EP 06 เป็นเด็กดีสิ แล้วฉันจะตอบคำถามนั้นให้

1340 คำ
​ เช้าวันต่อมา ชายหนุ่มตื่นตั้งแต่หกโมงเช้าทั้งที่อยากจะนอนให้เต็มที่ แต่ร่างกายเหมือนทำงานตามเวลาปกติ ไม่ทันที่นาฬิกาปลุกจะได้ทำงานเขาก็ลุกจากเตียงนอนเพื่อมาออกกำลังกายแล้ว “นายจะไปไหนครับ?” “ฉันบอกเดินทางสิบโมง นายมาทำอะไรแต่เช้าไดมอนด์” “เผื่อนายมีอะไรให้ผมทำครับ” “ไปนอนพักในห้องแขกก่อน ฉันจะลงไปฟิตเนสสักหน่อย” “ให้ผมไปเป็นเพื่อนมั้ยครับ” “ที่นี่เป็นส่วนตัว ไม่มีใครเข้ามาฆ่าฉันได้หรอกนะ” ไดมอนด์ก้มหัวลงและยอมเดินเข้าไปนอนตามที่เจ้านายสั่ง 06.12 น. LB. : มอนิ่งคนสวย เมื่อคืนฉันลืมตอบ ความจริงเขาเพียงแค่ไม่รู้ว่าต้องตอบอะไรมากกว่า จึงเลือกปิดจอลงและไปทำจิตใจให้สงบ รูปที่เธอส่งมายังคงตราตรึงในหัวของเขา แม้ว่าจะพยายามเอามันออกไปมากแค่ไหน แต่มันกลับเด้งเข้ามาทุกครั้งไป กว่าเมื่อคืนจะหลับตาลงได้ก็ลำบากไม่ใช่น้อย 06.55 น. Vaiolet : ไม่เป็นไรค่ะ มอนิ่งเช่นกันนะคะ Vaiolet : ทำไมตื่นเช้าจัง LB : ฉันตื่นมาออกกำลังกายน่ะ LB : ส่งรูปภาพ ด้านไวโอเล็ตเมื่อได้รับรูปภาพ ใบหน้าหวานถึงกับแดงซ่านไม่น้อย หุ่นลีน ๆ ของชายวัยสี่สิบห้ามันช่างดีมากจริง ๆ เธอยอมรับเลยว่าไม่เคยเจอผู้ชายที่อายุเท่าเขาดูดีแบบนี้มาก่อน “อะไรกัน รูปแค่นี้ก็ทำให้เธอใจสั่นได้แล้วงั้นเหรอ?” ลัมบาน่าพึมพำออกมาเมื่อคู่สนทนาของเขาเงียบหายไป คงมีอาการเดียวกับเขาเมื่อคืนนั่นแหละ เมื่อใกล้ถึงเวลาเดินทาง ลัมบาน่าเปิดโทรศัพท์เช็กข้อความอีกครั้ง แต่ไม่มีอะไรส่งมาจากหญิงสาวอีก เขาจึงเป็นฝ่ายส่งไปบอกเธอแทนว่าตนนั้นจะไม่อยู่สามวันถึงหนึ่งอาทิตย์ อาจจะไม่ได้เจอกัน แต่จะให้คนที่นี่คอยส่งดอกไม้ให้ทุกวันเพื่อเป็นกำลังใจในการทำงาน “เครื่องพร้อมแล้วครับนายใหญ่” “อืม” สามชั่วโมงต่อมา เขตเมืองเกาลูน ฮ่องกง ลัมบาน่าเดินทางมาถึงอย่างปลอดภัย ทันทีที่ก้าวเท้าลงจากเครื่องก็พบเพื่อนสนิทอย่างอัลวาร์ มาติเนส มารอรับถึงลานบิน “อารมณ์ไหนถึงมาหาฉัน” “ไม่เจอกันนาน หายหน้าหายตานึกว่าติดสาวไทยจนลืมทางมาฮ่องกงแล้ว” “ไร้สาระอัลวาร์” ลัมบาน่ามองเพื่อนตัวเองที่อายุเยอะแต่ยังชอบติดเล่นด้วยแววตาติดรำคาญ “ใจร้ายชะมัด