EP.1 beauty and the bear
Bear Part.
"อ่ะ ของแกนังชะนี"
หนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นถูกวางลงตรงหน้าฉันโดยฝีมือบิวตี้เพื่อนรัก กระเทยที่เเรดที่สุดในปฐพีนี้
"เท่าไหร่อ่ะ?"
ฉันล้วงกระเป๋าตังค์ออกมาแต่ถูกบิวตี้เบรกเอาไว้
"ไม่ต้องจ่ายฉันเปย์แกเอง"
"น่ารักจังเพื่อนใครเนี่ย"
ฉันยิ้มดีใจเพราะนี่คือหนังสือการ์ตูนที่ฉันชอบอ่านและคลั่งไคล้พระเอกมากๆจนอยากจะมีแฟนน่ารักอ่อนโยนแบบนี้สักคนในชีวิต ดูสิ! เพียงแค่เห็นหน้าปกใจฉันก็สั่นระรัวแล้ว
"โอ๊ยแกฉันฟินอ่ะ!"
"แกนี่มันชะนีเพ้อฝันจริงๆ!"
"หยุดพูดเลยนะ แกกับฉันก็ไม่ต่างกันหรอกย่ะ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่าแกชอบมโนว่าช่ายสวี่คุนเป็นสามีแกน่ะ"
ฉันมองหน้าเหวอๆบิวตี้ก่อนจะขำออกมาด้วยความตลก
"ฮ่าๆๆๆ"
ฉันกับบิวตี้เป็นเพื่อนกันตั้งแต่มัธยมหกที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ก่อนจะมาเรียนที่มหาลัยนี้ด้วยกันในคณะนิติศาสตร์เพราะฉันอยากมีความรู้เกี่ยวกับกฏหมาย ส่วนบิวตี้อยากเป็นทนายความเรียกร้องความยุติธรรมให้ลูกความเพศที่สามโดยเฉพาะ
ฉันเป็นคนเชียงใหม่เข้ามาเรียนที่กรุงเทพเช่าหอพักอยู่ตั้งแต่มัธยม พอขึ้นมหาลัยบิวตี้ก็ขอมาอยู่ด้วยและช่วยเเชร์ค่าเช่าห้องรวมถึงค่าน้ำค่าไฟ
"บิวตี้ แกเคยฟีเจอร์ริ่งกับใครป่ะ?"
ฉันเอ่ยถามด้วยความสงสัยระหว่างที่กำลังอ่านฉากรักสิบแปดบวกแต่กลับได้รับเสียงวี๊ดว้ายก่นด่าจากปากเพื่อนรักแทน
"ถามอะไรของแกเนี่ย ทะลึ่ง ลามก น่าไม่อาย เป็นผู้หญิงภาษาอะไร ห๊าาา!!!"
"แค่ถามก็ไม่ได้ ชิส์!"
"ถามบ้าอะไรเล่า ถึงฉันจะเป็นกระเทยแต่ฉันก็รักนวลสงวนซิงนะยะ"
"เขามีแต่รักนวลสงวนตัวป่ะ"
บิวตี้ชอบใช้ภาษาวิบัติบ่อยๆแต่ก็ตลกดี และฉันคิดว่าบางครั้งชีวิตคนเราก็ไม่จำเป็นต้องซีเรียสไปทุกเรื่องก็ได้ เพราะคนเราต่างก็มีสิ่งที่ชอบและไม่ได้สาระเเตกต่างกันไป เหมือนกับฉันที่ชอบอ่านหนังสือการ์ตูนหรือบิวตี้ที่ชอบส่องรูปผู้ชายหล่อๆในไอจี
"ว๊ายยยยย! แกดูนี่สิ!"
"อะไรอ่ะ?"
บิวตี้ยื่นรูปผู้ชายกลุ่มใหญ่ในโทรศัพท์ให้ฉันดูก่อนวี๊ดว้ายอยู่คนเดียว
"คนนั้นก็หล่อคนนี้ก็หล่อ โอ๊ยยย! ฉันตาลายไปหมดเลยอ่ะแก"
ฉันมองเพื่อนที่เเทบจะพุ่งเข้าโทรศัพท์ไปจับหนุ่มๆในนั้นกิน แต่ว่าจู่ๆยัยเพื่อนรักก็ถอนหายใจออกมาอย่างแรง
"เป็นอะไรอ่ะ?"
ฉันถามบิวตี้ที่ทำหน้าเซ็งกรอกตาสามร้อยหกสิบองศา
"อารมณ์เสียอ่ะดิ ดูนี่ดิแกไอ้พี่คิวมันมาอยู่ในทำเนียบหนุ่มฮ็อตได้ยังไงอ่ะ ไม่เข้าใจ!"
บิวตี้มีพี่ชายอยู่คนหนึ่งชื่อพี่คิวเป็นพี่ว้ากสุดโหดจากวิศวะและที่สำคัญทั้งคู่ไม่ถูกกันมากๆบิวตี้เล่าว่าเจอหน้ากันก็ต้องทะเลาะทุกครั้งไม่รู้เป็นอะไร
แต่ฉันเคยเจอพี่คิวแค่ครั้งเดียวตอนพาบิวตี้ไปเก็บเสื้อผ้าที่บ้านเมื่อหลายเดือนที่แล้วแต่ไม่ได้คุยอะไรกันเพราะว่าพี่เขากำลังคุยโทรศัพท์กับแฟนอยู่ ฉันจึงได้แต่นั่งเงียบๆระหว่างรอบิวตี้คนสวยสายเสมอเก็บทรัพย์สมบัติเพื่อย้ายไปอยู่หอเดียวกัน
"แต่พี่ชายแกก็หล่อดีนะ"
พอฉันพูดจบยัยบิวตี้ก็หันขวับมามองพร้อมกับจ้องหน้าฉันเหมือนกำลังจับผิด
"หล่อเหรอ?! เอ๊ะ! หรือว่าแกคิดอะไรกับไอ้พี่คิวป่ะเนี่ย?"
ฉันขมวดคิ้วไม่เข้าใจ แค่ชมผู้ชายว่าหล่อแปลว่าฉันต้องชอบเขางั้นเหรอ?
"ป่าวนะ แต่พี่ชายแกหล่อจริงๆฉันก็เลยชมไง"
บิวตี้คงรู้ว่าฉันไม่ได้โกหกจึงไม่คาดคั้นอะไรอีก
"หล่อแต่นิสัยไม่ดี แกอย่าไปยุ่งกับมันเด็ดขาด!"
ฉันพยักหน้ารู้ดีว่าบิวตี้คงเตือนเพราะความหวังดี อีกอย่างพี่คิวนั้นมีชื่อเสียงเลื่องลือเกี่ยวกับความเป็นพี่ว้ากป่าเถื่อน ฉันเองก็เลยไม่อยากยุ่งด้วยเหมือนกัน
"ว่าแต่เย็นนี้แกว่างป่ะ บิวตี้"
"ว่างนะ มีอะไรอ่ะ"
"ไปซื้อเสื้อผ้าเป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ป่ะ"
ฉันเอ่ยชวนเพื่อนรักผู้มีเซ้นส์ด้านแฟชั่นให้ไปเลือกซื้อเสื้อผ้าด้วยกันและเเน่นอนว่ายัยบิวตี้ตอบตกลงโดยไม่ต้องคิดสักนิด
"แกชวนถูกคนแล้วล่ะค่ะ"
"งั้น อย่าลืมนะห้ามเบี้ยวนัดล่ะ"
"จ้าๆ ไม่เบี้ยวแน่นอนคอนเฟิร์ม"
ยัยบิวตี้จอมเบี้ยวสัญญากับฉันแล้ว เพราะฉะนั้นหากเบี้ยวขึ้นมาล่ะก็ฉันจะงอนให้ง้อไปสิบวันเลย คอยดู!