ไม่ช้าอนุชิตก็เดินขึ้นมาเก็บจานชามไปอย่างรู้งาน
“วันนี้ฉันว่าจะพายเรือคายักไปที่ชายหาดบนเกาะ เธอก็ไปเปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำได้แล้วนีน” เขาบอกหลังอนุชิตเดินพ้นสายตาไปแล้ว นีนนาราหันไปมองเกาะร้างซึ่งมีชายหาดเล็ก ๆ พอลงไปนอนอาบแดดเล่นได้ หญิงสาวถอนหายใจออกมาเบา ๆ ไม่อยากบอกเขาเลยว่าเธอยังระบมไปหมดทั้งตัว แค่อาบน้ำยังรู้สึกแสบนิด ๆ ขืนลงทะเลไปจะต้องปวดแสบปวดร้อนเป็นแน่
“คุณบารเมษฐ์คะ”
“อะไร” เขาหันมาถามกึ่งดุนิด ๆ
“ฉันไม่อยากลงทะเล”
“ทำไมละ” คราวนี้เขาแสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจ
“คือว่า เอ่อ คุณก็รู้ว่าเมื่อคืนครั้งแรกของฉัน คือตอนอาบน้ำฉันก็รู้สึกแสบตรงนั้นอยู่ ถ้าลงน้ำทะเลไปฉันคิดว่า เอ่อ คือ” ไม่รู้จะบอกเขายังไงดีได้แต่อ้ำอึ้งจนเขานึกรำคาญ
“พอแล้วนั่นไม่ได้นี่ก็ไม่ได้แล้วจะทำยังไง จะให้ฉันพายเรือไปเล่นน้ำคนเดียวหรือยังไง”
‘ตอนแรกก็เล่นคนเดียวได้นี่’
หญิงสาวแอบเถียงอยู่ในใจเงียบ ๆ ทำหน้างอเล็กน้อย นั่นทำให้บารเมษฐ์ต้องพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ ก่อนหาทางออกใหม่ให้
“เอางี้แล้วกัน เธอก็ไปแบบไม่ต้องลงน้ำสิ เดี๋ยวฉันลงคนเดียว นั่งเรือไปขึ้นฝั่งกับฉัน ไปนอนเล่นที่ชายหาดด้วยกันก็พอ”
“แบบนั้นก็ได้ค่ะ” นีนนารายอมตกลงแต่โดยดี เพราะดูไปแล้วเขาคงไม่ยอมไปคนเดียวเป็นแน่
ระหว่างตกลงกันอยู่นั้น เกิดเสียงน้ำกระเซ็นจนล้นขอบสระ ทำให้ทั้งคู่รีบหันไปมองสองคนในสระว่ายน้ำ บารเมษฐ์เหมือนจะชินกับภาพการร่วมรักกันอย่างดุเดือดในสระน้ำ แต่นีนนารานั้นแทบจะหันหน้าหนีไม่ทัน ทำไมคู่นั้นถึงได้ไม่รู้จักอายฟ้าอายดิน หรือเธอกับบารเมษฐ์บ้างก็ไม่รู้
“นีนเข้าไปเอาครีมกันแดดมาทาให้ฉันก่อน อยู่ในห้องหน้าโต๊ะกระจก” บารเมษฐ์บอกก่อนเอนหลังลงนอนบนเบาะ เขาให้ความสนใจท้องฟ้ากับทะเล มากกว่าหนังสดกลางสระน้ำเสียอีก
นีนนาราลุกขึ้นไปหยิบครีมกันแดดของตัวเอง ก่อนจะเดินไปหยิบของเขา ไม่ลืมที่จะคว้าหมวกใบใหญ่ออกมาด้วย เธอตั้งใจไม่เปลี่ยนชุดเพราะยังไงก็ไม่ได้ลงน้ำอยู่แล้ว ออกมาด้านนอกก็มีกระเป๋าใส่อุปกรณ์สำหรับปูนั่งบนชายหาดวางรออยู่ น่าจะเป็นอนุชิตที่เตรียมมาให้ หญิงสาวนำของที่หยิบมาใส่ลงในกระเป๋า นึกว่าเขาจะทาครีมกันแดดบนเรือก่อน ที่ไหนได้เขากลับเลือกไปทาบนชายหาดแทน
“ไอ้โชนไปหาดด้วยกันไหม” ก่อนไปบารเมษฐ์ยังมีแก่ใจถามเพื่อนรัก
“ไม่ล่ะฟาร์มตามสบายนะ อืม...” เจนธรรมโบกมือให้ทั้งคู่ขณะที่จิลาวัลย์กำลังควบอยู่บนตักของเขาอย่างเมามัน
นีนนารารีบก้มหน้าลงรับภาพที่เห็นตรงหน้าไม่ได้ หญิงสาวเดินลงบันไดไปยังจุดปล่อยเรือคายัก บารเมษฐ์จับเรือให้หญิงสาวขึ้นไปนั่งก่อนเขาขึ้นตามมาทีหลัง เธอปล่อยให้เขาเป็นคนพายเรือพาเธอขึ้นไปยังชายหาด หญิงสาวเดินตรงไปใต้ต้นไม้ใหญ่ที่มีร่มเงาก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นก็ปูผ้าผืนกว้างออกนั่งเล่นอยู่ใต้ต้นไม้
“เธอไม่อาบแดดเหรอ” บารเมษฐ์ถามคนที่นั่งอยู่บนผ้า
“ไม่ค่ะฉันไม่ชอบ”
“งั้นก็ทาครีมกันแดดให้ฉันก่อน” บารเมษฐ์ถอดเสื้อยืดสีขาวออก เหลือแค่กางเกงว่ายน้ำตัวเดียว เขานอนคว่ำหน้าลงบนผ้าที่ปูไว้
นีนนาราเปิดกระเป๋าหยิบครีมกันแดดออกมาเทใส่มือ ลูบไปตามแผ่นหลังของเขาให้ถ้วนทั่ว ตอนแรกก็ปกติดีอยู่หรอกแต่พอเขาพลิกตัวขึ้นมาเท่านั้นแหละ อาการประหม่าก็ก่อเกิดในทันที ไม่ว่าจะเป็นสายตาที่มองเธอ เหมือนจะทะลุไปถึงความคิด หรือมัดกล้ามเนื้อที่เธอต้องลูบไล้ผ่าน ยิ่งทาตรงต้นขาก็ยิ่งรู้สึกกระดากอายขึ้นมา
“เธอควรจะทาเข้าไปข้างในกางเกงด้วยนะนีน” เขาบอกเมื่อเธอเว้นบางแห่ง ภายใต้กางเกงว่ายน้ำของเขา
“พอดีฉันใส่กางเกงสองตัว” เขาพูดแล้วขยับถอดตัวนอกออก เหลือกางเกงว่ายน้ำตัวแนบเนื้อ ที่อยู่ข้างในอีกตัว
นีนนาราเป่าลมออกปากเล็กน้อย เธอจะทาครีมกันแดดยังไงไม่ให้สายตาจดจ้อง อยู่แต่กับน้องชายของเขา หญิงสาวไม่ได้ทะลึ่งตึงตังแต่ว่าบางอย่างกลางตัวเขา นั้นใหญ่เกินกว่าจะหลบเลี่ยงสายตาได้ หญิงสาวกลั้นใจทาต้นขาด้านหน้าให้เขาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะทาลงไปยังด้านล่าง และเสร็จเรียบร้อยลงในเวลาอันรวดเร็ว
“รู้จักกับมันมาทั้งคืนทำไมถึงยังไม่ชินอีก” บารเมษฐ์ส่ายหน้าใส่คนที่กลัวจนตัวสั่น นึกหมั่นไส้ในท่าทางที่กลัวจนเกินเหตุ คว้าฝ่ามือน้อย ๆ มาวางแปะอยู่บนน้องชายของเขา
“อ๊ะ ! คุณบารเมษฐ์คุณจะทำอะไร ปล่อยมือฉันนะ” ยิ่งเธอดึงมือออกเขาก็ยิ่งดึงให้จับให้ลูบไล้หนักขึ้นกว่าเดิม
“ก็ทักทายกันหน่อยเป็นไรไป”
“ปล่อยสิคุณบารเมษฐ์ ปล่อยนะ โอ๊ย !” คนถูกปล่อยแรง ๆ ถึงกับหงายหลังตึงไปในทันที บารเมษฐ์หัวเราะเยาะเธอเสียงดังลั่นหาดกันเลยทีเดียว เขาไม่ช่วยฉุดเธอลุกขึ้นด้วยซ้ำ หญิงสาวยันตัวเองขึ้นมาอย่างโกรธ ๆ รีบปัดเศษทรายออกจากตัว มองคนที่คว้าแว่นตากันแดดขึ้นมาสวม พร้อมกับเดินผิวปากไปตรงชายหาดอย่างโมโห
“ขอให้ตายคาทรายไปเลย !” ใจจริงอยากตะโกนใส่เขาดัง ๆ แต่ทำได้แค่ตะโกนเบา ๆ อยู่ใต้ต้นไม้
เขาอาบแดดหรือหลับกลางแดดก็ไม่รู้ ดูแน่นิ่งจนเกินเหตุ แต่บรรยากาศของเกาะนี้ก็สงบ และน่านอนอยู่เหมือนกัน เสียงสายลมปะทะกับเสียงคลื่นทะเล ทำเธอรู้สึกง่วงขึ้นมา รีบสะบัดผ้าปูให้ทรายหลุดออกแล้วเอนตัวลงนอนบ้าง เขานอนอาบแดดเธอนอนอาบลมต่างคนต่างนอนแล้วก็หลับกันไป
สองคนบนชายหาดกำลังตักตวงความสุขจากธรรมชาติ คนที่อยู่ในสระน้ำ ก็กำลังตักตวงความสุขทางกายของกันและกัน บิกินีหลุดออกจากตัวของจิลาวัลย์ลอยอยู่บนน้ำทั้งสองชิ้น กางเกงว่ายน้ำของเจนธรรมถูกถอดวางไว้บนขอบสระ จิลาวัลย์รู้ดีว่าเธอต้องปรนเปรอเขาให้ดีที่สุด เพราะเจนธรรมเป็นลูกชายเศรษฐีคนหนึ่งของจังหวัด ที่สำคัญได้ข่าวว่าเขาจ่ายหนักใช่เล่น เธอเลือกถูกแล้วที่เดินตรงเข้ามาหาผู้ชายคนนี้ เพราะดูแล้วบารเมษฐ์คงจะอ่อยยากน่าดู
“คนสวยอยากไปเล่นที่ชายหาดกันไหม”
“จะไปจริงเหรอคะคุณเจนธรรม จิลว่าเราอยู่ที่นี่ดีกว่านะคะ” เธอบอกแล้วเลื่อนฝ่ามือลงไปด้านล่าง ลูบความแข็งขืนใต้น้ำของเขาไปมา สังเกตเห็นสีหน้าของเขากำลังเคลิบเคลิ้มตามแรงจับรูดจากมือของเธอ รอยยิ้มหวาน ๆ จึงผุดขึ้นตรงใบหน้า ความจริงเขาเสร็จไปรอบหนึ่งแล้วล่ะ แต่เธอนั้นยังเลยต้องลงมือเล้าโลมกันใหม่
น้ำในสระถึงกับกระฉอกกระเซ็นจนเปียกทั่วพื้นเรือ แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่ยอมหยุด จิลาวัลย์หันหลังให้เขาพร้อมกับคุกเข่าลงบนบันไดใต้น้ำ ฝ่ายชายนั้นแนบสะโพกเข้าหาจากด้านหลัง ต่างสอดประสานกันในท่ายืน
“อ๊ะ ! อื้อ ! อา !” แน่นอนว่าเสียงกรีดร้องของหญิงสาวก็ดังใช่เล่น ชายหนุ่มอีกสองคนที่อยู่ในห้องเครื่องของเรือถึงกับมองหน้ากันแล้วหัวเราะเบา ๆ
“คุณจิลนี่เด็ดน่าดูเลยนะพี่วิน” แม้จะไม่ได้ชะโงกหน้าออกไปดู แต่ทั้งคู่ก็สามารถได้ยินเสียงกรีดร้องอันแสนจะเซ็กซี่ของจิลาวัลย์ผ่านทางประตูห้องเครื่องที่เปิดแง้มเอาไว้
“เออ เด็ดจริงพี่ลองมาแล้ว” ธาวินกระตุกยิ้มยกแก้วเหล้าขึ้นจิบไปด้วย
“โห อิจฉาพี่วินเลย”
“แล้วคุณบารเมษฐ์กับเด็กใหม่เป็นไงบ้าง” ธาวินมัวแต่นอนเล่นอยู่ในห้องเครื่องเลยไม่ทันได้เห็นสองคนนั้น