ตอนที่ 1 ยิ่งเจ็บ ยิ่งรุนแรง
ในห้องนอนของคอนโดมิเนียมหรูสูงเสียดฟ้า สองร่างกอดรัดกันนัวเนีย ฝ่ายชายโหย่งตัวกระแทกกระทั้นสาวงามใต้ร่างอย่างเอาเป็นเอาตาย มือใหญ่ข้างหนึ่งบีบขยำหน้าอกอวบอย่างแรงจนซิลิโคนแทบแตก ส่วนมืออีกข้างกำรอบลำคอระหงของเธอเอาไว้
ชายหนุ่มกระแทกสะโพกไม่ยั้ง ยิ่งรุนแรงยิ่งถึงใจจนสาวเซ็กซี่ใต้ร่างกรีดร้องครวญครางเสียงดังลั่นด้วยความเสียดเสียว ถึงแม้ศึกสวาทครั้งนี้จะยาวนานและรุนแรงต่อเนื่องจนช่วงล่างของเธอบวมระบมแล้วก็ตาม แต่เธอก็ยังมีอารมณ์ร่วมและเสร็จสมกับเขาไปหลายครั้ง นั่นเพราะเขาทั้งหล่อเหลา หุ่นดี กล้ามเนื้อแน่นชัดทุกลูก ดุดัน ป่าเถื่อน และที่สำคัญ เขารวยมาก ถ้าเธอทำได้ถูกใจ ไม่แน่เธออาจจะสบายไปทั้งชาติก็ได้ใครจะไปรู้
“อ่าห์ ริสา ผู้หญิงเลว โอ้วววว ริสา อื้ออ”
“อ๊า อ๊า คุณปัถย์”
หญิงสาวกรีดร้องครวญคราง แม้ว่าชื่อที่เขาหลุดปากออกมาจะไม่ใช่ชื่อของเธอก็ตาม แต่ใครจะสนกันล่ะ หล่อนจะเป็นใครก็ช่าง แต่ตอนนี้ผู้ชายที่อยู่เหนือร่างกำลังโยกขย่มเธออย่างเอาเป็นเอาตายก็เป็นพอ
“ฮ๊า ฮ๊า ริสา อืมมมมม”
เขาตอกอัดกระแทกกระทั้นสะโพกสอบถี่รัวเมื่อถึงจุดสิ้นสุดของอารมณ์ โดยไม่ได้สนใจแม่สาวใต้ร่างเลยสักนิดว่าจะเดินทางมาถึงจุดไหนแล้ว แต่แล้วใบหน้าเหยเกของแม่สาวใต้ร่างกลับกลายไปเป็นใบหน้าของคนที่เขาเกลียดแสนเกลียด จนเขาเพิ่มแรงอัดกระแทก พร้อมด้วยการบีบขยำหน้าอกเธอหนักหน่วงจนเนื้อนิ่มปลิ้นรอดตามร่องนิ้ว ทั้งยังเกร็งมือบีบลำคอสาวสวยจนแทบหายใจไม่ออก ก่อนเกร็งกระตุกเสร็จสมระบายความใคร่ออกมาจนเต็มปลอกป้องกัน
“โอวววววววว ริสา อ่าห์”
เมื่อเขาปลดปล่อยจนหมดทุกหยาดหยด ก็รีบดึงเอาท่อนเอ็นใหญ่โตออกจากร่องรักที่บวมแดงทันที เขารูดปลอกป้องกันทิ้งที่ถังขยะข้างเตียงก่อนคว้าเอาผ้าเช็ดตัวที่ตกกระจายอยู่บนพื้นมาพันรอบเอวสอบ พร้อมทั้งหันมาหาสาวสวยที่นอนอ่อนระทวยอยู่กลางเตียงเพื่อรอให้เขามาสานต่อกับเธออีกหลายๆ ครั้งเหมือนที่เขาทำมาก่อนหน้านี้ แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อเขายื่นเช็คให้เธอหนึ่งใบ พร้อมกับจำนวนเงินที่เธอเห็นแล้วต้องตาโต
“ขอโทษที่รุนแรง หวังว่าเท่านี้คงชดเชยความสึกหรอของเธอได้”
หญิงสาวร่างเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยรอยจ้ำแดงและรอยนิ้วมือ ยื่นมือออกไปรับเช็คจากมือเขา เธอมองใบหน้าหล่อเหลาเพอร์เฟคนั่นอยู่นานเหมือนตกอยู่ในมนต์สะกด
ปรมัตถ์ อธิพัฒน์โภคิน หรือ ปัถย์ ท่านรองประธานบริษัทอธิพัฒน์โภคิน บริษัทเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของไทย ชายหนุ่มรูปหล่อวัย 34 ปี ใบหน้าเรียวรูปไข่รับกับคางเหลี่ยมมนกำลังดีและหน้าผากกว้างสมชายชาตรี ผมรองทรงสั้นที่ด้านข้างไถจนสั้น ด้านบนไว้ยาวและจัดแต่งเป็นทรงเปิดหน้าตามสมัยนิยม คิ้วเข้มหนา ดวงตายาวเรียวคมกริบแววตาดุดันเป็นนิจ โดยเฉพาะตอนที่โยกขย่มอยู่บนร่างเธอ แววตานั้นยิ่งดิบเถื่อนดุดันมีเสน่ห์เป็นร้อยเท่า จมูกที่โด่งจัดเหมือนกับมีเชื้อสายตะวันตกรับกับริมฝีปากหยักได้รูปกำลังดีที่มีสีสดน่าจูบ อาจเป็นเพราะเขามีผิวขาวจัดเหมือนผู้หญิงก็เป็นได้ถึงทำให้ปากนั่นสีสดสวยได้ขนาดนั้น เรือนร่างสูงใหญ่ปราศจากไขมัน มัดกล้ามเนื้อชัดเจนเป็นลอนสวยทุกลูก ยิ่งตอนที่เขาเกร็งร่างกระแทกกระทั้นเธออยู่ กล้ามเนื้อยิ่งหดเกร็งตัวเป็นลูกชัดจนน่าหลงใหล ทั้งหมดนี้มันยิ่งทำให้เขาดูหล่อเหลาน่าดึงดูดไปทุกสัดส่วน
“ขอบคุณค่ะคุณปัถย์ คืนนี้..”
“เธอออกไปได้แล้ว ฉันจะอาบน้ำกลับบ้าน”
เขารีบเอ่ยขัด เพราะรู้ดีว่าเธอคนนี้จะพูดอะไร ก็คงไม่ต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เขาพามานอนด้วย ไม่ว่าจะซื้อหามาหรือหิ้วเอามานอนด้วยกันฟรีๆก็ตาม ผู้หญิงก็เป็นเหมือนกันหมด เมื่อเจอคนหล่อ รวย เอวดุแบบเขา ก็อ่อนระทวยลืมสถานะของตัวเองทันที
หญิงสาวหน้าสลดลง คิดว่าความสวยเซ็กซี่ของเธอ และการที่เธอตอบสนองเขาได้ถึงใจจนเขาต้องใช้ถุงยางอนามัยไปถึงสี่ชิ้น จะทำให้เขาติดใจหรือรู้สึกอะไรๆ กับเธอบ้าง แต่เปล่าเลย ปรมัตถ์ ก็คือปรมัตถ์ ผู้ไม่มีหัวใจตามเสียงเล่าลืออยู่ดี
“คืนนี้กลับดึกเลยตาปัถย์ ไปไหนมาเรา ไปนอนกับแม่ผู้หญิงพวกนั้นมาอีกแล้วใช่ไหม”
คุณนายญาดา มารดาของเขาเดินตรงดิ่งเข้ามาหาเขาทันทีที่เขาก้าวเข้ามาในบ้าน ไม่รู้ว่าแม่แอบติดจีพีเอสไว้ที่รถของเขาหรือเปล่า ถึงชอบรู้ทันเวลาเขาไปทำอะไรๆ แบบผู้ชายโสดๆ อยู่เรื่อย
“แม่ครับ ผมโตแล้วนะครับ แล้วก็โสดด้วย แม่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ผมป้องกันตัวเองอย่างดี”
จะไม่ให้เธอเป็นห่วงได้อย่างไร ก็ดูสิว่าลูกชายของเธอออกจะหล่อเหลาและร่ำรวยขนาดนี้ ผู้หญิงหิวเงินมีแต่จ้องจะจับตาเป็นมัน ถ้าวันหนึ่งลูกชายของเธอรักสนุกจนพลาดทำใครท้องขึ้นมาละก็ เธอไม่อยากคิดเลยจริงๆ ว่าจะได้ลูกสะใภ้แบบไหน เป็นแบบนี้สู้หาผู้หญิงสวยๆ เก่งๆ และเรียบร้อยดูดี มาให้เขาได้ทำความรู้จักไม่ดีกว่าหรือ เผื่อเขาจะสมหวังในความรักเหมือนกับคู่ของลูกชายคนโตของเธอบ้าง
“ขึ้นไปอาบน้ำนอนเถอะลูก พรุ่งนี้ต้องตื่นไปทำงานแต่เช้าอีก”
“คร้าบแม่”
ชายหนุ่มก้มลงหอมแก้มนิ่มๆ ของมารดาฟอดใหญ่ ก็รีบแยกตัวขึ้นบ้านไปโดยที่ยังไม่ได้แตะต้องอาหารอะไรเลยในคืนนี้
เมื่ออยู่ในห้องนอนตามลำพัง เขาก็ตรงดิ่งไปเปิดลิ้นชักข้างเตียงที่เขาล็อกกุญแจเอาไว้อย่างดี ทันทีที่ลิ้นชักถูกเลื่อนออกมา ภายในก็ปรากฏกรอบรูปขนาดเล็กที่คว่ำหน้าอยู่ในนั้น มือแกร่งสั่นนิดๆ ยื่นเข้าไปหยิบมันออกมาดูเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็จำไม่ได้แล้ว
ในกรอบรูปนั้นมีภาพของชายหญิงคู่หนึ่งที่นั่งเคียงข้างแล้วเอาแก้มแนบกันอย่างสนิทสนม ทั้งคู่ยิ้มหวานให้กล้อง ดวงตาเป็นประกายของความสุข
“ริสา..”
