อาทิตยาบอกยืดยาวเมื่อจอดเทียบหน้าบาร์เบอร์ ซึ่งนั่นทำเอาชายหนุ่มทึ่งไม่น้อย เพราะกำลังจะเอ่ยปากบอกอยู่พอดีว่าให้พาไปตัดผมที แต่เรื่องอะไรจะเผยไต๋ให้รู้ล่ะ สู้เดินเข้าร้านเฉยๆ กับมาดนิ่มๆ ดีกว่าตั้งหลายขุม ครึ่งชั่วโมงเพียงเท่านั้น เขาก็เห็นแม่ถั่วงอกเดินออกมาจากร้านเสริมสวย พร้อมกับผมถูกรวบขึ้นไปเปียก้างปลารอบศีรษะเรียบร้อยแล้ว
อดคิดถึงภาพเด็กหัวฟูๆ กับเหล็กดัดฟันเต็มปาก ผอมเก้งก้าง ขี้โรคขี้แยและขี้งอนเมื่อสิบกว่าปีก่อนไม่ได้จริงๆ ให้ตายดิ้น พลอยมองเห็นภาพเขาเสียหลักชนแม่ถั่วงอกตกบ่อปุ๋ยหมักหลังบ้านได้อย่างแจ่มชัด
ตามติดด้วยภาพเขากับเพื่อนต่างคนต่างรีบวิ่งไปคว้าจักรยานปั่นหนีไปกินไอติมหน้าปากซอย ทิ้งให้ยัยถั่วงอกนั่งนับหนึ่งถึงพันอยู่ข้างโอ่งหลังบ้าน เปิดตาออกมาแล้วไม่พบใครก็ร้องไห้ไปฟ้องแม่
และที่ติดตาไม่ลืมเลือนก็เห็นจะเป็นภาพที่ยัยไม้เสียบผีวิ่งหญ้าราบตั้งแต่หน้าบ้านยันท้ายสวนเพื่อหนีเจ้าจำศีลงูหลามบอลเหลืองอร่ามงามสง่าของเขา ซึ่งจู่ๆ ก็หลุดออกจากตู้กระเด็นไปหายัยถั่วงอกด้วยสองมือเขาเองแท้ๆ
จำได้ไม่เคยลืมเลยทีเดียวว่าวันนั้นเขากับเพื่อนๆ สนุกสนานกับการได้แกล้งมากแค่ไหน เจ้าหลามทองเองก็ยังสนุกไปด้วย เพราะขดตัวพันรอบแขนเขาเป็นการใหญ่
แต่ก็ลืมไม่ลงเหมือนกันกับไม้เรียวอันเบ้อเร่อของพ่อที่หวดลงบนก้นเขากับผองเพื่อน โทษฐานร้ายแรงกับการแกล้งยัยถั่วงอกที่กลัวเจ้าหลามจนขี้ขึ้นสมองเป็นไข้จับสั่นไปหลายวันทีเดียว
นั่นดูเหมือนจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้แกล้ง เพราะอีกไม่กี่วันยัยถั่วงอกก็ถูกส่งกลับบ้านนอกไปอยู่กับยายและเรียนประถม ส่วนเขาก็เริ่มเข้ามัธยมเลยไม่ค่อยได้เจอหน้ากันเท่าไหร่
หรืออาจจะเป็นเพราะยัยถั่วงอกไม่อยากเจอเข้าด้วยก็เป็นได้ เพราะทุกครั้งเวลาปิดเทอมแล้วยัยถั่วงอกมาอยู่กับพ่อแม่ที่บ้านเขาทีไร ก็ไม่ค่อยจะย่างกายมาใกล้เขากับเพื่อนๆ เลย อ้อ! มีอีกวีรกรรมที่ลืมไม่ลงอีกเช่นกัน
นั่นก็คือเดินชนยัยถั่วงอกตกสระว่ายน้ำ เขากับเพื่อนพากันยืนหัวเราะท้องคัดท้องแข็งเมื่อเห็นร่างผอมๆ ป๋อมแป๋มอยู่กลางสระ กว่าจะรู้ว่าว่ายน้ำไม่แข็งเขาก็เกือบจะกลายเป็นฆาตกรฆ่าคนโดยไม่ได้ตั้งใจไปเสียแล้ว
‘แม่จ๋า!!! ฮื้อๆ ๆ ๆ คุณจิณผลักตะวันตกน้ำ’
ยัยถั่งงอกก็ปรักปรำเขาทั้งน้ำตา เมื่อถูกช่วยขึ้นมาจากสระได้ ส่วนเขากับเพื่อนก็ต้องแอ่นบั้นท้ายรับไม้เรียวของพ่อตามเคย เพราะไม่มีใครจะสนใจฟังคำแก้ตัว ด้วยทุกคนยึดถือเอาตามประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เขาเลยตกเป็นจำเลยสังคมตั้งแต่นั้น
ส่วนแม่ถั่วงอกก็แทบจะไม่มองหน้าเขาอีก กระทั่งเขาไปเรียนต่อหลายปี กลับมาเยี่ยมบ้านยัยถั่วงอกก็แทบไม่มองด้วยซ้ำ มีได้พูดคุยกันก็ตอนนี้เอง แต่ก็เพราะงานของเจ้าหล่อนล้วนๆ
