จมูกโด่งชนเข้ากับแก้มนวลสาวโดยไม่รู้ตัว
หน้าอกอวบเคร่งครัดเบียดบดอยู่บนแผ่นอกแกร่งมือใหญ่ที่เกาะกอดเอวคอดเอาไว้รัดเข้ามาโดยอัตโนมัติ ทำให้เบื้องล่างก็แนบสนิทกันอย่างมิได้ตั้งใจ
กุหลาบสาวนูนอูมเบียดบดอยู่กับความยิ่งใหญ่แห่งบุรุษเพศ...
ทั้งสองนิ่งค้างอยู่อย่างนั้น ทั้งความตกใจ และอีกความรู้สึกที่เต้นเร่าไหวระริกอันเป็นธรรมชาติแห่งกายหนุ่มสาว
มันเกิดขึ้นได้ แต่เพราะมิใช่สัตว์เดรัจฉาน มนุษย์จึงควรมีสติที่จะควบคุมมัน
ชายหนุ่มเป็นฝ่ายได้สติก่อน จึงรีบประคองเธอให้ลุกขึ้น แล้วเอ่ยขอโทษ
“ ขอโทษทีนะ พี่ไม่ได้ตั้งใจ พอดีมันลื่น ” เธอส่ายศีรษะ แก้มนวลซับสีแดงระเรื่อ เสียงหวานเอ่ยอ้อมแอ้ม
“ บัวต่างหากที่ต้องขอโทษ เซล้มไปทับตัวพี่เอง ”
“ ไม่เป็นไร พี่ไม่เจ็บหรอก ตัวหนาขนาดนี้ ไป เดี๋ยวพี่ไปส่งบ้านนะ ” เขาบอกพร้อมหยิบของที่กระจุยกระจายเป็นรอบที่สองเพราะหลุดมือเขาใส่ตะกร้าอีกครั้ง มือใหญ่จับแขนเรียวไว้หลวม ๆ
“ ให้พี่จับเถอะนะ เผื่อจะวูบลงไปอีก ”
หญิงยิ้มก่อนเดินตามเขาไปที่รถ เขาส่งตะกร้าให้เธอถือ ก่อนหยิบหมวกกันน็อคมาสวมแล้วขึ้นสตาร์ท เธอยืนเก้ ๆ กัง ๆ ด้วยไม่เคยซ้อนมอเตอร์ไซค์คันใหญ่แบบนี้
ชายหนุ่มเปิดกระจกขึ้นมามองอย่างแปลกใจ
“ ทำไมไม่ขึ้น ”
“ บัวขึ้นไม่เป็นจ้ะพี่ ไม่เคยนั่งรถใหญ่แบบนี้ ”
เขายิ้ม ยิ่งทำให้ใบหน้าคมสันนั้นน่ามองขึ้นมากโข เธอเผลอมองแล้วยิ้มตามอย่างไม่รู้ตัว
“ พี่ขอโทษนะที่ไม่ได้บอก งั้นส่งตะกร้ามาให้พี่ จับเอวพี่ไว้แล้วนั่งไขว้ขามาทางเดียวกัน ”
เขาบอก เธอทำตาม ยื่นตะกร้าส่งให้เขาถือ มือเล็กเอื้อมไปจับเอวสอบไว้แล้วพยุงตัวขึ้นนั่ง มันสูงมากเธอเลยเสียว สองแขนรีบกอดเอวเขาไว้แน่นจนเขาหัวเราะ
“ บัวต้องถือตะกร้ามือหนึ่ง เอาวางบนตักแล้วประคองไว้ เพราะพี่ต้องขับรถ ถือให้ไม่ได้ อีกมือหนึ่งกอดเอวพี่ ”
“ แล้วจะตกไหมพี่ บัวเสียวจัง ”
“ ไม่ตกหรอก พี่ไม่ขับเร็ว ”
“ ก็ได้จ้ะ ”
เธอพูด เขาจึงค่อยส่งตะกร้าให้เธอถือ รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ค่อย ๆ เคลื่อนออก กระนั้นมือเล็กก็เอื้อมไปรัดเอวสอบเสียแน่นพร้อมแนบกายซบแผ่นหลังแกร่งเพราะกลัวแสนกลัว ไม่รู้เหตุผลกลใดไปดลใจให้มือใหญ่เอื้อมมาสัมผัสมือเล็กเบา ๆ แล้วบีบ คล้ายกับจะบอกว่า
“ ไม่ต้องกลัวนะ ”
แปลกที่ความรู้สึกนั้นส่งผ่านไปยังเธอ หญิงสาวขยับมือเล็กน้อยเป็นสัญญาณว่ารับรู้แล้ว เขาจึงผละมือไปขับรถต่อ
ทั้งที่เป็นคนแปลกหน้าของกันและกันทั้งคู่ แต่แปลกไหมที่เขายังมีความห่วงใยให้เธอ มากกว่าคนที่ได้ชื่อว่าผัวเสียอีก