ปากร้ายแบบนี้ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมสาว ๆ ถึงหมายปองนัก” “เข้าเรื่องสักที มาหาฉันถึงที่นี่มีอะไร” “ได้ข่าวว่านายกำลังมีเรื่องสนุก” “หูตาไวจริง ๆ” ลัมบาน่าถอนหายใจหนัก เขาเริ่มเข้าใจความรู้สึกลูกของตัวเองที่เมื่อทำอะไรแล้วเขารู้ทัน “เหยื่อที่เอามาล่อ สวยใช้ได้เลยนี่” “รุ่นลูก” “ลูกที่ไหน พี่ของลูกนายตั้งสามปี” “มีอะไรที่นายไม่รู้บ้าง?” เขาปรายตามองเพื่อนสนิทนิ่ง ๆ “ไม่มี นายก็รู้ว่าฉันขี้เสือก” “เฮ้อ สรุปมาเพราะเรื่องนี้” “ระวังตัวให้มากขึ้นหน่อย เอดีนมันหมาลอบกัดแค่ไหนนายก็รู้ ถึงจะชัดเจนว่าส่งเด็กคนนั้นมาแต่มันอาจจะตลบหลังด้วยการลงมือเองก็ได้” “ขอบใจ ดื่มน้ำชาที่กาสิโนฉันหน่อยมั้ยล่ะ” “เยี่ยมเลย คำนี้แหละที่ฉันรอคอย” ลัมบาน่าส่ายหัวไปมาเล็กน้อย ก่อนจะเดินนำอัลวาร์มายังรถที่จอดรออยู่ เมื่อมาถึงกาสิโน การ์ดกลุ่มใหญ่มารอรับเจ้านายของเขาพร้อมกับรอคุ้มกันความปลอดภัยอย่างดีที่สุด เห็นแบบนี้ทุกสถานที่ที่ลัมบาน่าไปต้องมีการ์ดตรวจเช็กตึกสูงทุกแห่ง ค่าหัวหลักร้อยล้านดอลลาร์ไม่ใช่จะได้มาง่าย ๆ “สรุปคนอย่างนาย เรียกมาเฟีย หรือเจ้าพ่อ” “เรียกเจ้าพ่อมาเฟียแล้วกัน” อัลวาร์กลอกตามองบน น่าหงุดหงิดเพื่อนเขาเป็นบ้า ตั้งแต่เสียคนรักไปจากคนยิ้มง่ายก็กลายเป็นเสือยิ้มยาก ทุกวันนี้รอยยิ้มที่เห็น ๆ กันอยู่เขาเรียกว่ารอยยิ้มธุรกิจ “ได้ข่าวว่าลูกนายมีสะใภ้ให้สองคนแล้ว” “คนที่สามอีกไม่นาน” “แล้วหนูอลิเซียหลานสาวคนสวยของฉันล่ะ?” “มีคนของเขาอยู่เหมือนกัน แต่ยังไม่อยากให้รู้” “เข้าตานางฟ้าบราวน์ได้ ผู้ชายคนนั้นคงไม่ธรรมดา” “อัลวาร์” “ว่า?” “นายอยากมีลูกบุญธรรมมั้ย?” ลัมบาน่าเอ่ยถามเมื่อจู่ ๆ บางเรื่องก็เด้งเข้ามาในหัวของเขา “หาเมียให้ฉันไม่ได้เหรอ ทำไมต้องลูก” “ถามดี ๆ ไม่ตลก” “ฉันรู้นะว่านายคิดอะไรอยู่” “ถ้าวันนั้นมาถึง นายจะยอมทำให้เพื่อนรักคนนี้ได้หรือเปล่าล่ะ” “ถ้าเขายอมฉันก็โอเค เด็กคนนั้นฝีมือดี การวางตัวก็ดี ยังไงฉันก็ไม่คิดมีใครจริงจังอยู่แล้ว มีคนมารับมรดกก็คงดีเหมือนกัน” “พูดอย่างกับว่ามีเยอะ” ลัมบาน่าถอนหายใจอีกครั้ง หากเขาเจออัลวาร์บ่อย ๆ คงได้แก่ไวกว่าเดิมสิบปี คุยด้วยแล้วเหนื่อย “ไม่เท่านาย แต่ก็น้อยกว่าไม่มากนะ” “เอาเถอะ สรุปว่าหากเขายอมนายก็โอเคใช่มั้ย?” “แน่นอน” ได้ยินคำตอบของเพื่อนแล้วมันทำให้ลัมบาน่าสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่เรื่องนี้เขาไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียเลยด้วยซ้ำ “แต่หากเป็นลูกบุญธรรมฉันแล้ว ใครอยากจะมาเป็นลูกเขยฉันจะเรียกให้หมดตัว” “หน้าเลือดจริง ๆ” “อย่าพูดมากหน่า ทำเหมือนกับว่าตัวเองจะเป็นลูกเขยฉัน” “ให้เขายอมเป็นลูกนายก่อนเถอะ ค่อยคิดถึงตำแหน่งพ่อตา ปัญญาอ่อนแบบนี้คิดไม่ออกจริง ๆ ว่าเขาจะยอมเรียกพ่อมั้ย” “พูดแบบนี้ฉันจะคิดว่านายสนใจเธอแล้วนะ” “ไร้สาระ” “เฮอะ พอเถียงไม่ทันก็ด่าฉัน น้อยใจนายได้หรือเปล่า?” “ถ้าว่างก็ไปหาเล่นโต๊ะเดิมพันสูงรอ ฉันทำงานก่อนแล้วจะพาออกไปกินข้าว” “เฮอะ” ไม่วายอัลวาร์ยังส่งเสียงให้ลัมบาน่ารู้ว่าตัวเองกำลังงอน แต่แล้วยังไง ในเมื่อลัมบาน่าก็ไม่มีวี่แววจะง้ออยู่ดี 17.54 น. เวลาของฮ่องกง Vaiolet : ไม่ได้เจอคุณ ไวน์แอบเหงา LB : ติดฉันหรือไง? Vaiolet : แล้วไวน์ติดได้หรือเปล่าคะ? LB : เป็นเด็กดีสิ กลับไทยเมื่อไหร่ฉันจะเป็นคนตอบคำถามนั้นข้าง ๆ หูเธอเอง Vaiolet : ไวน์จะเป็นเด็กดีรอคุณกลับนะคะ อยากฟังคำตอบจะแย่ ลัมบาน่าอ่านข้อความด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ก่อนรอยยิ้มจะแสดงขึ้นมาบนใบหน้าของเขา เพียงแค่เสี้ยววิมันก็หายไป เอกสารบนโต๊ะถูกเก็บลงให้เป็นระเบียบ ก่อนเจ้าของโต๊ะทำงานจะลุกเดินออกมาหาเพื่อนตัวเอง “ไปกินข้าวกันเถอะ” “นายทำงานเสร็จแล้ว?” “อืม” “งั้นดูนี่หน่อย นายเห็นหรือยัง” อัลวาร์ส่งโทรศัพท์เครื่องหรูของเขามาตรงหน้าของเพื่อนรัก ลัมบาน่ารับมันมาดูหน้าจอเป็นเพจข่าวไทยเพจหนึ่ง เนื้อความสำคัญคือรูปที่ปรากฏต่อสื่อ “แล้วยังไง?” “อย่าทำเหมือนมันไม่มีอะไร แบบนี้ไม่นายก็เขาต้องเสียหาย” “เขาต้องการให้เป็นแบบนี้” “แล้วนายก็ยอม?” อัลวาร์ถามอย่างไม่เข้าใจ “ก็ตามใจเขาสิ” “มีอะไรมากกว่าที่ฉันรู้หรือเปล่าลัมบาน่า?” “ไม่มี จะกินมั้ยข้าว ถ้าไม่กินฉันจะไปก่อน หิวแล้ว” “เฮอะ นายรอดตัวไปอีกครั้งนะ!” ​ ​
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม