื้น ใจดวงน้อยของเธอวูบโหวงจนน่าใจหาย เขากำลังจะมีครอบครัวแล้ว ได้หมั้นหมายและแต่งงานกับคนที่เขารัก เธอควรจะดีใจกับเขาสิ ถึงจะถูก “แม่ครับ เดี๋ยวตอนเย็นค่อยคุยกันนะ ตอนนี้ผมงานยุ่งมาก เรื่องงานหมั้นให้แม่กับจีด้าจัดการได้เลยนะครับ ผมตามใจน้องทุกอย่างอยู่แล้ว” ดวงตาคมกริบมองหน้าหวานของคนตรงหน้าไม่วางตา นอกจากอาการตกใจเล็กน้อยของเธอเมื่อครู่ เธอก็ไม่ได้มีท่าทีอะไรอีก ยังคงนั่งเล่นโทรศัพท์และคงจะแชทกับไอ้หมอนั่นอย่างมีความสุขเหมือนเดิม ใช่สิ เขามันคนที่โดนเธอเขี่ยทิ้ง จะมามีความรู้สึกรู้สาอะไรกับเขาอีก ผู้หญิงแพศยา มันเป็นแบบนี้นี่เองสินะ “คุณไม่คิดที่จะแสดงความดีใจกับผมหน่อยเหรอ ที่ผมกำลังจะหมั้น กำลังจะได้อยู่กับผู้หญิงที่รักผมจริงๆและคู่ควร” ดวงตากลมโตช้อนขึ้นมองสบตาเขานิ่ง แววตาสั่นระริกอย่างยากที่จะห้าม “ยินดีด้วยค่ะ ฉันดีใจ ที่คุณได้เจอคนที่รักคุณจริงๆ” “ต้องขอบคุณคุณนะริสา ที่ทิ้งผมไป ถ้าวันนั้นคุณไม่ทำตัวสำส่อน ทิ้งผมไปหาผัวใหม่ ผมคงไม่ได้เจอคนดีๆแบบจีด้า” ไม่มีคำพูด คำแก้ตัวและคำอธิบายใดๆหลุดออกมาจากปากของเธอ มีเพียงแววตาตัดพ้อส่งตรงไปหาเขาเท่านั้น ชายหนุ่มใจเต้นแรง รู้สึกหงุดหงิดที่เธอไม่ได้ตอบโต้หรืออธิบายอะไรเลย นั่นถือเป็นการยอมรับว่าเธอมีผู้ชายคนนั้น ในระหว่างที่คบกับเขา และทอดทิ้งเขาเพื่อไปอยู่กับมันจริงๆ “ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหมคะ ฉันขอตัว” เธอเก็บแฟ้มเอกสารลวกๆ แล้วเบี่ยงตัวออกจากโต๊ะเขา เตรียมเดินออกไปจากห้องทำงานที่แสนอึดอัดอึมครึมนี้เสียที ก่อนที่น้ำตาที่เธอพยายามกลั้น มันจะไหลออกมาประจานความอ่อนแอของเธอ “จะไปไหน พูดแค่นี้ทำเป็นทนฟังไม่ได้ ทีตอนทำไม่เห็นจะอาย ทีนี้ทำมาเป็นผู้ดี มารยา” เขาตรงดิ่งเข้าคว้าแขนของเธอก่อนกระชากเข้าหาตัวอย่างแรง จนร่างบางที่หอบหิ้วแฟ้มจนเต็มมือกระเด็นเข้าปะทะอกแกร่ง แฟ้มเหล่านั้นก็หล่นกระจายลงบนพื้นเกิดเสียงดังลั่น “ปล่อยนะ คุณจะทำอะไรฉัน โอ๊ย เจ็บ” หญิงสาวดิ้นรนออกจากอ้อมกอดของเขา ก่อนร้องประท้วงเมื่อเขารัดตัวเธอแน่นขึ้นและไม่มีท่าทีที่จะปล่อยเธอเลย “หึ เจ็บหรอ แค่นี้ทำเจ็บ ที่คุณทำกับผม มันไม่เจ็บกว่าหรอ อย่ามาทำสำออยแถวนี้ มันดูไม่เหมาะกับคุณสักนิด อย่างคุณมันคงถนัดแต่สำส่อน ร่านจนเป็นนิสัย” “คุณปัถย์ มันจะมากไปแล้วนะ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ โอ๊ยยยย” แขนแข็งแกร่งกอดรัดเธอแน่นขึ้นอีกนิด ก่อนลดใบหน้าลงกดจมูกลงซุกไซ้ที่ซอกคอของเธอที่มีน้ำหอมกลิ่นโปรดของเขาประพรมอยู่ แต่มีหรือที่เธอจะยอมให้เขารังแก ร่างงามที่เริ่มมีอารมณ์โมโห ดิ้นรนเอาตัวรอดแรงขึ้นอีกนิด “ปล่อยนะ จะทำบ้าอะไร หยุด” “อย่ามาสั่งผม ผู้หญิงอย่างคุณอย่ามาทำเป็นหวงเนื้อหวงตัว อยู่ไกลๆผัวแบบนี้ ผมสงเคราะห์ตอบสนองความร่านให้คุณ ยังไม่เป็นบุญคุณอีกเหรอ” “ปล่อย หยุดนะ” จมูกโด่งดังคงซุกไซ้เธอไม่เลิก ก่อนฉกจูบประกบปิดปากของเธอที่ร้องประท้วงดังขึ้นทุกที เขาบดจูบริมฝีปากของเธออย่างแรงจนริมฝีปากบอบบางของเธอแตกยับ จนได้กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปหมด ร่างงามใช้แรงเฮือกสุดท้าย สะบัดตัวให้หลุดจากการกอดรัดของเขาจนได้ ทันใดนั้น มือน้อยของเธอก็ตวัดฟาดลงบนใบหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างแรงจนหน้าหันไปอีกทาง ชายหนุ่มค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาแดงก่ำวาวโรจน์มองเธออย่างอาฆาตแค้น ทำเขาเจ็บใจในอดีตยังไม่พอ มาวันนี้ยังทำเขาเจ็บกายอีก หัวแม่มือใหญ่ยกขึ้นมาแตะมุมปากของตนเองเพราะรู้สึกได้ถึงคาวเลือด นี่เธอตบเขาจนปากแตกเลยหรอ “มันไม่มากไปหน่อยหรอ อริสา” ร่างใหญ่ก้าวสามขุมเข้าหาเธอ ก่อนเอื้อมคว้าคนตัวบางให้ลอยหวือมากระแทกอกแกร่งอีกรอบ แล้วขยับพาตัวเธอไปนอนราบบนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ของเขาทันที เขากวาดแฟ้มเอกสารที่วางบนโต๊ะให้ตกกระจายลงพื้นไปจนหมด ก่อนโน้มตัวลงทาบทับบนร่างเธอเพื่อกั้นไม่ให้เธอดิ้นหนีไปไหนได้อีก “คุณปัถย์ ปล่อยฉัน ลุกออกไปนะ อย่าทำอะไรฉันนะ” “หึ สั่งหรอ ทำไม ถ้าผมจะทำอะไรคุณ แล้วคุณจะทำไม” คนที่ทั้งโกรธ ทั้งแค้น ทั้งพิศวาส หูอื้อตาลายไปหมด เขาก้มลงประกบปากบดจูบเธออย่างรุนแรงอีกครั้ง หญิงสาวดิ้นรนอึกอัก แต่ก็ไม่สามารถดิ้นหนีไปไหนได้ เพราะโดนทับด้วยร่างใหญ่หนักอึ้งของเขา มือน้อยถูกยกขึ้นมาทุบตีแผ่นหลังกว้างของเขาไม่นับ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขาเจ็บหรือยอมปล่อยให้เธอเป็นอิสระเลย ตรงกันข้าม กลับยิ่งเป็นตัวเร้าให้เขาทาบทับและกระทำรุนแรงกับเธอยิ่งขึ้นไปอีก “อื้อ อื้อ อ่อย อื้อ” “อื้มมม” ปากหยักได้รูปยังคงบดจูบเธอไม่หยุด ความรุนแรงค่อยๆแปลเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนเรียกร้องให้เธอตอบสนอง แต่ก็ยังไม่ได้รับการสนองตอบจากหญิงสาวใต้ร่างแต่อย่างใด นอกจากการดิ้นรนและทุบตีเขาเท่านั้น มือใหญ่ถลกกระโปรงของเธอขึ้นมากองที่สะโพกผาย ก่อนที่มือร้ายนั้นจะรูดเอากางเกงชั้นในตัวจิ๋วสีหวานของเธอลงไปกองอยู่ที่พื้น ในขณะที่ปากก็ยังคงเคล้าคลึงดูดดึงกลีบปากของเธอไม่หยุด “อื้ม ริสา” ริมฝีปากร้อนไถลออกมาซุกไซ้ที่ซอกคอหอมของเธออย่างเร่าร้อนอีกครั้ง เขากดจูบไล้เลียวนไปวนมาจนหญิงสาวขนลุกเกรียวทั่วร่าง ยากเหลือเกินที่จะปฏิเสธสัมผัสที่แสนช่ำชองของเขา ที่เธอเองก็โหยหามานานหลายปี แต่จิตใต้สำนึกของเธอก็ยังคงสั่งการให้เธอไม่ยอมโอนอ่อนไปกับเขา เพราะเธอไม่ได้เป็นอะไรกับเขาและเขากำลังจะแต่งงานมีเจ้าของเป็นตัวเป็นตนแล้ว สิ่งที่ตีกันอยู่ในสมอง และร่างกายของเธอ มันไม่สัมพันธ์กันเลย หญิงสาวจึงเลือกที่จะนอนนิ่งๆ ปล่อยให้น้ำตาค่อยๆไหลออกมาทางหางตาไม่ขาดสาย นิ้วร้ายของเขากรีดไล้ไปตามรอยแยกของร่องสาว เขาสัมผัสได้ถึงน้ำหวานที่หยาดเยิ้มของเธอ ก็รู้สึกชอบใจจนต้องอมยิ้มมุมปาก “อื้อ อื้ออออ” “อื้มมม ริสา จ๊วบ จ๊วบ” เขายังคงซุกไซ้และกดจูบดูดดึงลำคอระหงของเธอไม่หยุด แต่อยู่ๆก็ต้องหยุดชะงักลง เมื่อลิ้นที่ไล้เลียที่ซอกคอสาวสัมผัสได้ถึงหยาดน้ำที่มีรสชาติเค็มๆ เขาเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าเธอก็พบกับใบหน้างามที่มีน้ำตาไหลอาบแก้มยาวเป็นทาง เธอนอนหลับตานิ่งๆ ไม่ไหวติง ทั้งยังมีแรงสะอื้นน้อยๆไม่หยุด ชายหนุ่มชะงักค้าง สะเทือนใจที่เห็นเธอร้องไห้เสียใจจากการกระทำของเขา เมื่อเธอเห็นว่าเขาหยุดรังแกเธอแล้ว ก็รวบรวมกำลังทั้งหมด ผลักร่างแกร่งที่ทาบทับตัวเธออย่างแรง จนเขาเซถอยหลังไป เปิดโอกาสให้เธอลุกขึ้นดึงกระโปรงลงและวิ่งหนีออกจากห้องของเขาไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาตั้งตัวได้ก็จะก้าวตามเธอไป แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เขาจึงทำได้เพียงเสยผมลวกๆหลายครั้งเพื่อระบายอารมณ์หงุดหงิดงุ่นง่านที่เธอหนีไปได้ “ริสา แม่ง อย่าให้ผมมีโอกาสอีกครั้งนะ คุณไม่รอดแน่ โถ่เว้ย” ข้าวของบนโต๊ะทำงานที่หลงเหลือ ถูกกวาดจนตกกระจายลงที่พื้นทั้งหมด เสียงข้าวของแตกกระจายดังออกไปข้างนอกแว่วๆ จนผู้ช่วยคนสนิทและเลขาสาวสะดุ้งหลายรอบ ต่างมองหน้ากันด้วยความสงสัยที่เห็นอริสาวิ่งร้องไห้ออกไป ทั้งเจ้านายยังเกรี้ยวกราดทำลายข้าวของ ดูท่าสองคนนี้ ต้องมีเรื่องมีราวอะไรกันมาก่อนแน่นอน ชายหนุ่มก้มลงเก็บกางเกงชั้นในตัวจิ๋วของเธอที่เขาถอดทิ้งเอาไว้ที่พื้น ก่อนอมยิ้มมุมปากและยัดมันลงกระเป๋ากางเกงของตนเอง ก่อนที่จะเดินออกจากห้องทำงานไป ปล่อยเศษซากอารยธรรมให้เลขาสาวกับผู้ช่วยหนุ่มเป็นคนเก็บกวาด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม