ตอนที่ 6 : ความรู้สึกค่อยๆชัดเจน

1632 คำ
ตอนที่ 6 : ความรู้สึกค่อยๆชัดเจน คริษฐ์ลอบถอนหายใจโล่งอกเมื่อรู้ว่าเจ้าจอมไม่ได้รังเกียจในสิ่งที่เขากำลังกังวลใจ แต่ก่อนที่เขาจะพาร่างสูงใหญ่เดินเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำก่อนเข้านอน นัยน์ตาคมกริบก็สะดุดเข้ากับเลือดสีแดงสดที่เปื้อนผ้าปูที่นอนสีขาวแถวๆบริเวณที่วางแขนซ้ายของอีกฝ่าย “แขนมึงไปโดนอะไรมาวะไอหมอ” คริษฐ์ขมวดคิ้วยุ่งเอ่ยถามพร้อมกับเดินมาพลิกท่อนแขนขาวๆดูแล้วพบว่าอีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บ “สงสัยจะโดนเศษแก้วบาดเมื่อกี้” เจ้าจอมตอบอย่างไม่ใส่ใจ ยังคงนอนราบอยู่เช่นเดิม ไม่คิดจะขยับตัวไปไหน “ตอนกูออกไป มีเรื่องในคลับเหรอวะ!” “อืม นิดหน่อย แต่การ์ดก็เคลียร์ได้เร็วเหมือนกัน” เจ้าจอมเลือกที่จะโกหกไปคำโต ทั้งที่ตัวเขาเองนั่นแหละที่เป็นคนจัดการกับไอ้วัยรุ่นกลุ่มนั้นเอง ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการระบายอารมณ์โมโหส่วนตัวล้วนๆ โดยที่การ์ดนั้นวิ่งเข้ามาทีหลัง “กูว่ามึงทำแผลหน่อยดีกว่า ปล่อยไว้เดี๋ยวจะติดเชื้อ” พูดจบก็เดินไปหยิบกล่องยาบนโต๊ะที่ทางโรงแรมมีไว้ให้ ก่อนจะเดินกลับมานั่งลงข้างๆร่างสูงโปร่ง หมายจะดึงแขนอีกฝ่ายมาทำแผลให้ ทว่าเจ้าจอมกลับเด้งตัวลุกขึ้นมานั่งแล้วเบี่ยงหลบไม่ยอมให้เขาทำเสียอย่างนั้น “เฮ้ย! แผลนิดเดียวไม่เป็นอะไรหรอก” “ถึงแผลจะเล็กน้อยก็อาจจะติดเชื้อได้ มึงเรียนหมอมาก็น่าจะมีความรู้ดีกว่ากูนะ เอาแขนมานี่!” คริษฐ์รู้สึกไม่พอใจเมื่อเห็นอีกฝ่ายดื้อ จึงใช้น้ำเสียงดุใส่ ทว่าเจ้าจอมก็ยังไม่ยอมอยู่ดี “ก็กูบอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องทำหรอก” “มึงจะยอมให้กูทำแผลให้ดีๆหรือจะให้กูใช้กำลัง” “ไอ้คิง!” “ไอ้หมอ!” ต่างฝ่ายก็ต่างจ้องกันเขม็งไม่มีใครยอมใคร จนเวลาล่วงเลยผ่านไปสักพักคริษฐ์รู้สึกเหมือนว่าหัวใจของตัวเองเต้นแรงขึ้นอีกครั้งเมื่อได้จ้องตาอีกฝ่ายในระยะประชิด ซึ่งเจ้าจอมเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน แต่คราวนี้รู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาจากอก มันเป็นความรู้สึกแปลกๆที่ทั้งสองคนให้คำตอบตัวเองไม่ได้ แต่ก็มั่นใจว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นตอนนี้ไม่ใช่ความรู้สึกแบบเพื่อนเหมือนอย่างที่เคยเป็น เจ้าจอมที่ได้สติก่อนรีบสะบัดศีรษะแรง จากนั้นก็ลุกพรวดจากที่นอนหมายจะเดินหนีไปทางอื่น ทว่าคริษฐ์กลับคว้าข้อมือขาวๆไว้แล้วออกแรงดึงให้กลับมานั่งที่เดิม “จะไปไหน มานี่!” “ก็กูบอกว่า…” “อย่าดื้อกับกู!” น้ำเสียงดุดัน พร้อมด้วยนัยน์ตาคมกริบประกายแสงวาวโรจน์ที่ส่งมาทำให้เจ้าจอมเผลอกลืนน้ำลายลงคอฝืดเคือง ก่อนจะยอมนั่งนิ่งๆให้อีกฝ่ายช่วยทำแผลให้อย่างไม่ขัดขืนอีกต่อไป คริษฐ์ตั้งใจทำแผลเงียบๆ ทุกขั้นตอนนั้นอ่อนโยน และเบามือเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกเจ็บ โดยที่ไม่รู้เลยว่าการกระทำที่แสนจะอ่อนโยนของตนนั้นกำลังทำให้หัวใจของอีกฝ่ายเต้นแรงและหวั่นไหวไปในครา “อืม…เสร็จแล้ว” คริษฐ์ว่าพลางเงยหน้าขึ้นมาบอก เป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้าจอมก้มมองแผลแล้วสายตาทั้งคู่ก็สบประสานเข้ากันโดยบังเอิญอีกครั้ง ต่างฝ่ายต่างชะงักนิ่งไป