หลังจากงานเสร็จทั้งสองไปทานข้าวด้วยกัน ลัมบาน่าเลือกเพนท์เฮ้าส์สุดหรูของตัวเองจัดดินเนอร์ที่แสนจะโรแมนติกเอาไว้รอไวโอเล็ตโดยเฉพาะ ในตอนแรกที่หญิงสาวเห็นเธอยอมรับเลยว่าอึ้งมากถึงมากที่สุด เพราะไม่คิดว่าจะทำให้พ่อหม้ายลูกสี่สนใจในตัวเองจนยอมลงทุนได้มากขนาดนี้
“คุณดูเป็นคนโรแมนติก”
“งั้นเหรอ?” ลัมบาน่าถามก่อนจะมองไปรอบ ๆ เพราะจริง ๆ แล้วตรงนี้เขาให้คนจัดการ ไม่ได้มีส่วนร่วมเลยสักอย่าง เว้นแต่ออกหน้าก็เท่านั้น
“ขอบคุณค่ะ” เธอเอ่ยบอกเมื่อเขาเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่ง ก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ของตัวเอง
“ไวน์ถามอะไรหน่อยได้มั้ย”
“ว่ามาสิ”
“ทำไมคุณต้องสวมถุงมือตลอด”
“ลายนิ้วมือฉันมีมูลค่ามากกว่าที่ใครประเมิน กันไว้ดีกว่าแก้จริงมั้ย” คำตอบแสนเรียบง่าย แฝงความในเอาไว้มากมาย
“คุณดูรอบคอบดีนะคะ”
“ถ้าใช้ชีวิตประมาท ฉันคงยืนอยู่ในโลกนี้ได้ไม่นาน” เขายกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบ และมองไปยังบรรยากาศด้านนอก บ่อยครั้งที่ลัมบาน่าคิดถึงคนรักเก่าที่จากไป นึกถึงว่าหากวันนี้เธอยังอยู่เขาคงมีความสุขมากกว่านี้ อีกทั้งอำนาจและเงินทองในตอนนี้คงสามารถมอบความสุขให้เธอได้มากกว่าเมื่อก่อนด้วย
“เครียดเรื่องอะไรหรือเปล่า จริง ๆ ถ้าคุณไม่สะดวกไม่ต้องชวนไวน์มาทานข้าวก็ได้นะคะ”
“น้อยใจ?”
“เปล่าค่ะ แค่ไม่อยากทำให้คุณอึดอัด”
“ฉันจะอึดอัดทำไม ในเมื่อเป็นฝ่ายเลือกที่จะเทคแคร์เธอเอง” ตอนนี้ไวโอเล็ตไม่รู้ว่าตัวเองต้องเดินเกมไปทางไหนต่อดี ระหว่างเลือกจะถามออกไปตรง ๆ ว่าเขารู้ที่มาของเธอมั้ย หรือเลือกจะอยู่นิ่ง ๆ และทำเหมือนว่าเธออยู่เหนือเขาทุกอย่าง
“ทานข้าวเถอะ วันนี้เธอคงเหนื่อย เสร็จแล้วฉันจะไปส่ง”
“ไม่ต้องลำบากก็ได้นะคะ เดี๋ยวไวน์กลับเอง”
“ฉันจะไปส่ง” เขาพูดอีกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ลัมบาน่าเป็นคนประหยัดคำพูดพอสมควร เพราะฉะนั้นไม่เซ้าซี้เขาคงดีที่สุดแล้ว
หลังจากทานอาหารเรียบร้อย ลัมบาน่ามาส่งหญิงสาวที่คอนโดของเธอด้วยตัวเองจริง ๆ ไม่ได้ให้ไดมอนด์ขับรถให้เหมือนทุกวัน เขาลงทุนเกินไปทั้งที่ไม่จำเป็น แต่อาจจะเพราะว่าไวโอเล็ตเข้าตาเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็นรูป ชายหนุ่มจึงอยากรู้จักเธอให้มากกว่าในใบข้อมูลที่การ์ดหามาให้
“ขอบคุณนะคะสำหรับวันนี้” เธอพูดพร้อมเตรียมจะเปิดประตูลงจากรถ
“เดี๋ยว”
“คะ?” คนตัวเล็กหันกลับมามองพร้อมเลิกคิ้วสูงอย่างไม่เข้าใจ
“ของขวัญสำหรับเธอ” ร่างหนายื่นกล่องสีน้ำเงินเรียบหรูที่วางไว้ข้างคนขับส่งให้เธอ
“Belly Chain?”
“หุ่นสวย ๆ ของเธอน่าจะเหมาะกับมัน”
“คุณให้ไวน์มากเกินไปหรือเปล่า เมื่อเช้าก็ดอกไม้”
“ฉันอยากให้ก็ให้แค่นั้น ไม่ต้องคิดว่ามันมากหรือน้อย”
“ขอบคุณนะคะ หากไม่รบกวนไวน์อยากส่งรูปตอนลองมันให้คุณดู”
“เอาโทรศัพท์มาสิ” เธอส่งโทรศัพท์ให้เขา ก่อนเขาจะกดคอนแทกต์ของตัวเองให้เธอไปอย่างง่ายดาย
“เรียบร้อยแล้ว ขึ้นห้องไปพักผ่อนเถอะ”
“ค่ะ งั้นคืนนี้ฝันดีนะคะ”
“เอาไว้ส่งข้อความมาบอกฉันอีกทีแล้วกัน”
“เดี๋ยวไวน์ทักทิ้งเอาไว้ ถึงที่พักแล้วคุณช่วยบอกหน่อย ขับรถกลางคืนไวน์เป็นห่วง” ลัมบาน่ารู้สึกแปลก ๆ เพราะนานแล้วที่ไม่มีใครบอกว่าเป็นห่วงเขา เว้นแต่พวกลูก ๆ ทั้งสี่ กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีไวโอเล็ตก็เดินเข้าคอนโดไปแล้ว
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ลัมบาน่ากลับมาถึงเพนท์เฮ้าส์สุดหรูของตัวเอง ปกติเขาจะกลับบ้านใหญ่ แต่เพราะพรุ่งนี้เจ้าตัวจะต้องเดินทางไปฮ่องกงเพื่อจัดการงานส่วนของลูเซียโน่ จึงนอนที่นี่เพราะใกล้กับลานบินส่วนตัวมากกว่า
“กลับมาแล้วเหรอครับ มีใครลอบทำร้ายหรือเปล่า”
“ใจเย็น ๆ ไดมอนด์ นายตื่นตระหนกทุกครั้งที่ฉันไปไหนคนเดียว”
“นายครับ คุณคนกลางกำชับผมทุกวันว่าห้ามให้นายมีแม้แต่รอยยุงกัด”
“อย่าเว่อร์ตามลูกฉันเลย เดี๋ยวก็ประสาทแดกตาย” เขาล่ะไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าใครเป็นพ่อใครเป็นลูก เพราะตอนนี้เหมือนตัวเองเป็นลูกน้อยที่มีพ่ออย่างแลนซัสให้คนตามดูแลทุกฝีก้าว
“พรุ่งนี้จะเดินทางกี่โมงดีครับ?”
“สิบโมงเช้าแล้วกัน คืนนี้ฉันอยากพักผ่อนให้สมกับที่เหนื่อยมาตลอดหนึ่งเดือนหน่อย”
“ตามสบายครับ งั้นผมขอตัว”
“อืม” หลังจากไดมอนด์เดินออกไป เขาหยิบโทรศัพท์มากดส่งข้อความบอกไวโอเล็ตว่าตัวเองกลับมาถึงที่พักแล้ว จากนั้นก็วางโทรศัพท์เอาไว้และไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายให้เรียบร้อย
21.45 น.
Vaiolet : ส่งรูปภาพ
Vaiolet : ขอบคุณนะคะ ไวน์ชอบมาก คุณเลือกเครื่องประดับเก่งจริง ๆ
ลัมบาน่าเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่มีเพียงชุดคลุม หยิบโทรศัพท์เครื่องหรูขึ้นมาและกดเปิดดูข้อความดังกล่าว ก่อนเขาจะขบกรามแน่นและใช้มือบีบมือถืออย่างแรง หากมันไม่ใช่ของราคาแพงคงแหลกคามือไปแล้ว
“s**t! ไวโอเล็ตเธอกำลังเล่นกับไฟ” เขาพึมพำก่อนจะกดปิดหน้าจอลง ไม่ได้ตอบกลับอะไรข้อความนั่น