เหมือนฟ้าแกล้งให้ฉันต้องมาเจอเรื่องร้ายๆ การย้ายมาเรียนที่ใหม่แถวชาญเมืองทำให้ฉันได้เจอกับคำดูถูกสารพัด แต่ฉันก็เลือกที่จะไม่สนใจ
“เธอใช่เอวาไหม”นักศึกษาหนุ่มเดินเข้ามาถามพร้อมรอยยิ้ม
“อื้อ” ฉันตอบไปแค่นี้แล้วเลือกที่จะก้มอ่านหนังสือต่อ
“เราเป็นแฟนคลับเธอนะ เราชื่อตุลย์นะเราสองคนเรียนคลาสเดียวกันเลย ดีใจนะที่ได้เรียนด้วยกัน”
“อื้อ” ฉันยิ้มให้ตุลย์แต่ก็ไม่อยากรู้จักไปมากกว่านี้ บอกตรงๆว่าเข็ดแล้วไม่อยากมีเพื่อนผู้ชายเลย
ถึงเวลาเรียนตุลย์ก็พาฉันมาที่ห้องเรียนมันแตกต่างจากมหาลัยเอกชนที่ฉันเคยเรียนมากเลยแต่ถ้าฉันไม่เซฟเงินไว้ก็คงไม่พอเป็นค่าคลอดไหนจะค่าใช้จ่ายต่างๆอีก
“นั่นเอวานี่หน่า ได้ข่าวว่าท้องไม่รู้จริงไหมมีคนเห็นซื้อนมสำหรับบำรุงครรภ์ด้วย” เสียงซุบซิบดังขึ้นทำให้ตุลย์ที่นั่งอยู่ไม่ไกลหันไปมองกลุ่มขาเมาท์จนพวกนั้นเงียบไป
“เอวาอย่าไปสนใจเลย เลิกเรียนเราพาไปเดินตลาดนัดหลังมอไหม ของกินเยอะมากเลยนะ”
“ไม่เป็นไรเราอยากกลับไปอ่านหนังสือน่ะ”
หลังจากเลิกเรียนฉันก็กลับมาที่หอพักเพื่อแต่งหน้ารีวิวครีมที่สาส่งมาให้ รายได้หลักหมื่นมันพอทำให้ฉันได้เก็บเล็กผมน้อยเพื่อสิ่งที่กำลังจะเกิดมาเร็วๆนี้
อีกด้าน..
วายุเลื่อนดูไอจีก็เจอโพสต์ของเอวาแต่ริชชี่ที่นอนอยู่ข้างๆดันมาเห็นเธอจึงดึงโทรศัพท์ของวายุแต่ถูกวายุกระชากกลับด้วยความเร็ว
“อย่ามายุ่งได้ไหมริชชี่ พี่ไม่ชอบ!!”
“พี่ส่องไอจีเพื่อนริชชี่ทำไมคะ ชอบมันเหรอ!!”
“ไม่เกี่ยวอะไรกับเราเลย แต่งตัวได้แล้วเดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“ไม่กลับริชชี่จะอยู่กับพี่วายุ”
“พี่จะกลับบ้านแล้ว วันนี้พ่อพี่โทรตามให้เข้าไปคุยเรื่องสำคัญ อย่ามางอแงพี่ไม่ชอบ!”
ริชชี่ยอมลุกไปใส่เสื้อผ้าเช่นเดียวกับวายุ ระหว่างที่ทั้งสองนั่งรถออกมาริชชี่ก็เข้าไปเช็คไลน์กลุ่มเผื่อว่ามีงานอะไรแต่เธอกลับตกใจที่เห็นเอวาออกจากกลุ่มไปและแชทของเพื่อนๆที่คุยกันเรื่องการลาออกของเอวา ริชชี่รีบโทรหาเอวาด้วยความเป็นห่วง เธอรู้ตัวว่าพักหลังตามติดวายุจนไม่ค่อยได้คุยกับเอวาเลยไม่รู้ว่าเอวามีปัญหาอะไรถึงขั้นลาออกจากมหาลัยแบบนี้
เอวา...
