“อืม!! ตอนนี้ไม่แล้วล่ะ แต่ถ้าเป็นเมื่อสิบกว่าปีก่อนนี่คุณเข้าข่ายนั้นเลยนะ แต่ไม่สวยไม่ใส มีแค่คุณสมบัติอย่างหลังน่ะ”
อาทิตยาผุดลุกจากเก้าอี้ทันที แล้วจ้องมองเขาตาขวาง เมื่อคิดถึงงูสีทองๆ อันน่าสยดสยอง คิดถึงตัวเองว่ายน้ำจะจมแหล่ไม่จมแหล่อยู่ในสระ และคิดถึงบ่อหมักเหม็นๆ ที่ตัวเองถูกผลักลงไปขึ้นมาได้ไม่ยากเย็นเลยสักสิด
และมันก็ทำให้ความโกรธเกลียดในตัวคนเป็นต้นเหตุผุดขึ้นมารวดเร็วอย่างช่วยไม่ได้ด้วย แต่เพราะความใจเย็น และตัวเองโตขึ้นมากแล้ว บวกกับเขาคือลูกเจ้านาย ทำให้ไม่อยากจะขุดคุ้ยเรื่องเก่าออกมาเล่าใหม่
ร่างผอมบางจึงก้าวผ่านเขาไปหมายจะออกจากห้องให้มันรู้แล้วรู้รอด แต่เจ้าของร่างสูงใหญ่นึกสนุกขึ้นมา เลยแกล้งเหยียดขายาวๆ ไปขวางทาง
“อุ๊ย!!!”
จนร่างบางเสียหลักเซไปไม่เป็นท่า ทว่าเขาก็รวดเร็วมากพอที่จะรีบคว้าเอาไว้ไม่ให้เจ้าหล่อนล้ม เป็นเหตุให้จมูกโด่งได้ชนกับแก้มนุ่ม แขนแข็งแรงได้กอดร่างนิ่มอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แถมกอดไม่ยอมปล่อยอีกต่างหาก แม้อีกคนจะตั้งหลักและยืนด้วยตัวเองได้แล้วก็ตามที
“ปล่อยสิ!!”
จนต้องรีบดันอกเขาออกห่าง ด้วยหวาดหวั่นว่าจะมีใครมาเห็น แต่อีกคนอยากจะแกล้งเจ้าของสีหน้าตื่นตระหนกเล่นให้หายซ่าซะบ้าง จึงแกล้งกอดไว้อย่างนั้น และกอดแน่นกว่าเดิมเมื่อเจ้าหล่อนดิ้นรน แล้วยังส่งสีหน้ายียวนกวนประสาทไปหาพร้อมกับน้ำเสียงนุ่มนวล ด้วยประโยคเย้าแหย่
“อะไรกันคุณ ผมรึก็อุตส่าห์ช่วยรับไว้ไม่ให้คุณล้ม นอกจากจะไม่ขอบคุณแล้ว ยังจะมามองตาขวางอีก ยัยถั่วงอกเอ๊ย”
“คุณจิณ!!! หยุดเรียกฉันแบบนี้นะ ปล่อย!!!”
เจ้าของร่างบอบบางพยายามจะดิ้นรน เพราะโกรธจนหัวฟัดหัวเหวี่ยงเมื่อได้ยินสรรพนามของตัวเองหลุดออกมาอีก หลังจากไม่เคยแว่วเข้าหูมาเป็นสิบปีแล้ว แถมเขาก็ยังรัดวงแขนแน่นเข้าอีกเมื่อคนในอ้อมกอดดิ้นหนักขึ้น
“คุณตะวันคะ!!!”
จำได้ดีว่าเป็นเสียงผ่อนที่ดังมาจากทางห้องรับแขกและคงกำลังจะตรงมาหาแน่
“ปล่อย!!!”