หญิงสาวแนบใบหน้าลงกับแผ่นหลังแกร่ง หลับตาพริ้ม คล้ายจะกำซาบความอบอุ่นเล็ก ๆ น้อย ๆ จากชายแปลกหน้าเข้าไปในหัวใจ เพราะเมื่อกลับบ้านไปแล้ว เธอจะหาความอบอุ่นใด ๆ ไม่ได้เลยจากที่นั่น
อีกราวยี่สิบนาทีถัดมาก็มาถึงจุดหมายปลายทาง
ชายหนุ่มจอดรถอย่างระมัดระวังเพราะรู้ว่าหญิงสาวกลัว เธอค่อย ๆ ลงจากรถอย่างปลอดภัย ก่อนจะวางตะกร้าลงกับพื้นแล้วกระพุ่มมือขึ้นไหว้ขอบคุณ
“ ขอบคุณพี่มากนะจ๊ะที่ช่วยเหลือบัวไว้ แถมยังมาส่งถึงบ้านอีก ” เขาเปิดกระจกหมวกกันน็อคขึ้นแล้วส่งยิ้มมาให้
ยิ้มแบบนั้นอีกแล้ว ยิ้มที่ทำให้หัวใจดวงน้อย ๆ ของบัวชุ่มชื่นเหลือเกิน
“ ไม่เป็นไร งั้นพี่ขอตัวกลับเลยนะ ”
“ จ้ะพี่ ขับรถดี ๆ นะจ๊ะ ”
เขาพยักหน้ารับ ก่อนจะขับรถจากไป หญิงสาวยืนมองตามหลังเขาจนลับสายตา ก่อนพึมพำอยู่ลำพัง
“ ขอบคุณมากนะจ๊ะพี่ อ้าว พี่อะไรก็ลืมถามชื่อเสียด้วย เฮ้อ นังบัวนะนังบัว ทำไมซื่อบื้ออย่างนี้นะ พี่เขาอุตส่าห์ช่วยตั้งหลายอย่างดันลืมถามชื่อ ” เธอบ่นตัวเองเบา ๆ ก่อนจะถือตะกร้าแล้วเดินเข้าบ้าน
“ ต๊าย อีบัว ทำไมมอมม่อล่อกม่อแลกมาแบบนี้วะ อย่างกับไปฟัดกับหมาที่ไหนมา ” เสียงแปร๋นของสาวอวบชื่อลำใย หนึ่งในนางบำเรอของ “ กำนันเทิ้ม ” ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผัวของเธอ เอ่ยถามขึ้น แต่น้ำเสียงนั้นคล้ายจะเย้ยหยันมากกว่าเป็นห่วง
“ มึงพูดอย่างนั้นได้ยังไงวะอีลำไย นั่นมันคนเคยโปรดของกำนันเทียวนะเว้ย ทั้งสด ทั้งซิง แต่ขอโทษเถอะ อีของซิงหรือจะมาสู้ของโชกโชนลีลาเด็ด มันก็เลยถูกเทให้เป็นหมาขี้เรื้อนข้างถนนแบบนี้ล่ะวะ ” ละมุด ที่นั่งร่วมวงกินมะม่วงน้ำปลาหวานเอ่ยกัดจิกขึ้นมาบ้าง แล้วพวกลูกคู่ทั้งหลายก็พากันหัวเราะกันเสียงดังอย่างสาแก่ใจ ทั้งที่เธอเองไม่เคยไปทำอะไรล่วงเกินพวกเขาเลยแม้แต่น้อย
บัว ผู้ถูกกำนันเทิ้มขับรถพาไปตลาดแต่เขาก็ทิ้งเธอให้กลับเอง ก้มหน้าก้มตามองพื้น ไม่ยอมตอบ น้ำตาเจ้ากรรมไหลปริ่มขอบตา จึงรีบสาวเท้าเอาของไปเก็บยังโรงครัวที่ทำแยกออกไปจากตัวเรือนหลังใหญ่
หากจะผิด ก็ผิดแค่ที่เธอมาแย่งความรักของกำนันเทิ้มให้มาหลงกับความสาวความสดของเธอได้แต่ก็เพียงแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ก่อนที่เขาจะเบื่อแล้วทิ้งขว้างเธอราวกับหมาขี้เรื้อนข้างถนนอย่างที่พวกนั้นว่า
บัวเก็บของใส่ตู้เย็นเรียบร้อยก็รีบเดินกลับไปยังห้องพักแคบ ๆ ของตนที่อยู่มุมหนึ่งของบ้าน หยิบผ้านุ่งเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำอาบท่าผลัดผ้าก่อนจะเข้ามาในห้องอีกครั้ง ก่อนจะทิ้งตัวลงบนฟูกนอน คว่ำใบหน้าลงกับหมอนใบใหญ่แล้วร้องไห้ปลดปล่อยน้ำตาและความเจ็บช้ำในอกให้มันได้ระบายออกมาบ้าง