หญิงสาวลอบมองธีภพเห็นเขาไหว้รับพรเหมือนจะรับคำผู้ใหญ่ ไม่มีปากมีเสียงหรือชักสีหน้าใดๆ ลอบถอนหายใจอย่างโล่งใจเพราะไม่อยากให้ผู้เป็นป้ากับพี่ชายญาติผู้ใหญ่เพียงสองคนของหล่อนที่มาร่วมงานจะต้องลำบากใจกับการด้านชาของเขา แอบขอบคุณเขาในใจที่เขายังไว้หน้าหล่อน หรือว่าเขาเป็นคนเก็บความรู้สึกเก่งก็ไม่แน่ใจ
มนพัทธ์ทอดสายตามองผู้ใหญ่ที่ค่อยๆ ทยอยกันเดินออกไปจากห้องหอตามคำสั่งของคุณธนา ก่อนประตูจะปิดลงหล่อนเห็นเนตรตรียาเพื่อนรักยืนให้กำลังใจอยู่แม้ไม่พูดกันนักระหว่างจัดงานแต่สายตาของเพื่อนมันก็ทำให้อุ่นใจ แต่เมื่อหันกลับมามองผู้ได้ชื่อว่าเป็นสามีตามกฎหมายกำลังใจที่มีทั้งหมดก็แห้งเหือดโดยพลัน!
เขามองหล่อนราวกับมัจจุราชที่กำลังจะเอาชีวิต พยายามยิ้มเพื่อจะทำใจดีสู้เสือแต่ยิ้มของหล่อนไม่ได้ทำให้โลกสดใสขึ้นสักนิด หน้าที่ถูกแต่งแต้มไว้สวยหวานหยดจนตากล้องชมแล้วชมอีกค่อยๆ เจื่อนหุบยิ้มลง
“หลีกไป”
หล่อนเลิกคิ้ว แต่พอมือของเขาดันออกให้พ้นทางก็ถึงบางอ้อว่าหล่อนมายืนขวางทางประตูห้องหออยู่ เขาอาจจะอยากออกไปให้พ้นๆ ไม่ต้องทนเห็นหน้าหล่อนก็ได้ ท่าทางของเขาบอกแบบนั้น
ธีภพพยายามหมุนลูกบิดประตูให้เปิดโดยที่มนพัทธ์ยืนมองอยู่อย่างรู้สึกผิด แต่ในใจหนึ่งก็ค้านว่าที่ทำอยู่ก็เพื่อปกป้องเขา
เสียงสบถเบาๆ หลุดจากปากเขาเมื่อธีภพรู้สึกว่าห้องถูกล็อกจากด้านนอก จากนั้นก็มีเสียงของธนาตะโกนแทรกขึ้นมา
“เข้าหอให้พ้นวันไปก่อน เพื่อความเป็นสิริมงคล เดี๋ยวจะเปิดห้องให้พรุ่งนี้อยู่กันให้ดีล่ะ”
เสียงบอกเจืออารมณ์ดี โดยไม่รู้ว่าคนข้างในนั้นอยู่ในสถานการณ์ใดธีภพกลอกตาอย่างระอาผู้เป็นบิดา ขณะที่หญิงสาวเองก็หน้าเหลอหลาคิดหนักที่จะอยู่ห้องนี้กับเขาสองต่อสองจนถึงวันพรุ่งนี้ในขณะที่เวลาปัจจุบันมันเพิ่งจะเที่ยงวันเท่านั้นเอง
ลุงธนาเป็นคนที่ตลกมาก
คราวนี้มนพัทธ์ถอยฉากอย่างรู้ทันเมื่อธีภพเดินแทรกกลับมา หล่อนพยายามทำตัวลีบสุดๆ เมื่อต้องอยู่ในห้องเล็กๆ กับเขาตามลำพัง ห้องนี้เป็นห้องนอนของหล่อนที่ธนาจัดหาให้ในบ้านแยกกับห้องนอนธีภพซึ่งเขาไม่ยอมร่วมห้องกับหล่อนหลังแต่งงานธนาจึงเตรียมห้องเล็กไว้ให้หล่อน ธนาคงอยากงัดข้อกับลูกชายจึงขังหล่อนกับเขาไว้ในห้องเล็กๆ นี้เสียเต็มวัน
ถึงว่าหล่อนกับเขาถึงได้ไม่ต้องไปถ่ายพรีเวดดิ้งต่อ ป่านนี้ธนาคงทยอยส่งแขกกลับบ้านอยู่
วันนี้หล่อนเหนื่อยอ่อนพอสมควร พักบ้างก็ดีเหมือนกันหล่อนอยากดึงช่อดอกไม้สดหนักๆ ที่ประดับผมอยู่ออกเพราะกิ๊บดำนับยี่สิบตัวที่ช่างทำผมยึดมันไว้กับเส้นผมหล่อนนั้นทิ่มแทงศีรษะมาแต่เช้าจรดเที่ยง มือเล็กๆ เอื้อมไปถอดกิ๊บที่คลำได้แต่ละตัวอย่างเอาเป็นเอาตายจนได้ช่อดอกไม้สดและกิ๊บดำมาอยู่ในมือกำใหญ่ๆ หล่อนมัวแต่สาละวนกับศีรษะตัวเองจนลืมมองธีภพว่าเขาอยู่อย่างไร
หันไปมองอีกทีหล่อนก็ตาค้างของในมือร่วงหล่นไปหมดเมื่อเห็นธีภพยืนพันผ้าเช็ดตัวสีชมพูหวานจ๋อยผืนเดียวอวดแผงอกขาวสะอาดล่ำสันไร้ไขมัน เขากำลังถอดนาฬิกาที่ข้อมือออก ดูเหมือนชายหนุ่มจะรู้ว่าถูกมองเขาจึงเงยหน้ามามองคนที่ยืนหน้าแดงก่ำเพราะตื่นตระหนกกับการเปลือยของเขา
ธีภพเห็นอย่างนั้นจึงก้าวขาเข้ามาหาหล่อน หญิงสาวผงะถอยลนลาน
“คะ คุณ ธีร์ จะเข้ามาทำไมคะ อย่านะคะ”
“ที่ผ่านมาอยากได้ฉันเป็นผัวจนตัวสั่นมาถึงตอนนี้จะเปลี่ยนใจหรือไง” ขาของเขาก้าวเข้ามาหาหล่อนเรื่อยๆ มนพัทธ์ถอยหลังไปชนโซฟาแล้วขาอ่อนแรงจนนั่งลง ธีภพรู้ว่าหล่อนประหม่านึกย่ามใจเดินตามไปคร่อมตัวหล่อนเอาไว้โดยเท้าแขนกับพนักโซฟา
มนพัทธ์รู้สึกเหมือนจะเป็นลม ไม่นึกว่าเขาจะเป็นคนอย่างนี้ ที่เห็นนิ่งๆ ขรึมๆ มันภาพลวงตาแน่ๆไม่ก็ที่อยู่ตรงหน้าหล่อนคือธีภพตัวปลอม
“ว่าไง เธอจะถอยหรือยังไง”
กลิ่นหอมอ่อนที่มาจากกายเขาทำให้สติหล่อนไม่อยู่กับเนื้อกับตัว สายตาหล่อนเสหลบหน้าเขาก้มมาก็ดันมองยอดอกสีชมพูสองข้างของเขาจนเผลอกลืนน้ำลาย ลาดลงไปยังเป็นแนวขนอ่อนจากใต้สะดือขึ้นเป็นเส้นตรงแล้วหายไปตามขอบผ้าเช็ดตัว
หล่อนไม่ได้กลัวหรือว่าอยากถอยหนีสาบานได้ ที่รู้สึกหลักๆ อยู่ตอนนี้มีอาการเดียวคือ เลือดกำเดาจะไหล!