ตาก็แอบมองเขาไปด้วย เหมือนมีบางเรื่องตะขิดตะขวงใจต่อกันอยู่
“เธอนี่มันยังไงนะนีน ไม่เป็นงานเป็นการเอาซะเลย ตั้งแต่ขึ้นเรือมา ฉันไม่เห็นเธอจะเอาอกเอาใจอะไรฉันเลย เขาจ้างมาถูก ๆ หรือยังไงกัน ถึงได้ทำงานชุ่ย ๆ แบบนี้” หลังกินข้าวไปได้สักพักใหญ่ ๆ บารเมษฐ์ก็เอ่ยขึ้น
“เอ่อ ขอโทษค่ะคุณบารเมษฐ์ พอดีว่าฉันทำงานไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ค่ะ” บอกออกไปแบบนี้คงไม่เป็นไร ขืนบอกไปว่าไม่เคยทำงานเลยสักครั้งเดียว เรื่องราวคงบานปลายใหญ่โต
บารเมษฐ์ไม่ได้ต่อว่าอะไรเธอออกมาอีก เขาสนใจอาหารตรงหน้ามากกว่า นีนนารารวบช้อนส้อมเธออิ่มก่อนเขา สักพักหนึ่งเขาก็อิ่มตาม จากนั้นอนุชิตขึ้นมายกจานชามลงไปเก็บ ตามด้วยดับไฟบนชั้นดาดฟ้า เพื่อนำตะเกียงไฟฟ้าขึ้นมาตั้งอยู่รอบ ๆ บริเวณ พอให้มีแสงสว่างแบบสลัว ๆ เพิ่มบรรยากาศแสนหวานยามค่ำคืน ธาวินเป็นคนยกเหล้าขึ้นมาให้ ไม่วายปรายตามองไปที่นีนนารา ออกแนวข่มขู่อยู่ตลอดเวลา
“คุณธาวินครับ”
“ครับคุณบารเมษฐ์” ธาวินรีบละสายตาจากนีนนารามาที่คนเรียกแทน
“ขอเวลาส่วนตัวนะครับ ห้ามใครขึ้นมาบนดาดฟ้านี้อีกถ้าผมไม่เรียก” เขาบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ นีนนาราหายใจติดขัดขึ้นมาเขาสั่งแบบนี้ คงไม่ใช่เรื่องดีสำหรับตัวเธอ
“ได้ครับคุณบารเมษฐ์” ธาวินน้อมศีรษะให้เขาก่อนเดินลงบันไดไป
บรรยากาศยามค่ำกับคำสั่งห้ามใครรบกวน เรื่องแบบนี้เธอไม่ใช่เด็กอมมือถึงจะไม่รู้ว่าเขาต้องการสิ่งใด ลมทะเลพัดมาแต่ไม่เหนียวตัวเหมือนทะเลบางแห่ง หญิงสาวเผลอยกมือขึ้นกอดตัวเองเล็กน้อย แต่แล้วเขาก็เขยิบเข้ามานั่งใกล้ ๆ กับเธอ พาดมือไปบนพนักเบาะนั่ง แล้วเลื่อนมือลงมากอดเธอไว้แบบหลวม ๆ หญิงสาวออกอาการสะดุ้งตกใจเล็กน้อย
“ตกใจอะไรนักหนาทำเป็นไม่เคยไปได้ อ้อ เรียกร้องความสนใจสินะ” ดูเขาจะคุ้นเคยกับหญิงสาว ที่ทำอาชีพแบบนี้เหลือเกิน แต่ถ้าใกล้กว่านี้อีกนิด จะรู้ว่าหัวใจของเธอนั้นแทบจะเต้นทะลุออกมานอกอกอยู่แล้ว หากออกแรงผลักเขาออก จะถูกจับถ่วงทะเลตอนนี้ไหมนะ แอบคิดเองแล้วรู้สึกสยองขวัญไปเอง
“ใส่เสื้อแบบนี้ถอดยากรู้ไหม” เขาเอ่ยลอย ๆ ก่อนเลื่อนแก้วเหล้ามาให้เธอชงให้ นีนนาราได้โอกาสขยับตัวออกจากอ้อมกอดของเขาเล็กน้อย หันไปสนใจการชงเหล้าให้เขาแทน แต่มือที่จับที่คีบน้ำแข็งกลับสั่นระริก
“อุ๊ย ! ขอโทษค่ะ” ก้อนน้ำแข็งหล่นกระเด็นลงพื้น นีนนาราทำท่าจะก้มลงเก็บ แต่ก็ถูกเท้าของบารเมษฐ์เขี่ยทิ้งไปด้านหน้า
“ขอโทษค่ะ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาขอโทษเขาอีกครั้ง รีบจัดการชงเหล้าให้เขา แต่มือของเธอก็ยังสั่นอยู่ไม่เลิก
“โอ๊ะ !” เขาแย่งที่คีบน้ำแข็งไปจากมือของนีนนารา แล้วจัดการชงเหล้าให้ตัวเองแทน
“ตื่นเต้นเหรอที่ได้อยู่กับฉันสองต่อสอง ในบรรยากาศเร้าใจแบบนี้” เขาถามระหว่างยกแก้วเหล้าขึ้นจรดริมฝีปาก นีนนาราไม่ตอบเขาเธอทำแค่นั่งนิ่ง ๆ อยู่ที่เดิม แต่มือที่พาดมาบนพนักเบาะนั่งของเขานี่สิ กำลังเขี่ยหัวไหล่ด้านขวาของเธอเล่นไปมา
“อื้อ !” นีนนาราตกใจเพราะเขารวบตัวเธอ เข้ามากอดให้แนบชิด ดันศีรษะของเธอให้เอนซบบนบ่าของเขาอีก
“ตอนนี้ฉันอารมณ์ดีแล้วคนสวย มาออดอ้อนได้เต็มที่เลย” บารเมษฐ์บอกแบบยิ้ม ๆ กลางวันเขากำลังหงุดหงิดและโมโหเรื่องงาน แต่พอได้ดำน้ำดูปลาดูปะการังแล้วอารมณ์ก็พลอยสดชื่นตามมา
“เอ่อ คุณบารเมษฐ์คะ ฉัน เอ่อ” คนกลัวเกิดติดอ่างขึ้นมากะทันหัน
“เธอไม่กินเหล้าเหรอนีน” บารเมษฐ์กลับถามไปอีกเรื่อง
“ฉันกินไม่เป็นค่ะ”
“ไม่จริงมั้ง อาชีพอย่างเธอน่ะต้องกินเป็นสิ มาฉันป้อน” เขาเอาแก้วเหล้าไปจ่อตรงริมฝีปากของหญิงสาว
“ไม่นะคุณบารเมษฐ์ ฉันกินไม่เป็นจริง ๆ” หญิงสาวยกฝ่ามือดันแก้วเหล้าของเขาออก นั่นทำให้อีกคนรู้สึกโมโหขึ้นมา
“กินเดี๋ยวนี้ !” เสียงตวาดดังลั่น เขาตรึงตัวเธอเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย บังคับให้เธอกินเหล้าในแก้วอย่างทุลักทุเล
นีนนาราทั้งกลัวทั้งตกใจในท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขา หญิงสาวน้ำตาหยดแหมะลงในทันที แต่ก็ยอมเปิดปากรับเหล้าเข้ามาในลำคอ รสชาติขมจนแสบคอ ทำให้หญิงสาวมีท่าทางแปลก ๆ เหมือนจะขย้อนสิ่งที่กลืนลงไปออกมา
‘เหลือเชื่อไม่เป็นจริง ๆ เหรอ’
บารเมษฐ์ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ พลางมองคนที่ยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นดื่มจนหมดแก้ว ท่าทางลนลานของนีนนารา ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอีกรอบ กะว่าจะได้รับการบริการที่ถึงอกถึงใจ แต่กลับได้เด็กน้อยไร้ความสามารถมาเสียอย่างนั้น ถูกเขาจ้องก็เอาแต่หลบสายตาไปทางอื่น เผลอนิดเดียวก็ขยับตัวห่างออกไปเป็นศอก มันน่านัก !
“มานี่ !”
“คะ”
“ฉันบอกว่ามานั่งใกล้ ๆ ฉัน”
“เอ่อ ฉันนั่งตรงนี้ก็ดีแล้วค่ะ...” เธอสบสายตาจ้องดุ ๆ ของเขาก็ต้องหุบปากลง แล้วขยับเข้าไปนั่งใกล้กับเขาอย่างจำใจ ทุกการเคลื่อนไหวของนีนนารานั้น คนที่นั่งไขว่ห้างเอนหลังไปกับเบาะในท่าสบาย ๆ จดจ้องอยู่ตลอดเวลา
“น่ารำคาญ แกร๊ก !” เสียงวางแก้วเหล้ากระแทกพื้นโต๊ะกระจกค่อนข้างดัง
“อ๊ะ !” นีนนาราแทบจะกรีดร้องออกมาดัง ๆ หลังถูกเขาดันตัวลงไปนอนบนเบาะนั่งแนวยาว ดีที่เธอยังมีสติใช้ฝ่ามือดันหน้าอกเขาไว้ทั้งสองข้าง
“อย่ามาทำตัวน่าเบื่อน่ารำคาญนะนีน ฉันต้องการคนมาช่วยให้ผ่อนคลาย ไม่ใช่มานั่งตัวแข็งเป็นก้อนหินอยู่แบบนี้ ไอ้โชนมันบอกหรือเปล่า ว่าจะจ่ายเท่าไหร่ ถึงได้ทำงานด้อยคุณภาพขนาดนี้” เขาพูดพร้อมกวาดตามองอีกคนไปทั้งตัว
“ฉันไม่รู้ค่ะคุณบารเมษฐ์ คุณปล่อยฉันก่อนนะคะ ฉันยังไม่พร้อมจะทำงานตอนนี้ค่ะ”
“ไม่พร้อมก็ไม่ต้องขึ้นเรือมาสินีน นี่เธอขึ้นมาแล้วแปลว่าเธอพร้อมที่จะทำงานนี้แล้วรู้ไหม”
“คุณบารเมษฐ์ !”
“อะไร !”
“คุณจับอะไรฉันอยู่”
“โธ่เว้ย ! ก็จับนมเธอยังไงล่ะ”
นีนนาราช็อกกับคำพูดโต้ง ๆ ของเขา หญิงสาวก้มลงมองมือของเขาซึ่งกำลังตะปบหน้าอกของเธออยู่ ก่อนจะหน้าเหยเกเพราะแรงบีบเคล้นหนัก ๆ ของเขา
“จะ...เจ็บ” ยิ่งเธอบอกเขายิ่งออกแรงหนักกว่าเดิม ท่าทางคุกคามของเขา ดูน่ากลัวกว่าเจนธรรมเสียอีก
“เธอน่าจะเคยผ่านผู้ชายที่ชอบอะไรเจ็บ ๆ แบบฉันมาบ่อยแล้วนะนีน รสนิยมของผู้ชายแต่ละคนไม่เหมือนกันอยู่แล้วนี่ บางคนชอบความนุ่มนวล” เขาแตะจูบแผ่ว ๆ บนริมฝีปากของหญิงสาว
“หรือชอบความรุนแรง” ก่อนจะบดขยี้ริมฝีปากของเธออย่างหนักหน่วง
“อื้อ !” นีนนาราดิ้นหนีเขาจนสุดกำลัง แต่นั่นเป็นการทำให้เขารู้สึกโกรธขึ้นมา
“นีน ! หยุดดิ้นเดี๋ยวนี้” บารเมษฐ์จับไหล่ทั้งสองข้างของหญิงสาว แล้วกระแทกลงบนเบาะแรง ๆ
นีนนาราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเธอ รู้แค่ว่าน้ำตามันไหลออกมาไม่ยอมหยุด รู้สึกกลัวกับสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ บารเมษฐ์คร่อมทับอยู่บนลำตัวของเธอ โดยที่ขาข้างหนึ่งอยู่บนพื้นอีกข้างชันเข่าอยู่บนเบาะ ในความมืดสลัวแบบนี้เธอยังมองเห็นแววตาดุดันน่ากลัวของเขา จนหลุดเสียงสะอื้นไห้เล็ดลอดออกมา
“อ๊ะ ! ไม่นะ” เสื้อกล้ามกับชั้นในถูกเขาดันขึ้นไปอยู่เหนืออกพร้อม ๆ กัน ฝ่ามือกระด้างของเขาบีบขย้ำทั้งสองเต้าสลับข้างกันไปมา นีนนาราทั้งดันทั้งผลักเขาแต่เธอกลับไม่กล้าส่งเสียงร้องให้ใครช่วย
“เป็นบ้าอะไรอีก !”
“ฮึก...ฮือ อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ ฉันไม่พร้อมจริง ๆ คุณบารเมษฐ์”
“เออ ! บนนี้ไม่ทำก็ได้ไม่ถนัด ลุกเข้าห้องกัน”
“ว้าย !” เขากระชากทีเดียวนีนนาราแทบตกเบาะนั่ง