แววตาสั่นระริกมองภาพนั้น กี่ครั้งที่เขาหยิบภาพนี้ออกมาดู ก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะมองใบหน้าของผู้หญิงในภาพนี้อย่างชัดเจน นั่นเพราะว่าทุกครั้ง เขาต้องมองเธอผ่านม่านน้ำตานั่นเอง
“ริสา ที่รัก ผมกลับมาแล้วครับ”
ห้องที่เงียบสนิท ไม่เหมือนทุกทีที่เขาเลิกงานกลับมา ทุกครั้งจะเห็นเธอยืนทำกับข้าวอยู่หน้าเตา หรือกำลังทำความสะอาดและจัดบ้านเสมอๆ เขาเดินหาเธอจนทั่วก็ไม่เจอวี่แววของคนรักสาวที่เขาเอ่ยเรียก
ชายหนุ่มกดโทรศัพท์โทรออกหาเธอ เพราะคิดว่าวันนี้เธออาจทำโอที หรือยังเดินทางกลับมาไม่ถึงห้อง แต่กลับปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อเลขหมายนั้นได้ เขากดโทรออกหลายครั้งก็ยังเป็นเหมือนเดิมจนเริ่มร้อนใจ ดีที่เขามีเบอร์โทรของเพื่อนร่วมงานของเธออยู่สองสามคนเอาไว้โทรหากรณีฉุกเฉินเช่นนี้ แต่คำตอบที่ได้กลับทำให้เขามึนงงเหมือนโดนค้อนทุบหัว เมื่อเพื่อนร่วมงานของเธอบอกว่า เธอได้ยื่นลาออกไว้ตั้งแต่สองวันที่แล้ว และวันนี้ก็ไม่ได้มาทำงานแล้ว
ลางสังหรณ์บอกกับเขาว่าเธอทิ้งเขาไปแล้ว จึงเดินเข้าไปในห้องนอน เปิดตู้เสื้อผ้าด้วยมืออันสั่นเทา เมื่อบานประตูตู้เปิดออกกว้าง เขาก็เข่าทรุดลงไปนั่งกองกับพื้นทันที
ตู้เสื้อผ้าตรงหน้าที่เคยมีเสื้อผ้าของเธออัดแน่น บัดนี้มันว่างเปล่า มีเพียงผ้าพันคอผืนบางลายแบรนด์เนมดังที่เขาซื้อให้เธอตกอยู่ที่มุมลึกสุดของตู้นั้น เขายื่นมือที่สั่นสะท้านเข้าไปหยิบมันออกมา พร้อมกับกอดมันแนบอกแล้วร้องไห้สะอึกสะอื้นแทบขาดใจ
เธอไปแล้ว ไปไหน ไม่มีล่ำลาหรือบอกกล่าวกันสักคำ เธอทิ้งเขาไว้ที่นี่ พร้อมกับความฝันและคำโกหกหลอกลวงของเธอ เขานั่งชันเข่าร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่นานหลายชั่วโมง ดวงตาบวมเป่งแดงก่ำอย่างน่าสงสารมองไปรอบห้องนอน ไม่มีข้าวของอะไรของเธอหลงเหลืออยู่อีกเลย หมดแล้ว อนาคตของเขากับเธอ จบสิ้นแล้ว เหลือเพียงหัวใจที่แตกสลายบอบช้ำดวงนี้ ที่ไม่รู้จะต้องรักษาอีกกี่ปีถึงจะกลับมาดีเหมือนเดิม
ฉับพลัน แววตาที่เศร้าสร้อยอาลัยอาวรณ์ก็วาบขึ้นด้วยไฟโทสะ กลับมาดุดันเกรี้ยวโกรธเหมือนเดิม เมื่อคิดได้ว่าเธอคนนี้ทำอะไรกับชีวิตและหัวใจของเขาไว้บ้าง
“ผู้หญิงสารเลว อย่าให้ผมเจอคุณอีกครั้งนะริสา ผมเอาคุณตายแน่”
เขาวางกรอบรูปคว่ำลงอย่างแรงในลิ้นชัก ก่อนดันมันปิดแล้วล็อกกุญแจเพื่อขังความทรงจำที่แสนเจ็บปวดของเขาอีกหน