“คุณผู้หญิงน่าจะใกล้ถึงบ้านแล้ว เรารีบไปกันเถอะค่ะ”
หญิงสาวไม่มัวโอ้เอ้รีบเดินนำเขาไปทันที นั่นเรียกความคิดอันล่องลอยให้กลับมาหาปัจจุบัน เขาไม่เอ่ยอะไรนอกจากแอบยิ้มด้วยความขำ แล้วตามเจ้าหล่อนไป ไม่นานนักก็ถึงคฤหาสน์หลังงามแล้ว
ชุดในรถถูกมือบางหิ้วเดินเข้าบ้าน ส่วนอีกคนก็ได้ถุงของใช้หลายใบ ที่เหลือแหม่มกับแก้มวิ่งมาช่วยกันขนให้ จิณณวัตรเพิ่งคิดขึ้นได้ จึงรีบร้องถามแม่ถั่วงอกที่กำลังจะเลี้ยวเข้าของนอนแม่
“แล้วชุดไปงานคืนนี้ กับกางเกงใส่ไปทำงานผมล่ะ ไม่เห็นคุณซื้อเลยนะ”
อาทิตยาไม่ได้ตอบ แต่เอนตัวมองผ่านเขาไปหาสาวใช้ทั้งสองที่กำลังเดินตามมาไม่ห่าง
“พี่จิ๋มให้เด็กเอาของคุณจิณมาหรือยังจ้ะสองสาว”
“เรียบร้อยค่ะ แหม่มเอาไปแขวนไว้ในตู้ให้แล้วค่ะ”
“แต่วันนี้มีมาให้แค่ห้าชุดนะคะ ใส่ไปก่อนอาทิตย์หน้าพี่จิ๋มคงจะตัดชุดของคุณที่เลือกไว้วันนี้มาให้อีกค่ะ”
สิ้นคำร่างเล็กที่เริ่มหนักกับชุดในมือก็หันกลับไปทางเดิม เพราะกลัวคุณผู้หญิงจะมาถึงก่อน แต่ก็เหมือนคิดขึ้นได้จึงหันกลับมาหาคุณชายเนี้ยบอีกครั้ง
“อ้อ!!! คืนนี้ไม่ต้องใส่สูทนะคะ เป็นงานโอเพ่นแอร์ค่ะ น่าจะมีพัดลมไอน้ำตั้งไว้อย่างเคย แต่ยังไงๆ ก็คงจะร้อนอยู่ดี โดยเฉพาะสำหรับคนที่อยู่ในอากาศเย็นๆ มาเป็นสิบปีอย่างคุณ แล้วเจอกันข้างล่างหกโมงตรงนะคะ”
แล้วคนพูดก็หายวับเข้าประตูห้องนอนของเจ้านาย จัดการวางชุดไว้เรียงรายไว้บนเตียงเพื่อให้เลือกได้ง่ายขึ้น ถึงแม้จะเก่งกาจหรือรอบรู้แค่ไหน ก็ไม่มีทางคาดได้ว่าคุณผู้หญิงจะใส่ชุดไหน
แต่ถ้าจะให้เดาและวิเคราะห์กับสภาพแวดล้อมของงานแล้ว น่าจะเป็นชุดสีน้ำตาลอมทองตัดจากผ้าลูกไม้ฝรั่งเศส ตัวเสื้อปักดิ้นคลุมผ้าไหมซาตินเนื้อละเอียด
พร้อมเข็มขัดผ้าและสีเดียวกับชุดคาดเอวเพื่อเพิ่มความเรียบหรูดูดีแถมไม่เกินหน้าเกินตาเจ้าของงานอีกต่างหาก
จึงแยกชุดนั้นออกไปวางอยู่อีกฟากของเตียงเพื่อให้คุณผู้หญิงได้มองเห็นชัดเจน แล้วรีบหิ้วชุดของตัวเองไปไว้ห้องรับรองไม่ไกลกันนัก ก่อนจะลงไปครัวเพื่อเคลียร์เงินกับผ่อนซึ่งน่าจะกลับมาแล้ว
เป็นจริงอย่างที่คิดไว้ เสร็จแล้วหอบบิลต่างๆ ตรงเข้าห้องทำงาน เพราะมีเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงก่อนขึ้นไปแต่งตัว แต่ก็คิดถึงของสำคัญขึ้นได้จึงวอไปทันที
“แหม่มจ้ะ พี่จิ๋มให้คนเอากล่องของขวัญมาด้วยหรือเปล่า”
“เอามาแล้วค่ะพี่ตะวัน แหม่มเอาไปวางไว้ในห้องนั่งเล่น”
ค่อยหายใจโล่งขึ้นมาหน่อย นึกว่าจะต้องขับรถไปร้านอีกรอบซะแล้ว มือบางรีบเก็บข้าวของบนโต๊ะให้เรียบร้อยเมื่อใกล้จะได้เวลา เพราะไม่ชอบเห็นอะไรรกๆ ตื่นเช้าเวลามาจะได้ไม่หงุดหงิด
“ทุกอย่างเรียบร้อยดีมั้ยตะวัน คุณจิณล่ะอยู่ไหน”
ชมจันทร์หน้าเข้ามาถาม แต่ไม่มีแวววิตกกังวลใดๆ ด้วยรู้ดีว่าคนเก่งมาอยู่ใกล้มือ ตัวเองย่อมไม่ต้องคิดเรื่องอะไรอีก