: CHAPTER 5 : Older twin brother
การทำงานกับภากรนั้นพวกหล่อนคงได้ยินมาบ้างแล้วว่าชายหนุ่มไม่ใช่คนเรื่องมากอะไร ยังจัดการงานทุกอย่างได้อย่างไร้ที่ติโดยเฉพาะงานบ้านงานเรือน
“คุณอาจะไปธุระหรือครับ เย็นนี้กลับมาทานข้าวที่บ้านไหม? ผมได้บอกน้องวี... ให้รอคุณพ่อไหมครับ?”
“อาต้องไปรับหน้างานอีกโรงแรม มีปัญหาเรื่องตัวเลขกำไรนิดหน่อยคงกลับดึก เป็นวันเสาร์แล้วกันนะ จัดมื้อใหญ่ ๆ ให้ลูกสาวอาเลย”
“ครับ... ผมจะบอกน้องให้ครับ” ในน้ำเสียงแฝงรอยยิ้มสุขุมนุ่มลึกจากเก้าอี้หมุนในฝั่งตรงกันข้าม แปลกที่ประธานบริษัทใหญ่หน้าตาผ่อนคลายความเครียดลงพอได้พบหน้าเขา
แท็บเล็ตอีกเครื่องจากเลขานุการสาวรุ่นใหญ่ถูกส่งให้ถึงมือ ชายหนุ่มปัดปลายนิ้วไปมาเพ่งมองจอสี่เหลี่ยม รายรับของโรงแรมไตรมาสที่ 1 ช่วงต้นปีมาจนถึงท้ายปี การเปลี่ยนแปลงมูลค่าการขาย ธุรกิจร้านค้าในโรงแรมอีกส่วน ตัวเลขมากมายละลานตาไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาอยู่แล้ว
“เอกสารเอาที่คุณแป๋วนะ เรื่องเดิมไม่มีอะไรมาก ระดับภีมคุยกับหุ้นส่วนอาได้สบาย ๆ สรุปไตรมาส ขยายฐานลูกค้าโรงแรมอาเตรียมไว้หมดแล้วล่ะ”
“ครับคุณอา” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นยิ้มตอบ เจ้าของห้องก็รีบโบกมือไล่สาว ๆ ออกจากห้องไป ทำชะเง้อคอรอจนกระทั่งประตูปิดสนิทดี ค่อยลดน้ำเสียงลงบอก
“เอ้อ... เรื่องวีณา... อาเพิ่งสั่งงานให้ไปลองเปิดโปรเจกต์ใหม่ เริ่มตั้งแต่ประมูลที่ยันปักเสาเข็มไปเลย จะได้หัวหมุนไม่มีเวลาสร้างเรื่อง ภีมมาช่วยงานทางนี้สักพักละกันนะ”
เป็นข่าวดีกับภากร หากว่าเขาจะได้ทำงานบริษัทนี้บ่อยขึ้น ได้เรียนรู้งานจากคุณอาโดยตรง แต่อาจไม่ดีกับวีณานัก ในสีหน้าหนักใจนั้นเขาประสานมือไว้บนหน้าตักอย่างนอบน้อมถ่อมตน
“คุณอาให้ผมมาทำงานตรงนี้แทนน้องไม่โกรธพวกผมหนักเข้าไปใหญ่หรือครับ?”
“อาไม่มีทางเลือกนี่ ลูกสาวอาดื้อขนาดไหนเราก็รู้ อาไม่อยากได้ยินเรื่องแฟน ลูกสาวอาอายุเท่านี้ไม่มีทางทันเล่ห์เหลี่ยมผู้ชาย เสือสิงห์กระทิงแรดสมัยนี้มันเยอะจะตาย”
“แล้ว... คุณอาจะให้ผมจัดการยังไง?” เขาเลิกคิ้วขึ้นถาม เตรียมใจรับงานช้าง งานดูแลเทคแคร์เมื่อคุณพ่อใจดีมีสีหน้าเปลี่ยนไปเป็นดุดันเด็ดขาด
“ถ้าไม่ยอมก็ตามน้ำไป ส่งคนไปตามอย่าให้รู้ตัว ใครมายุ่มย่ามเอาแค่เบาะ ๆ ไปเตือนมันอย่าให้เจ็บตัวมากละกัน”
“ครับ”
ภากรพยักหน้ารับคำ เขาถนัดเรื่องนี้เป็นที่หนึ่งตั้งแต่คุณหนูของบ้านเริ่มแตกเนื้อสาว ถึงยังไม่เคยทำร้ายใครจริง ๆ จัง ๆ สักทีเพราะแค่ขู่ก็หนีหัวซุกหัวซุนไปเสียหมด คุณพ่อจึงให้ความไว้วางใจเขาสองคนมาตลอด
“ลูกเต้าเหล่าใคร ร่ำรวยมาจากไหนอาไม่สนเพราะอาไม่รู้จัก... ใครไม่รู้ ไม่ได้เลี้ยงมาเหมือนภีมกับภาม ตอนอาเป็นคุณพ่อมือใหม่ทำอะไรไม่เป็นสักอย่างเราสองคนมาช่วยอาเลี้ยงน้องตลอด อาไม่เคยลืมเลยนะ”
นั่นทำให้ภากรดีใจ... แววตาคู่คมปลาบประกายตื้นตันของเขาปรากฏเพียงความซื่อสัตย์ ลึก ๆ ก็ยังหวังจะเป็นหมาวัดตามคำคนนินทา!
“ผมจะดูแลเรื่องนี้ให้ครับ แต่ผมขอลองคุยกับน้องดี ๆ ก่อน ไม่อยากให้ต้องเสียน้ำใจกัน”
“อืม... ก็ดีนะ อาไม่อยากผิดใจกับลูกสาวเหมือนกัน อาแล้วแต่ภีมเลยละกัน” คุณพ่อขี้หวงอารมณ์ดีขึ้นมาเสียอย่างนั้น อนันต์ยิ้มเบิกบานก่อนลุกขึ้นเดินอ้อมโต๊ะไม้สักตัวใหญ่ไปหาหนุ่มรุ่นลูก
“งั้นฝากทางนี้ด้วยละกัน... อาไปทำงานก่อน”
“ครับคุณอา เดินทางปลอดภัยครับ”
พอ CEO หนุ่มใหญ่ตบบ่าเบา ๆ เป็นเชิงลาประสาผู้ชายตัวโต ภากรคงอดขำไม่ไหวกับคำลาสุดท้าย
“อยู่กับมนุษย์ป้าไปแล้วกันนะ ห้ามบ่น อาไม่จ้างสาว ๆ สวย ๆ มาทำงาน เพราะไม่อยากอยากกินไก่วัด”
ที่จริงแล้วโลกใบนี้ไม่เคยมีดวงอาทิตย์...
โลกเพียงหมุนรอบตัวเอง โคจรไปในทิศทางเดิม ๆ ของมัน เพื่อรับแสงร้อนของตะวันสาดส่องมาให้ทุกสรรพสิ่งดำรงคงอยู่ต่อไปจนสิ้นสุดเวลากลางวัน และเมื่อความมืดปกคลุมเมืองคราคร่ำไปด้วยผู้คน แสงสีเสียงปรากฏขึ้นในโลกแห่งมายายามราตรี มนุษย์จะสวมหน้ากากเข้าหากัน
จะมีสักกี่คนที่ไม่เคยโกหกอะไรเลย...
ดวงตาคู่คมเข้มกะพริบปรือมองไปยังแสงสีนวลลอดผ่านช่องเล็ก ๆ ของประตูสีขาวในคอนโดฯ หรูสองห้องนอนหนึ่งห้องนั่งเล่น มีห้องครัวและพื้นที่ใช้สอยด้านระเบียงอีกต่างหาก รวมความกว้างเกือบ 50 ตารางเมตร กลิ่นน้ำหอมอ่อนทำให้เขาต้องสูดลมหายใจเข้าลึก เอี้ยวคอมองร่างเปลือยเปล่าในอ้อมแขน พลันนึกถึงวงหน้าหวานงามของหญิงสาวอีกคน
เธอเคยพริ้มตาหลับอย่างเป็นสุขในอ้อมกอดของเขา ต่อให้คุณพ่อจะห้ามไม่ให้แอบเข้าห้องนอนพี่ชายทั้งสองคนอีกเมื่อโตเป็นสาว
ครั้งสุดท้ายที่พบสบนัยน์ตาคู่สวยสีน้ำตาลอ่อนโกรธเกรี้ยวเผด็จการคู่นั้นราวแสงอาทิตย์สาดจ้า ไม่ต่างจากว่าเธอพร้อมจะแผดเผาเขาให้ตายทั้งเป็น!
ครบสามเดือนแล้วสินะ...
‘พี่ไปจากวีไม่ได้หรอก พี่ภาม... ไม่มีทาง’
ชายหนุ่มนึกขันกับคำพูดดูถูกถากถาง กระทั่งร่างเปลือยเปล่าในอ่างอาบน้ำ หน้าอกอวบอัดรับเอวคอดบางโค้งเว้าเย้ายวน กลิ่นหอมของแชมพูและสบู่เหลวลอยคลุ้งไปทั่ว
เขาทำได้แค่หันหลังให้เธอซึ่งกำลังโกรธ
น้องวี...