อาทิตยาดิ้นรนออกจากวงแขนเขาได้สำเร็จเมื่อฮึดสู้แรงหนักกว่าเดิม แต่หารู้ไม่ว่าเขาเองก็ผ่อนแรงลงไปเกินครึ่ง และยิ้มด้วยความขำตามร่างบอบบางที่ออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
“มีอะไรคะป้า”
และถามผ่อนด้วยสีหน้าตื่นๆ พร้อมกับคว้าแขนผ่อนให้เดินกับทางเดิม ด้วยไม่อยากให้เห็นว่ามีอีกคนอยู่ในห้องนั่นเอง
“อ้อ! ป้าจะมาถามว่าให้เอาแจกันอันไหนออกมาเช็ดบ้างคะ”
“งั้นตะวันจะพาไปเลือกค่ะ”
อาทิตยาจึงจูงมือผ่อนเดินไปยังห้องเก็บของที่มีแหม่มรออยู่ก่อนแล้ว แม้ใจจะโกรธอยู่บ้าง แต่ก็พยายามสงบสติอารมณ์แล้วทำงานตามปกติ เพราะต้องคอยดูแลความเรียบร้อยของบ้านทุกมุม
แถมจะต้องให้แหม่มเอาแจกันอันใหม่ราคาแพงลิบลับมาแทนของเก่าให้สวยงาม ดอกไม้ก็ต้องจัดใหม่และต้องเป็นดอกไม้สด แถมจะต้องมีแจกันตั้งไว้เกือบจะทุกมุมบ้านก็ว่าได้
กว่าจะเสร็จงานก็ค่ำมืด วันรุ่งขึ้นก็ต้องมาแต่เช้ากว่าปกติ เพราะทีมงานถ่ายทำจะมาเช้าเช่นกัน ในครัวก็ต้องวิ่งวุ่นเตรียมมื้อเช้าไว้ต้อนรับ
ตามด้วยมื้อเที่ยงเผลอๆ จะต้องมีเย็นเพิ่มเข้าไปอีกหากงานเสร็จช้า ถึงไม่ช้าคนเป็นเจ้านายก็ต้องโชว์ความใจป้ำเอ่ยปากชวนทุกคนอยู่ร่วมโต๊ะอยู่ดี
บ้านค่อยสงบลงหน่อยเมื่อทีมงานยกขบวนออกไปถ่าย ตรงเรือนกล้วยไม้ หลังมื้อเช้าเสร็จสิ้นลง อาทิตยาค่อยมีเวลากลับมานั่งตรวจบัญชีของห้องเสื้อ สปา ร้านจีเวลรี
ปกติจะต้องไปนั่งทำที่ร้านเพื่อจะได้ถามพนักงานถ้ารายการไหนไม่เข้าใจหรือไม่ชอบมาพากล แต่วันนี้ต้องหอบมาทำในห้อง เพราะรู้ดีว่าเจ้านายจะต้องเรียกใช้ทำนั่นนี่ไม่มีเว้น
“พี่ตะวันคะ คุณผู้หญิงบอกให้เขียนเช็คเงินทำบุญผ้าป่าสามัคคีไปให้เซ็นค่ะ”
นั่นประไร ยังไม่ทันข้ามวันก็เปหนักแล้ว สามแสนบาทคือตัวเลขในเช็ค ‘โจ้’ เจ้าของนิติยสารที่ลงทุนมานั่งควบคุมทีมงานยิ้มรับด้วยใบหน้าปรีดา
อาทิตยารีบผละออกจากเจ้านายเพราะไม่ใคร่ชอบอยู่ใกล้คน ที่มักจะขับเคลื่อนกิจการด้วยการรีดไถเงินนัก แล้วหยุดยืนมองไปยังทีมงานกำลังวุ่นจัดแสงจัดฉากอยู่หน้าประตูแทน
“อย่าบอกนะว่ายัยถั่วงอกอย่างคุณอยากจะขึ้นปกกะเขาด้วย”
จิณณวัตรส่งเสียงมาจากเบื้องหลังปนด้วยท่าทีขำน้อยๆ มาด้วย อาทิตยาหันกลับไปมองแถมส่งสายตาเป็นคำถามว่าที่พูดมานี่ใช่ปากเขาหรือเปล่า แต่ไม่ได้เปล่งคำนั้นออกมาหากเป็นคำอื่นแทน
“ถ้าจะต้องแลกด้วยการเซ็นเช็คสามแสน ตามด้วยคนรับใช้ต้องลุกขึ้นมาจัดบ้านยกใหญ่ ใช้ดอกไม้เป็นพันๆ ดอก และต้องไปนอนขัดตัวนวดตัวเป็นวันๆ ฉันว่าอยู่นอกปกจะมีความสุขกว่านะคะ”
แถมเป็นคำทิ่มแทงคนฟังให้เจ็บหนึบไม่น้อย สิ้นคำร่างผอมบางก็เดินกลับเข้าห้องทำงานโดยไม่สนใจจะหันมามองร่างสูงใหญ่เลยสักนิด แต่เขาก็เดินตามไปติดๆ ไม่รู้ทำไมถึงอยากจะแกล้งเจ้าหล่อนนัก
หรืออาจจะเป็นเพราะคิดถึงสมัยเด็กๆ อันนี้เขาก็วิเคราะห์ไม่ออกเอาเสียเลย
“ถ้าคุณอยากจะลงปกจริงๆ ผมเป็นเจ้ามือให้ก็ได้นะ เอาทุกแม็กกาซีนในเมืองไทยเลยก็ได้นะ”
“เก็บเอาไว้จ่ายให้แฟนนางแบบคุณเถอะค่ะ พวกสวยใสไร้สมองของคุณจำเป็นต้องใช้เงินมากกว่าฉันเป็นไหนๆ หรือไม่คุณก็เอาเงินไปเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กยากจนเด็กขาดโอกาสเด็กกำพร้าคงจะได้บุญได้ประโยชน์มากกว่ามั้งคะ เผื่อมันจะทำให้คนร่ำรวยและอยู่กับความสิวิไลอย่างคุณเห็นอกเห็นใจคนไม่มีจะกินบ้าง”
ปากเหน็บแนมส่วนสองขารีบก้าวหนีเร็วกว่าเดิม และอยากจะปิดประตูห้องใส่หน้าเหลือเขากำลัง แต่ก็ทำไม่ได้เพราะเป็นลูกเจ้านาย และนั่นก็คือสิทธิ์พิเศษจนเขารีบก้าวยาวๆ ไปขวางหน้าเจ้าหล่อนไว้ เมื่อไม่เข้าใจว่าคำเย้าแหย่ของเขาไม่กี่คำทำไมเจ้าหล่อนจะต้องหัวเสียด้วย