Q Part.
ตอนนี้ผมจอดรถอยู่หน้าคณะนิติเพื่อรอรับแฟนของผม เห็นเธอเดินคู่มากับไอ้บิวก็รีบตะโกนเรียกเสียงดัง
"ยัยหนู!"
เธอสะดุ้งก่อนเดินตรงมาหาผม
"มีอะไรเหรอคะ?"
"พี่มารับ"
"จะรับทำไม! ไอ้แบร์เอารถมาด้วย!"
ไอ้ก้างขวางคอ ผมว่าแล้วว่ามันต้องกีดกันผมกับน้องแบร์ แต่เธอเป็นแฟนผมแล้วส่วนมันเป็นแค่เพื่อนไม่มีสิทธิ์ไปมากกว่าผมหรอก ผมทำเมินใส่ไอ้บิวก่อนหันไปคุยกับแฟนผมแทน
"ไปกินข้าวกับพี่เถอะนะ พี่ไม่อยากกินข้าวคนเดียว"
ผมอ้อนเธอหวังให้เธอใจอ่อนยอมไปด้วย
"กินข้าวเองไม่ได้ต้องให้ไอ้แบร์ไปด้วย ไม่ทราบว่าลืมปากไว้ที่บ้านเหรอยะ!"
เสียงแหลมๆแสบหูโวยวายขึ้นอีกครั้ง แต่ผมจะต่อล้อต่อเถียงกับมันต่อหน้าน้องแบร์ไม่ได้เพราะผมต้องรักษาภาพลักษณ์ตัวเองนิดนึง
"ไปกับพี่เถอะนะ"
ผมอ้อนเธอสุดฤทธิ์ไม่แคร์ภาพลักษณ์เสือร้ายแห่งวิศวะที่สะสมมาตลอดสองปี
"ก็ได้ค่ะ งั้นบิวตี้แกขับรถฉันกลับเลยก็ได้นะ"
เธอส่งกุญแจรถให้น้องชายผมที่มีสีหน้าเหมือนกินของบูดแล้วปวดท้องถ่ายไม่ออก
"มีแฟนแล้วทิ้งเพื่อนนะ ชะนี!"
ื ไอ้บิวเอ่ยตัดพ้อพร้อมทำปากยู่เป็นตูดแต่พอโดนยัยหนูกอดทีเดียวก็หายงอน
"เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันเลี้ยงขนม อย่างอนนะเดี๋ยวจะรีบกลับ สัญญาๆ"
ผมมองสองคนเกี่ยวก้อยกระหนุงกระหนิงแล้วรู้สึกขัดหูขัดตาสุดๆ
"ไปกันเถอะยัยหนู"
"ดูแลเพื่อนกูให้ดีนะไอ้พี่คิว แล้วก็ห้ามแตะต้องมันเด็ดขาด!"
ผมพยักหน้าก่อนจะดึงแขนยัยหนูมาโอบเอวไว้ เพราะผมขับรถค่อนข้างเร็วจึงกลัวว่าเธออาจจะตกถ้าไม่เกาะให้แน่น
"พี่คิว"
"ครับ"
"อย่าขับเร็วนะคะ หนูกลัว"
ถ้ายัยหนูขอผมก็เต็มใจทำให้ตอนนี้ผมกับเธอเป็นแฟนกันแล้วก็ต้องเรียนรู้และปรับตัวเข้าหากัน อีกอย่างผมก็อยากพัฒนาความสัมพันธ์ให้มากขึ้นกว่านี้ด้วย
ตลอดทางเธอกอดผมแน่นสงสัยจะกลัวมากจริงๆ พอจอดรถผมสังเกตุว่ามือเธอสั่นเบาๆจึงรีบคว้ามากุมเอาไว้
"พี่ขับเร็วไปรึป่าว?"
"เร็วมากเลย หนูกลัวแทบแย่"
"พี่ขอโทษนะ"
ผมดึงเธอมากอดเป็นครั้งที่สามของวัน ไม่รู้ว่าเธอมีแรงดึงดูดอะไรถึงทำให้ผมอยากอยู่ใกล้ๆตลอดเวลา
"พี่คิว นี่มันหน้าร้านอาหารนะคะ"
ผมหันไปมองข้างในเห็นสายตาผู้คนกำลังมองมาที่เราสองคนก็รีบคลายแขนที่กอดยัยหนูออกเพราะกลัวว่าเธอจะโดนมองไม่ดี
"ไปกินข้าวกันเถอะ"
Bear Part.
ฉันนั่งกินข้าวไปด้วยฟังพี่คิวเล่าเรื่องในคณะให้ฟังไปด้วย จะว่าไปเขาก็มีมุมตลกและอบอุ่นเพียงแต่ฉันยังไม่เคยเห็นจึงเผลอตัดสินและอคติไปก่อน
"แบร์เคยมีแฟนมาก่อนมั๊ย"
นานมาแล้วที่ฉันไม่ได้ยินคำถามแบบนี้ แต่พอได้ยินก็ดันนึกถึงคนๆนั้นขึ้นมา คนที่ทำให้ฉันไม่อยากกลับไปที่เชียงใหม่อีก
"เคยมีค่ะ แต่อย่าไปพูดถึงเลย"
ฉันลืมมันไปหลายปีและเลือกที่จะมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในกรุงเทพ ถ้าหวนนึกนึกอีกแล้วการหนีมาที่นี่จะมีประโยชน์อะไร
คนทุกคนต่างก็มีอดีตเพียงแต่มันดีหรือร้ายน่าจดจำหรือควรลืมก็เท่านั้น
และอดีตของฉันมันไม่ใช่สิ่งที่น่าจดจำสักเท่าไหร่
หลังกินอาหารเสร็จฝนก็ดันเทลงมาชุดใหญ่แต่พี่คิวก็ยังจะขี่มอเตอร์ไซต์ฝ่าฝนมาส่งฉันที่หอจนตัวเปียกไปหมด
"รีบไปอาบน้ำสระผมได้แล้วเดี๋ยวไม่สบายนะ"
เขาเอ่ยกับฉันน้ำเสียงอ่อนโยนกาอนจะยกมือขยี้ผมฉันเบาๆ
"พี่จะกลับบ้านแล้วเหรอคะ?"
"พี่จะกลับแล้วแหละ มีอะไรเหรอ?"
ฉันรู้สึกเป็นห่วงเป็นห่วงพี่คิวขึ้นมาเพราะฝนที่เริ่มตกหนักขึ้น ถ้าขี่มอเตอร์ไซต์ฝ่าไปตอนนี้ต้องอันตรายมากแน่ๆ
"ฝนมันตกหนักมากเลยนะคะ"
"เป็นห่วงพี่เหรอ หื้ม?"
เขาดึงแก้มฉันก่อนจะถอดหมวกกันน็อคออกและลงมาจากรถ
"ถ้าไม่อยากให้พี่ขับรถฝ่าฝนออกไป งั้นคืนนี้พี่นอนที่นี่ก็แล้วกันนะ"
ฉันเป็นห่วงเขาก็จริงแต่ไม่ได้บอกว่าจะให้นอนด้วยซะหน่อย! แต่ไม่เป็นไรหรอกฉันให้พี่เขาไปนอนกับยัยบิวตี้ก็ได้นี่นา เพราะยังไงทั้งคู่ก็เป็นพี่น้องกันแท้ๆ
"งั้นขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าข้างบนกันเถอะค่ะ เดี๋ยวจะไม่สบายกันทั้งคู่"