“ของขวัญอยู่ในห้องนั่งเล่นเผื่อคุณผู้หญิงอยากจะดูก่อนค่ะ ชุดอยู่บนห้อง สีน้ำตาลอมทองเหมาะกับงานนี้ที่สุดตะวันแยกออกไว้ให้แล้ว คุณจิณคงจะกำลังอาบน้ำแต่งตัวมั้งคะ ตะวันบอกแล้วว่าไม่ต้องใส่สูท ส่วนชุดคุณผู้ชายคงจะเลือกจากในตู้เองค่ะ”
ดวงหน้าสวยส่งยิ้มน้อยๆ เวลารายงานผล นั่นทำให้เจ้านายพอใจอย่างมาก แต่ไม่คิดจะเอ่ยชมออกมาด้วยกลัวเลขาจะเหลิงจนมีความคิดที่จะขอขึ้นเงินเดือนรอบสองอีก
จึงพยักหน้ารับแค่นั้นก่อนจะผละจากประตูตรงขึ้นชั้นบน อาทิตยาไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเจ้านายจะพอใจหรือไม่กับงานของตัวเอง เพราะไม่มีเวลา คว้าเอาแท็บเล็ตในมือได้ก็รีบขึ้นชั้นบนเพื่ออาบน้ำแต่งตัวไม่แพ้กัน
อีกทั้งจะต้องรีบวิ่งลงไปคุยกับผ่อนเรื่องรายการอาหารสำหรับเย็นนี้และพรุ่งนี้เช้าด้วย ห้านาทีสำหรับการอาบน้ำอีกห้าสำหรับใส่เสื้อผ้า และอีกสิบสำหรับแต่งหน้าพร้อมสำรวจความเรียบร้อย จากนั้นก็ก้าวฉับๆ เข้าครัวไปอย่างคล่องงาน ผ่อนกำลังชะเง้อคอมองมาทางประตูถึงกับยิ้มออกมาเมื่อเห็น
“ป้าคิดแล้วว่าคุณตะวันจะต้องแวะมาก่อน ตกลงเย็นนี้จะให้ทำเมนูไหนคะ แล้วใครจะอยู่กินบ้าง”
“อืมห์”
ดวงหน้าสวยกับชุดพลิ้วไหวครุ่นคิดอยู่นิดหนึ่ง
“ป้าเตรียมผัดผักรวม ต้มจืดอะไรสักอย่างกับไข่เจียวปู ไว้แค่นี้ก็น่าจะพอค่ะ แต่ยังไม่ต้องทำนะคะ รอให้คุณเจคุณแอ๊ฟกับคุณแอ๊นเข้าบ้านก่อน ส่วนเด็กๆ ของป้าอยากจะกินอะไรก็ทำไปเลยค่ะ เมนูพรุ่งนี้ตะวันว่าทำข้าวต้มปลาให้คุณจิณคนเดียวพอ คุณผู้หญิงกับคุณแอ๊ฟเตรียมโยเกิร์ตรสธรรมชาติให้คนละถ้วย ส่วนคุณผู้ชายกับคุณเจ คุณแอ๊นทำอเมริกันเบรคฟาสต์ก็แล้วกันค่ะ มื้ออื่นๆ ตะวันจะรีบมาทำตารางให้แต่เช้า ไปละ! คุณผู้หญิงใกล้จะลงมาแล้ว”
ร่างเล็กรีบเผ่นออกจากครัวทันใด แต่ก็คิดขึ้นได้จึงหมุนตัวกลับมาหาผ่อนอีก
“อ้อ!!! ป้าซื้อรังนกกับแปะก๊วยมาแล้วใช่ไหมคะ ทำไว้เลยค่ะรับรองมีคนกินแน่ ไปนะคะ”
สั่งเสร็จก็หายแวบออกไปห้องนั่งเล่น หอบกล่องของขวัญไปหารถที่เล็กขับมาจอดเทียบหน้าประตูเรียบร้อยแล้วช่วยรับไปเก็บในกระโปรงหลังให้อย่างเต็มอกเต็มใจ
“ไปบ้านคุณหญิงเพลินพิศนะคะพี่เล็ก”
ปากบอกส่วนมือก็ควานหากุญแจรถของตัวเองในกระเป๋าสะพายเพื่อล่วงหน้าไปก่อน
“ไปคันเดียวกันนี่ล่ะตะวัน ให้ตาจิณนั่งหน้ากับนายเล็ก ฉันจะได้สั่งงานต่ออีกหน่อย ตอนไปนอนสปาคิดออกหลายอย่างเหมือนกัน”
กว่าจะได้กลับคืนนี้คงไม่หนีสี่หรือห้าทุ่มแน่ๆ ถ้านั่งไปด้วยกัน โอกาสจะชิ่งก่อนเป็นอันจบสิ้นลง เลขาสาวยัดกุญแจเข้ากระเป๋าแล้วเดินหงอยๆ ไปนั่งข้างคุณผู้หญิงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“อาทิตย์หน้าฉันอยากจะจัดงานต้อนรับตาจิณหน่อย เชิญแขกฉันทั้งหมด ส่วนแขกคุณผู้ชายให้ไปประสานงานกับแม่เลขาเอาเอง แขกคุณจิณก็ถามเอาเอง จัดตรงสนามเหมือนงานวันเกิดฉันปีที่แล้วก็ได้ อาหารไทย จีน ฝรั่ง เบียร์ เหล้า ไวน์มีได้ การแสดงบนเวทีก็เลือกที่สนุกๆ แล้วกัน”
“ค่ะ”
มือบางจดลงสมุดยิกๆ
“อ้อ!!! คืนนี้อย่าลืมเตือนให้บอกคุณหญิงเรื่องฉันจะบริจาคเงินในงานเดินแฟชั่นโชว์เดือนหน้าด้วยนะ จะได้เน้นให้ดีไซเนอร์ตัดชุดสวยๆ สำหรับยัยแอ๊ฟใส่เดินในวันงาน เตือนให้คุยกับคุณโจ้เจ้าของนิตยสารไฮโซด้วย ว่าฉันจะร่วมเป็นเจ้าภาพผ้าป่าสามัคคีไปโรงเรียนที่สุพรรณ เผื่ออยากจะได้เอายัยแอ๊ฟไปขึ้นปกบ้างแล้วก็...”
มือบางจดตามคำสั่งจากปากเจ้านายเป็นระวิง ทั้งหมดทั้งมวลล้วนแต่ต้องจ่ายเงินเรือนแสน เพื่อให้ได้มาซึ่งความเป็นหนึ่งหรือโดดเด่นสำหรับลูกสาวคนสวยที่ปรารถนาอยากจะก้าวเข้าไปอยู่บนแคตวอล์คแทบทั้งสิ้น
เหมือนสาวสวยหุ่นดีทั้งเมืองที่ฝันถึงอาชีพนี้ ถ้าใครมีพ่อแม่ร่ำรวยก็มักจะใช้วิธีเฉกเช่นชมจันทร์ ส่วนคนหน้าตาดีแต่ฐานะไม่อำนวยก็ต้องฝ่าฟันไปประกวดประชันบนเวทีต่างๆ บางคนก็ใช่เรือนร่างอันหมดจดงดงามเป็นบันไดก้าวขึ้นไป
ผิดหวังบ้างสมหวังบ้าง แล้วแต่โอกาส ฝีปาก และความกล้าบ้าบิ่นของแต่ละคน สิบสี่ปีที่เป็นมือเป็นเท้าให้เจ้านายสังคมจัดคนนี้ ทำให้ได้รู้เห็นและสัมผัสมาเกือบหมดแล้ว และมันก็เป็นเครื่องสอนใจตัวเองได้เป็นอย่างดีว่า สังคมจอมปลอมนี้ไม่น่าอยู่ ไม่น่าถีบตัวเองให้สูงทัดเทียมเพื่อเชิดหน้าชูตาสักนิด
ตอนที่ 3 ขวัญใจสาวๆ
“คิดแล้วว่าคุณเอ้จะต้องมาเร็วกว่าใคร นี่คงจะเป็นตาจิณสินะคะ!!! หายไปสิบกว่าปีดูสิกลับมาเป็นหนุ่มใหญ่หล่อเชียว มาให้ป้ากอดทีสิจ้ะ”
คุณหญิงเพลินพิศ เลิศวิริยะปลีกตัวจากความวุ่นวายในบ้านออกมารับแขกรายแรก พร้อมกับอ้าแขนรับร่างสูงใหญ่เข้าไปกอดไว้ด้วยรอยยิ้ม และเป็นยิ้มที่อาทิตยาเห็นว่าออกมาจากใจมากกว่าใครในบรรดาคนในมูลนิธิ ‘เลิศวิริยะ’
ซึ่งทำประโยชน์เพื่อสังคมรอบด้าน จิณณวัตรตอบคำถามเจ้าของบ้านสองสามประโยค ก่อนเขากับพ่อจะถูกสุชาติ เลิศวิริยะ ชวนไปนั่งจิบเบียร์เย็นๆ ในบ้านรอให้ถึงเวลางาน
“ยินดีที่ได้เจอกันอีกนะจ๊ะตะวัน ข้างในคงดีใจโดยเฉพาะคุณนายพะยอมหอมหวลของฉัน”
อาทิตยายิ้มรับคำทักทายเจ้าบ้านแต่ไม่ได้เอ่ยอะไร เมื่อเจ้านายพยักหน้าให้เข้าไปช่วยงานเลขาคุณหญิงเพลินพิศเหมือนเคยเป็นมา ทิ้งให้ผู้ใหญ่ทั้งสองคุยกันไปเดินดูความเรียบร้อยไป
“แล้วนี่คุณเอ้ไปใช้กลเม็ดเด็ดๆ อะไรคะ ถึงได้รายนี้กลับมาอยู่ด้วยอีก”
เจ้าของงานเอ่ย ส่วนคนถูกถามก็ส่งยิ้มอย่างผู้ชนะให้โดยไม่คิดจะปิดบังใดๆ
“จะยากอะไรคะ ลูกน้องลาออกมันจะมีสักกี่เหตุผลเชียว ถ้าไม่เพราะอยากไปทำที่อื่นก็คงจะไม่หนีเรื่องอยากได้เงินเพิ่มหรอกค่ะ เอ้เลยจัดให้อีกเท่าตัวเลย ยังไม่ทันข้ามวันก็แจ้นกลับมาแล้วล่ะค่ะ”