แค่คิด... กายชายแข็งขึงขึ้นผงาดตั้งเต็มที่ มันชุ่มฉ่ำอยู่ก่อนหน้านี้จากศึกสมรภูมิหนักหน่วงตลอดค่ำคืนอันแสนยาวนาน! กรามแกร่งขบกัดกันจนเห็นสันกราม ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักหยิบอาวุธคู่กาย
มีสาวไม่กี่คนได้รับอนุญาตให้นอนหนุนบนไหล่ของภาคิน คบหาใครแล้วเขาก็คบเป็นคนไว้มี SEX มากกว่าจะชักชวนกันไปกินข้าวดูหนัง ครั้นจะให้เขาลุกขึ้นมาบริการงานอื่น ทำกับข้าว ซื้อข้าวของพาช้อปปิ้ง เอาอกเอาใจสาวแล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่ เพราะแค่ในเวลางาน บัตเลอร์อย่างเขาแสนเหนื่อยหน่ายสายตัวแทบขาดกับการแบกรับหน้าที่เหล่านั้น
ภากร พี่ชายของเขาเชิดชูอาชีพนี้ ในขณะที่เขาเรียกมันว่างาน ‘สารพัดเบ๊’
“เดียร์... ตื่นหรือยัง... ไปทำงานกี่โมง...?” เขาพูดและเขย่าเธอจนเจ้าตัวลืมตางัวเงีย ส่ายหน้ามองเขาอย่างงง ๆ ใบหน้าเห่อร้อนอีกระลอกเพราะหุ่นเป็นล่ำสัน พ่วงด้วยฟีโรโมนร้อนแรง! ทว่าเธอยังคงเก็บอาการ
“อือ... กี่โมงแล้วอ่ะ?”
“ดูนาฬิกาเอาสิ บนผนังอันเท่าฝาบ้าน อย่าบอกนะว่ามองไม่เห็น”
“ไม่กวนตีนสักวันได้ป่ะ” เธอชักสีหน้าใส่เขา เหลือบมองไปทางผนังห้องสีขาวโล่งสะอาดตามีแค่นาฬิกาอันเบ้อเริ่มค่อยบอก “งั้นเดียร์กลับห้องแล้วนะ...”
“ให้เอาก่อนทีนึงค่อยไป”
“บ้าเหรอ? ตะกละ... อุ้บ!” เสียงหวานขาดช่วงไปเมื่อชายหนุ่มโน้มใบหน้าลงตะบมกดริมฝีปากนุ่มอย่างบ้าคลั่งหยาบคาย นั่นทำให้เธอต้องรับจูบโดยไม่เต็มใจนัก
และเมื่อปลายลิ้นหนาแทรกเข้าโพรงปากน้อย กระหวัดเกี่ยวพัวพัน ดึงลมหายใจออกมาด้วยความรู้สึกหื่นกระหาย เรือนร่างงามราวกับถูกจุดติดด้วยไฟราคะ
มันเป็นไปตามการบังคับควบคุม ตามแผนการของเขาทุกครั้งไป ด้วยประสบการณ์โชกโชนช่ำชองของชายหนุ่ม ที่คงไม่ได้มีเธอเป็นคนแรก
เธอไม่ได้มีเขาคนแรกด้วยเช่นกัน แต่เธอก็ไม่ได้เป็นงานนักต้องให้คอยบอกสอน
อาจเพราะ ‘นาเดียร์’ ไม่ใช่ผู้หญิงที่จะมีเพศสัมพันธ์กับใครไปทั่ว หนุ่มน้อยใหญ่มาตามจีบเธอไม่ได้ใจอ่อนง่าย ๆ กระทั่งพบเจอหนุ่มรูปหล่อนักท่องราตรีขาคนหนึ่งอกถูกใจกันผ่านการแนะนำของลูกค้าในร้าน เวลาที่นักร้องลงไปทักทายแขก
แรกพบสบตาถูกชะตาแล้วเลยจบลงบนเตียงร้อนลุก! ทุกท่วงท่าภาคินผู้ไม่ได้ขาดแคลนเรื่องผู้หญิง สำหรับเธอแล้วเขาเรียกได้ว่าเอาอกเอาใจเก่ง สำหรับเขาก็ถูกอกถูกใจเธอเป็นพิเศษอย่างที่ไม่เคยถูกใจใครมาก่อน
ริมฝีปากหนาได้รูปยอมผละออกเมื่อถึงเวลา ปัดป่ายงานมือไปตามเรือนร่างงามสมส่วน เขาเลื่อนใบหน้าลงต่ำเพื่อดื่มด่ำความหวานจากปลายยอดสีชมพูหวาน