ตอนที่ 4 ถึงเวลาต้องหาคู่
“แม่ดีใจนะที่จิณชอบของขวัญ สงสัยต้องตกรางวัลยัยตะวันอย่างงามแล้วล่ะ เก่งจังเดาใจลูกชายแม่ถูก”
ชมจันทร์เอ่ยระหว่างนั่งกินมื้อเย็นในวันถัดมา จิณณวัตรยิ้มแห้งๆ เมื่อได้ยินคำชมเลขาคนเก่งเป็นวรรคเป็นเวร เลยทำให้กลัวตัวเองจะบาปไปด้วยที่บังอาจปิดแม่ แต่จะทำยังไงได้ ก็ในเมื่อเจ้าหล่อนมีเหตุผลเพียงพอต่อการทำแบบนี้นี่นา
“แล้วคุณแม่ไม่คิดจะซื้อคันใหม่ให้แอ๊ฟบ้างเหรอคะ คันเก่าขับมาตั้งหลายปีแล้วอยากเปลี่ยนใหม่บ้าง”
จิรนันท์รีบชงให้ตัวเองทันที จนได้สายแต่เหน็บแนมของคนในบ้านส่งมาหา โดยเฉพาะน้องขายคนกลางที่ล่ำๆ กับแม่มาหลายหนว่าอยากจะเปลี่ยนรถเหมือนกัน ผิดกับจิรฐาผู้ไม่ใคร่จะสนใจกับของพวกนี้ เพราะมีคนรถคอยรับส่งพาไปไหนมาไหนสบายกว่ากันเยอะแล้ว
“ถ้าอยากได้ก็ต้องชนะการประกวดซูเปอร์โมเดลปีนี้ให้แม่ชื่นใจก่อนสิจ๊ะ”
ส่วนแม่นั้นการจะให้อะไรกับลูกต้องมีของแลกเปลี่ยนเสมอ โดยเฉพาะถ้ามีเรื่องการได้หน้า หรือนำหน้าใครแล้วยิ่งดี
“โอย! คุณแม่อะ ชอบตั้งแง่อยู่เรื่อย แอ๊ฟบอกแล้วไงว่าไม่ชอบประกวด หรือแข่งอะไรกับใคร ทำไมไม่ฝากๆ แอ๊ฟกับคุณไก่ คุณต้อ หรือคุณดีไซเนอร์ชั้นนำทั้งหลายล่ะคะ ได้งานง่ายกว่าด้วย”
ลูกสาวกลับโอดครวญ
“เรื่องฝากก็อีกเรื่อง แต่ถ้าเราประกวดชนะ คนจะไม่มาว่าได้เพราะมีตำแหน่งเอาไว้เป็นประกัน หรือแอ๊ฟอยากให้คนนินทาว่าเราเอาเปรียบคนอื่นล่ะ”
“ช่างประไรล่ะคะ ถ้าเกิดแอ๊ฟประกวดแล้วแพ้ล่ะ ขายขี้หน้าคนทั้งเมืองไม่เอาหรอก”
จิรเดชพยักหน้ารับเพราะเห็นด้วย แต่ชมจันทร์กลับยิ้มร่าออกมาประหนึ่งว่ามั่นใจสุดชีวิตถ้าลูกยอมลงประกวด
“แม่เอาหัวเป็นประกันว่าแอ๊ฟจะไม่แพ้ใคร ขออย่างเดียวให้ยอมลงประกวดก็พอ ไม่งั้นแม่จะยกเลิกเงินบริจาคงานแฟชั่นโชว์เดือนนี้ และบอกเลิกงานถ่ายปกคู่กับแอ๊ฟอาทิตย์หน้านะ”
เมื่อลูกไม่ยอมผู้แม่ก็ต้องออกโรงขู่น้อยๆ บ้าง ทำเอาคนในบ้านต่างหัวเราะออกมาด้วยความขำ เมื่อจิรนันท์ทำหน้าบอกบุญไม่รับให้เห็น
“แค่นี้ก็ต้องขู่ด้วย”
นี่ถือเป็นการยอมรับข้อเสนอกลายๆ ที่ชมจันทร์ชาชินมานานนมแล้ว จึงไม่ได้ยกเอาเรื่องนี้มาพูดคุยกับคนในครอบครัวอีก ทว่าวันถัดมาเลขาสาวกลับต้องนั่งฟังเจ้านายเพ้อฝันกับวิมานแคตวอล์กจนแทบจะจำได้ขึ้นใจว่าจะต้องจัดเตรียมอะไรให้คุณหนูแอ๊ฟบ้าง
ในวันเดินแฟชั่นโชว์การกุศลของคนมีอันจะกิน ที่ต่างสั่งจ่ายเช็คตัวเลขงามๆ แข่งขันกัน เพื่อให้ลูกได้ขึ้นไปยืนผงาดบนเวที
“อย่าไปไหนไกลนะตะวัน รออยู่แถวนี้เผื่อคุณแอ๊ฟจะเรียกหา เดี๋ยวฉันจะไปทำผมก่อน”
งานเป็นพี่เลี้ยงให้นางแบบการกุศลเริ่มคุกคามมาหลายวันแล้ว แม้ทีมจัดงานจะไม่ยอมให้คนนอกเข้ามายุ่งมากแค่ไหน แต่ชมจันทร์ก็ยังสั่งแล้วสั่งอีกจนผู้เป็นเลขาเกิดอาการเอือมนิดๆ เพราะอีกไม่กี่นาทีจะถึงเวลาเดินแบบอยู่แล้ว ยังต้องให้เฝ้าคุณหนูแอ๊ฟไม่ให้ห่างระยะสิบเมตรอีก
“ตาจิณ! มาได้เวลาพอดีเลยลูก ช่วยอยู่ดูแลความเรียบร้อยให้ที แม่กับคุณหญิงจะออกไปทำสวยสักหน่อย แล้วเจอกันนะจ๊ะ”
จิณณวัตรเข้ามาในห้องเลยพลอยถูกแม่ลากมายืนดูบรรดานางแบบทั้งหลาย ซ้อมเดินกรีดกรายรอบสุดท้ายก่อนงานเริ่มอีกคน เขาหันไปมองเลขาแม่ในชุดกางเกงยีนยี่ห้อดังสีเข้มเสื้อเชิ้ตแขนสั้นพอดีตัวสีชมพูมีเสื้อไหมพรมแขนยาวสีดำใส่ทับไว้
บนบ่าสะพายกระเป๋าใบใหญ่ ผมยาวสลวยก็รวบขึ้นไปมัดเป็นจุกไว้กลางหลังแล้วอดยิ้มน้อยๆ ไม่ได้ ไม่รู้ทำไม แต่เสียงหัวเราะบนเวทีเรียกให้เขาหันไปมองจนเห็นนางแบบมืออาชีพที่มาเป็นพี่เลี้ยงเทรนการเดินให้สาวๆ รวมทั้งน้องเขาด้วย
สาวเจ้าสูงไม่น่าจะต่ำกว่าร้อยแปดสิบ กางเกงยีนแทบจะเหมือนกับเลขาแม่ แต่เสื้อกล้ามตัวเล็กจิ๋มสั้นเต่อจนเห็นหน้าท้องแบนราบเรียบ เอวคอดกิ่ว บั้นท้ายแกว่งไปมาตามแรงเดิน แถมหุ่นอรชรน่าหม่ำกว่ายัยถั่วงอกเยอะ
“น้องแอ๊ฟเดินได้แทบจะเหมือนนางแบบมืออาชีพเลยนะคะคุณจิณ สงสัยรุ่นพี่อย่างพวกริซ่าต้องตกงานกันเป็นแถวๆ แน่เลยค่ะ”
มาริสารีบหันไปเอื้อนเอ่ยกับหนุ่มหล่อพ่อรวยโสดสนิทมาดดี ดีกรีนักเรียนนอกแทบจะทันทีที่รับรู้ว่าเขามายืนอยู่ไม่ห่าง แม้จะรู้จักกันจากการแนะนำอย่างผิวเผินเมื่อวันเริ่มมาเป็นเทรนเนอร์ให้เท่านั้น แต่สาวเจ้าก็รีบตีสนิทได้อย่างไม่ยากเย็น
“ขนาดนั้นเชียวเหรอครับ ยัยแอ๊ฟได้ยินคงจะปลื้มตายเลย เห็นวันๆ ก็ฝันแต่อยากจะเป็นนางแบบตลอดเวลา”
ส่วนเขาก็ไม่เกี่ยงจะเปิดบทสนทนา สายตาก็มองตามสะดือสวยๆ เอวคอดๆ โผล่พ้นขอบกางเกงออกมาเย้ายวนใจไม่น้อย คิดไม่ผิดที่รีบมาดูน้องซ้อมตามคำขออีกครั้ง
เลยมีวิวดีๆ ให้มองอย่างไม่อดอยากปากแห้ง แถมวิวก็เหมือนอยากจะให้เขามองอย่างเปิดเผยด้วย ก็แล้วมันเรื่องอะไร ชายหนุ่มที่อยู่ในช่วงสรรหาแม่พันธุ์อย่างเขาจะไม่รีบตักตวงล่ะ เพื่อนรู้คงจะด่าเช็ดเป็นแน่แท้ที่แอบซุ่มกินอยู่คนเดียว
‘น้ำลายยืดเชียวนะคุณชายเนี้ยบ’
เลขาสาวอดเหน็บในใจไม่ได้ขณะยืนอยู่ไม่ห่าง แต่ดูเหมือนจะเป็นธาตุอากาศสำหรับสองหนุ่มสาวเลยก็ว่าได้ เลยคว้ากระเป๋าสะพายเดินหนีไปหารถเอาชุดไปผลัดเปลี่ยนในห้องน้ำ พร้อมกับแต่งหน้าทำผมเอง
ด้วยเวลาจะไปร้านทำสวยเหมือนเจ้านายนั้นไม่มีเอาเสียเลย ถึงมีก็ไม่คิดจะไป จะแต่งสวยสักแค่ไหน ก็สู้บรรดานางแบบหุ่นดีๆ ในงานไม่ได้ จึงแต่งไม่ให้ตัวเองดูด้อยกว่าคนอื่นมากแค่นั้นก็พอ