ดำไปได้ไม่กี่นาทีหญิงสาวก็เอาฝ่ามือมาลูบแผ่นหลังของเขาเบา ๆ จากนั้นทั้งคู่ก็โผล่หน้าขึ้นสู่ผิวน้ำ
“เป็นอะไร” บารเมษฐ์มองสำรวจคนที่มีอาการ หอบหายใจเหนื่อยผิดปกติ
“เปล่าค่ะ แต่อยู่ใต้น้ำนาน ๆ ฉันรู้สึกอึดอัด เลยอยากขึ้นมาด้านบนเท่านั้นเองค่ะ”
“เหลืออีกนิดเดียวก็จะวนรอบเกาะแล้ว ไปต่อเถอะ”
“อืม ก็ได้ค่ะ เอ๊ะ” นีนนาราตกใจเล็กน้อยที่เขาเข้ามาประชิดจากด้านหลังจนเกินควร
“มาดำน้ำใกล้ ๆ ฉันจะได้ไม่ต้องรู้สึกกลัวไง” เขาจับมือของหญิงสาวไว้ตลอดการดำน้ำ ช่วยพยุงพาว่ายไปตลอดทาง ความงดงามใต้ท้องทะเล ทำให้นีนนาราลืมความกลัวไปชั่วขณะหนึ่ง เขาพาโผล่ขึ้นมาสูดอากาศเหนือน้ำอีกสองครั้ง กว่าจะดำได้รอบเกาะ เหมือนเวลาจะผ่านไปไม่นานเท่าไร แต่พอบารเมษฐ์ดูนาฬิกาที่ข้อมือ ก็ใช้เวลาสี่สิบกว่านาทีเลยทีเดียว
“ฟาร์ม ! ฉันขึ้นก่อนนะหนาวแล้ว” เสียงของเจนธรรมตะโกนเสียงดังมาแต่ไกล เขากำลังดันสะโพกของจิลาวัลย์ให้ขึ้นบันไดเรือไป
“เออ ! เดี๋ยวตามไป” บารเมษฐ์เลยตะโกนตอบกลับไปบ้าง ก่อนจะส่ายหน้าหัวเราะเบา ๆ
“เอาแต่หัววันเลยนะไอ้โชน”
นีนนาราสะดุ้งกับคำพูดกึ่งเย้าของเขา เข้าใจในความหมายคำพูดนั้นเป็นอย่างดี หญิงสาวหันไปมองเจนธรรม เห็นเขากำลังกอดเอวจิลาวัลย์ เดินขึ้นเรือไปแบบรีบ ๆ บารเมษฐ์คงจะไม่ทำแบบนั้นกับเธอ
“เป็นอะไรไป”
“เปล่าค่ะ คือฉันอยากขึ้นเรือแล้วรู้สึกหนาวค่ะ”
“ก็ไปสิ เดี๋ยวฉันไปเอาห่วงยางก่อน” เขาว่ายน้ำไปดึงห่วงยางออกจากกิ่งไม้ นำมายื่นให้หญิงสาวเกาะว่ายเข้าไปหาเรือ
พอขึ้นเรือได้นีนนารารีบคว้าผ้าขนหนู มาซับน้ำออกจากตัว หันไปหยิบเสื้อคลุมมาสวม แล้วเดินเข้าไปภายในเรือ ที่มีทางเชื่อมเข้าไปหาห้องนอนจากตรงนี้ได้เลย ตรงเข้าไปหาห้องน้ำในทันที สายตาของหญิงสาว พลอยแต่จะหันไปมองอ่างอาบน้ำอยู่เรื่อย เหมือนมันมีเอาไว้เพื่อทำอย่างอื่นมากกว่าการอาบน้ำเฉย ๆ สลัดความคิดทางลบออก แล้วลงมืออาบน้ำให้เร็วที่สุด ก่อนจะเดินออกมาด้วยเสื้อคลุมสีขาวตัวใหญ่
“คุณบารเมษฐ์ คุณเข้ามาได้ยังไงคะ” หญิงสาวผงะเมื่อเห็นเขานั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะกระจก ท่าทางเหมือนกำลังรอคิวอาบน้ำต่อจากเธอ
“นี่มันห้องฉัน เธอลืมอะไรไปหรือเปล่านีน” เขาส่ายหน้าไปมาอย่างช้า ๆ ลุกขึ้นเดินผ่านหน้าเธอเข้าห้องน้ำไป
นีนนาราตัวชาไปหมดจากคำพูดของเขา นี่ห้องเขาถูกต้องแล้ว เธอต่างหากที่อยู่ผิดที่ผิดเวลา ปัญหาเลยประดังประเดเข้ามาอยู่แบบนี้ เดินไปทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ แล้วหยิบไดร์ออกมาเป่าผมตัวเองให้แห้ง เปิดกระเป๋าเสื้อผ้าเลือกชุดที่ดูมิดชิดมากที่สุดมาสวมใส่ เป็นกางเกงผ้าฝ้ายขาห้าส่วน กับเสื้อคอกลมแขนสั้น
‘ไม่เป็นไรหรอกน่านีน ขนาดใส่บิกินีเขายังไม่สนใจเลย’
แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ก็ยืนปลอบใจตัวเองอยู่หน้ากระจก หญิงสาวนั่งเล่นอยู่ภายในห้องฆ่าเวลาไปก่อน เพราะยังไม่รู้ว่าจะต้องอยู่ส่วนไหนบนเรือในเวลานี้
สักพักใหญ่ ๆ บารเมษฐ์ก็เปิดประตูห้องน้ำออกมา ด้วยชุดคลุมอาบน้ำ เขาปรายตามาทางนีนนาราเล็กน้อย ก่อนทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะกระจก
“นีนมาเป่าผมให้ฉันหน่อย” เป็นครั้งแรกที่เขาเรียกใช้เธอ
“เอ่อ ค่ะคุณบารเมษฐ์” หญิงสาวรีบลุกขึ้นจากที่นั่ง เดินเข้าไปหาเขาในทันที
ท่าทางเช็ดผมให้เขาดูเงอะงะไปหมด บารเมษฐ์มองเห็นความแปลกของหญิงสาว ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหน้ากันแล้ว เพียงแต่เขาไม่ได้ให้สนใจหญิงสาวเท่าไรนัก เขาผ่านมาเยอะจนล้นความต้องการ ช่วงเวลานี้เหมือนเขาเริ่มรู้สึกเบื่อหน่าย บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ของตนเอง สลัดทิ้งไปก็หลายรายแล้ว
“เธอเป็นเด็กใหม่เหรอนีน” คำถามของเขา ทำให้มือที่กำลังจับผ้าขนหนูผืนเล็ก เช็ดเส้นผมของเขาต้องชะงัก พร้อมกับท่าทีอึกอักอย่างเห็นได้ชัดเจน
“เปล่าค่ะไม่ใช่เด็กใหม่” นีนนาราไม่ยอมรับเพราะไม่อยากให้ทุกคนเดือดร้อน หญิงสาวเลือกที่จะก้มหน้าโกหกเขาออกไป
“จริงเหรอ คงจะช่ำชองไม่น้อยสินะ” เขาประชดกึ่งเยาะ
‘นั่นก็เกินไป’
นีนนาราค่อนขอดอยู่ในใจ เอื้อมมืออกไปหยิบไดร์มาเป่าผมให้เขา สายตาของเธอจ้องเพียงเส้นผมบนศีรษะของเขา ไม่ได้รู้เลยว่าบารเมษฐ์กำลังมองสำรวจเธอ ผ่านกระจกบานใหญ่ตรงหน้า
นีนนาราเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างสวยใช้ได้เลยทีเดียว ผิวพรรณขาวนวลเปล่งปลั่ง เส้นผมยาวสลวยดำขลับตัดกับกรอบหน้ารูปไข่ ริมฝีปากสีชมพูสดเป็นกระจับพอดี รูปร่างก็จัดว่าอวบอิ่มเต็มไม้เต็มมือแน่นอน เว้นเสียแต่ว่า
“นีน”
“คะ”
“รสนิยมเรื่องเสื้อผ้าเธอห่วยชะมัด”
“ตัวนี้เหรอคะ” เธอก้มลงมองชุดที่สวมอยู่
“ใช่น่ะสิ อาชีพแบบเธอต้องแต่งยั่วยวนผู้ชายสิ ไม่ใช่แต่งเป็นป้าแบบนี้ฉันรับไม่ได้นะ เป่าผมฉันเสร็จแล้วก็ไปเปลี่ยนชุดใหม่เลยนะ เดี๋ยวคนอื่นจะได้หัวเราะเยาะฉันเอาพอดี” สีหน้าของบารเมษฐ์ ไม่ได้บอกว่าเขาพูดเล่นเลยแม้แต่น้อย หญิงสาวพยายามนึกหาชุดที่ดูไม่ป้าอย่างที่เขาบอก แต่ก็นึกออกแค่กางเกงยีนขาสั้นกับเสื้อกล้ามที่เธอติดมาด้วย
“เสร็จแล้วค่ะ” เธอใช้มือสางผมของเขาให้เข้าที่ ก่อนเสียบไดร์เป่าผมตรงช่องเก็บ
“เปลี่ยนชุดเสร็จแล้วตามฉันขึ้นไปบนดาดฟ้านะ จะได้กินข้าวเย็นกัน” เขาบอกแล้วลุกเดินไปยังตู้เสื้อผ้า ส่วนนีนนารานั้นเดินไปเปิดกระเป๋าตัวเอง รื้อหาชุดที่คิดว่าเขาน่าจะพอใจกว่าชุดนี้
ระหว่างเดินขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้า หญิงสาวเจอธาวินยืนอยู่หน้าบันไดทางขึ้น เขามองเธอด้วยสายตาไม่พอใจอยู่ตลอดเวลา คงกลัวเธอทำพลาดแล้วงานเขาจะเสียหาย
“อย่าเพิ่งไปนีน”
“คุณธาวินมีอะไรกับฉันเหรอคะ”
“ไปที่ห้องครัวแล้วยกอาหารที่ไอ้ชิตมันทำ ยกขึ้นไปให้เจ้านายบนดาดฟ้าด้วย” ธาวินชี้นิ้วไปที่ห้องครัวของเรือ
“ได้ค่ะ” นีนนารารีบเดินไปยังห้องครัวตามที่อีกฝ่ายบอก พบอนุชิตในชุดผ้ากันเปื้อนกำลังก้ม ๆ เงย ๆ อยู่หน้าเตา
“คุณธาวินให้มายกอาหารค่ะ”
“ตรงนี้เลยครับคุณนีนผมจัดไว้ให้แล้ว เมื่อกี้คุณจิลก็ยกไปแล้วชุดหนึ่ง เอาเข้าไปกินในห้องนอนน่ะ” อนุชิตบอกแบบอมยิ้ม
“กินในห้องนอน ?”
“ใช่ครับ เห็นว่าเจ้านายไม่อยากออกจากห้อง ผมว่าเจ้านายคนนี้เซ็กซ์จัดนะครับ” อนุชิตกระซิบเบา ๆ พอให้ได้ยินกันแค่สองคน นีนนาราได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ ให้เขา หันไปยกถาดอาหารแล้วเดินขึ้นไปบนดาดฟ้าอย่างรวดเร็ว
เป็นไปอย่างที่อนุชิตพูดจริง ๆ บนดาดฟ้ามีแค่บารเมษฐ์เพียงคนเดียว สองคนนั้นยังอยู่ในห้องนอนของพวกเขา เซ็กซ์จัด คำนี้ทำเธอสยองขวัญขึ้นมา
“มาช้านะ” เขาต่อว่าทันทีที่หญิงสาววางถาดอาหารลงบนโต๊ะ ปรายตามองชุดที่นีนนาราใส่แล้วก็พาลหงุดหงิดเล็กน้อย
“เธอมีปัญญาหาชุดได้แค่นี้เองเหรอนีน”
“เอ่อ ขอโทษค่ะคุณบารเมษฐ์” คนถูกต่อว่าเป็นครั้งที่สองหน้าสลดลงเล็กน้อย คิดว่าชุดนี้น่าจะโอเคที่สุดแล้วแต่เขาก็ยังไม่พอใจอยู่ดี
“หรือคิดว่าเวลาทำงานส่วนใหญ่แล้วไม่ต้องใส่ เลยไม่ได้เตรียมชุดอื่นมาด้วย” เขายิ้มประชดแบบร้าย ๆ
“ไม่ใช่นะคะ ฉันไม่ได้คิดแบบนั้นเลย คือเตรียมมาแค่นี้จริง ๆ ค่ะ” นีนนารารีบปฏิเสธในทันที จะบอกความจริงให้เขารู้ก็ไม่ได้
“หึ เย็นนี้ไอ้โชนกับคู่ขา คงไม่ออกมาข้างนอกห้องจนถึงเช้าแน่ เพราะฉะนั้นคงมีแค่เธอกับฉันที่ต้องกินข้าวเย็นกันนะ”
คำว่าคู่ขาของเขาทำนีนนาราตัวชาวูบขึ้นมา
“กินข้าวกันดีกว่า” ชายหนุ่มหันมาสนใจอาหารที่อยู่ตรงหน้า บารเมษฐ์กินทุกอย่างด้วยความเอร็ดอร่อย ผิดกับนีนนาราที่ค่อย ๆ ละเลียดข้าวเข้าปากอย่างฝืดคอ