“เอวามึงลาออกจากมหาลัยทำไมมีเรื่องอะไรบอกกูมาเลย!” การสนทนาของริชชี่ทำให้วายุต้องปิดเพลงและฟังการสนทนาของเธอด้วย
[กูแค่มีปัญหานิดหน่อย ไม่เป็นอะไรหรอก]
“แล้วทำไมต้องลาออก มึงไปเรียนที่ไหนมึงมีอะไรทำไมไม่บอกกูเลย กูขอโทษที่ไม่ค่อยมีเวลาให้มึง ตอนนี้มึงอยู่ไหนเดี๋ยวกูไปหา”
[กูมาบ้าน เออแค่นี้ก่อนนะมึงกูช่วยเตี่ยเก็บของก่อน]
ริชชี่ได้แต่สงสัยเพราะเอวาโกหกเธอชัดเจนพยายามบ่ายเบี่ยงเธอทุกอย่าง อีกอย่างตอนนี้เตี่ยของเอวาไปเที่ยวจีนกับเตี่ยของเธอ
“มีอะไรหรือเปล่าริชชี่” วายุถามด้วยความสงสัยจู่ๆริชชี่ก็เงียบไป
“เอวามันลาออกจากมหาลัยแล้ว มันต้องเป็นเรื่องร้ายแรงแน่เลยพรุ่งนี้ริชชี่ต้องไปถามสาให้รู้เรื่อง”
วันต่อมา
ริชชี่รีบมาถามเรื่องราวกับสาแต่สาปฏิเสธอย่างเดียวว่าเธอไม่รู้ เพราะถ้าเกิดเอวาท้องกับวายุจริงๆคงมีปัญหาตามมาแน่
“มึงรู้แต่ไม่ยอมบอกกูมากกว่าอีสา!!”
“กูไม่รู้จริงๆ มึงจะมาสนใจมันทำไม มันโตแล้วไม่ใช่เด็กๆ”
“ก็มันเป็นเพื่อนกูไงมีปัญหาอะไรก็ควรบอกกูบ้างเผื่อกูจะช่วยมันได้”
“กูไม่รู้จริงๆแล้วนี่มึงนึกยังไงมาเรียน ปกติตามติดผัวไม่ใช่เหรอ”
“กูเป็นห่วงเอวา แต่ช่างเถอะไว้กูค่อยคุยกับมันเองดีกว่า กูไปนะ”
สามองริชชี่ที่เดินไปหากลุ่มของวายุ นี่ก็ปีสุดท้ายแล้วที่วายุต้องเรียนและก็คงเป็นปีที่สาหัสสำหรับเอวาเหมือนกัน
//เอวา//
ตอนนี้ตุลย์ซื้อผลไม้มาให้ฉันทุกวันเลย แม้ฉันจะปฏิเสธไม่รับของแต่ตุลย์ก็ไม่ยอม ฉันไม่รู้ว่าตุลย์เข้าหาฉันทำไมแต่ฉันอยากอยู่คนเดียวไม่อยากยุ่งกับใครเลย
“เอวานี่นม” ตุลย์ส่งนมจืดให้เอวาทำให้เอวาต้องละสายตาจากหนังสือมามองหน้าตุลย์
“ขอบใจนะ”
“อย่าไปสนใจคำพูดของคนอื่นเลยนะเอวา”
ฉันมองไปที่กลุ่มนักศึกษาคนอื่นที่ซุบซิบเรื่องของฉันไม่หยุด ช่วงนี้ฉันก็เริ่มมีอาการแพ้ท้องหนักขึ้นแล้ว เรื่องนี้คงปิดไม่มิดแน่ๆ
“อืม เราไม่ได้สนใจหรอก ว่าแต่ตุลย์ไม่ไปหาเพื่อนๆเหรอมาตามเราทำไม”
“คือเราเป็นลูกชายของอาจารย์พรพรรณน่ะ แม่เรารู้เรื่องของเอวา เราเลยอยากอยู่เป็นเพื่อนเอวาเผื่อมีอะไรอย่างน้อยจะได้รู้ว่ายังมีเราเป็นเพื่อนอีกคน”
เอวายิ้มให้ตุลย์ก่อนจะหยิบนมกล่องขึ้นมาเจาะแล้วดูดจนหมดเกลี้ยง ตุลย์จึงยกนิ้วโป้งให้จากนั้นทั้งสองก็หัวเราะออกมาและช่วยกันติวหนังสือจนถึงเวลาที่ต้องกลับบ้าน
“เอวาพักที่หอไหนเหรอ”
“หอแม่ปราณีหลังมอน่ะ แล้วตุลย์ล่ะบ้านอยู่ที่ไหน”
“เราพักอยู่ที่เดียวกับเอวาเลย เราไม่ชอบอยู่บ้านรำคาญพี่สาว อยู่คนเดียวมันก็ดีนะได้ใช้ชีวิตเป็นของตัวเองอยากทำอะไรก็ทำ ว่าแต่เอวาอยู่คนเดียวแล้วแฟนล่ะ”
“เราไม่มีแฟน ช่างมันเถอะอย่าไปพูดถึงมันเลย”
ตุลย์เดินมาส่งเอวาที่ห้องก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเองที่อยู่ถัดไป เอวาทิ้งตัวลงบนที่นอนได้ไม่นานก็ต้องวิ่งไปอาเจียนในห้องน้ำเพราะร่างกายของเธอดูท่าจะแพ้นม ทุกครั้งที่ดื่มนมเธอจะต้องไปคุยกับชักโครกประจำ