ความเงียบปกคลุมทั่วห้องอีกครั้งเนิ่นนาน ก่อนที่คริษฐ์จะลุกพรวด แล้วก้าวยาวๆตรงไปที่ห้องน้ำโดยไม่พูดอะไรอีก เช่นเดียวกับเจ้าจอมที่นั่งนิ่งอยู่บนเตียงแบบนั้น ในคืนนั้นทั้งสองคนนอนบนเตียงเดียวกัน แต่ต่างฝ่ายต่างหันหลังนอนตะแคงให้กันคนละด้าน เพราะความรู้สึกแปลกๆมันกำลังทำให้พวกเขาสับสน คริษฐ์เริ่มไม่มั่นใจว่าหากบอกอีกฝ่ายไปตรงๆว่าความรู้สึกของตนตอนนี้ไม่เหมือนเดิม เจ้าจอมจะถอยห่างหรือเปล่า ใจหนึ่งก็ไม่อยากให้เจ้าจอมโกรธและเลิกเป็นเพื่อน แต่อีกใจก็เรียกร้องให้รีบๆบอกความรู้สึกที่มี เพื่อให้อีกฝ่ายรับรู้เอาไว้ ส่วนเจ้าจอมเองก็ไม่ได้แน่ใจว่าตอนเผลอสบตากับอีกฝ่าย คริษฐ์จะรับรู้ความจริงบางอย่างที่เขาซ่อนไว้หรือเปล่า แต่กระนั้นก็ยังเข้าข้างตัวเองว่าคริษฐ์ไม่รู้ และตนก็ตั้งใจจะเก็บซ่อนมันไว้แบบนี้ เพราะไม่อยากเสียเพื่อนดีๆอย่างคริษฐ์ไป …………………………………………. เช้าวันต่อมาทั้งสองก็เดินทางจากตัวเมืองกลับมายังหน่วยพิทักษ์ป่า ระหว่างทางต่างฝ่ายต่างจมอยู่กับความคิดของตัวเอง ไม่มีใครยอมพูดอะไรกระทั่งรถจอดสนิทลงเมื่อถึงจุดหมาย ทันทีที่คริษฐ์เดินลงจากรถก็มีลูกน้องวิ่งเข้ามารายงานอะไรบางอย่าง จากนั้นเขาก็ไม่รอช้าที่จะกลับเข้าที่พักเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหยิบปืนสั้นซึ่งเป็นอาวุธคู่ใจเหน็บเข้าที่เอว แล้วเดินกลับมาเรียกรวมตัวทุกคนด่วน เจ้าจอมที่เห็นเหตุการณ์รู้สึกเป็นกังวล จึงต้องเดินเข้ามาหาอีกฝ่าย ก่อนที่คริษฐ์จะทันได้ขึ้นรถ “มึงจะไปไหนไอ้คิง!” “กูจะเข้าป่า ไปลากคอไอ้พวกมอดไม้” “กูไปด้วย” “เฮ้ย! ไม่ได้ มันอันตราย!” คริษฐ์สั่งห้ามทันทีเมื่อเจ้าจอมทำท่าจะกระโดดขึ้นรถตามไปด้วยอีกคน ทว่าอีกฝ่ายไม่สนยังคงทำตัวดื้อไม่เปลี่ยน “อันตรายแล้วไงวะ!” “ไอ้หมอ! พวกกูถูกฝึกมามาให้ใช้ชีวิตอยู่กลางป่า และใช้อาวุธต่อสู้เอาชีวิตรอด แต่มึง…” “แต่กูทำไม? กูก็ถูกฝึกมาเหมือนกัน” “แต่ฝึกไม่เหมือนกัน” “ไม่เหมือนกันยังไง กูก็ถูกฝึกมาให้ช่วยชีวิตคน เพราะฉะนั้นกูก็ฆ่าคนเป็นเหมือนกัน” “ไอ้หมอ! ถ้ายังคุยกันไม่รู้เรื่องแบบนี้ กูไม่คุยด้วยแล้ว” คริษฐ์ที่กำลังรีบ ไม่อยากต่อปากต่อคำกับเจ้าจอมอีก เลยตัดสินใจก้าวขึ้นรถแล้วออกคำสั่งกับลูกน้องด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด! ทันที “เฮ้ย! ออกรถโว้ย!” เจ้าจอมมองรถจี๊ปสีดำคันใหญ่ที่แล่นออกไปด้วยความเจ็บใจ แต่เหนือสิ่งอื่นใดเขารู้สึกโกรธที่คริษฐ์ไม่ยอมให้ติดตามไปด้วย ไม่ใช่เพราะอยากจะไปก่อกวนการทำงานของเขาให้วุ่นวาย แต่ตนตั้งใจจะคอยช่วยเหลือเจ้าหน้าที่หากได้รับบาดเจ็บระหว่างปะทะกับคนร้าย ซึ่งดูเหมือนคริษฐ์จะไม่ได้มองเห็นความหวังดีในส่วนนั้นของเขาเลย ………………………………………………. “ไอ้หมอ มึงหยุดเดินแล้วหันมาคุยกันให้รู้เรื่องเดี่ยวนี้นะ!” คริษฐ์ที่เพิ่งจะกลับมาจากการจับกุมคนร้ายที่ลักลอบตัดไม้มาเหนื่อยๆ รู้สึกไม่ค่อยพอใจที่เจ้าจอมทำเมินใส่แล้วเดินหนี ไม่ยอมพูดด้วย ทำให้ความรู้สึกหงุดหงิดของเขาที่มีตั้งแต่ตอนทะเลาะกับอีกฝ่ายก่อนไปปฏิบัติภาระกิจปะทุขึ้นมาอีกครั้ง “กูบอกให้หันมาคุยกันไง” คราวนี้คริษฐ์รู้สึกหมดความอดทน มือใหญ่คว้าข้อมือขาวๆของเพื่อนแล้วกระชากให้หันหน้ามาเผชิญอย่างแรงตามอารมณ์โมโห ซึ่งเจ้าจอมเองก็ไม่ยอมอ่อนให้เช่นกัน เขาสะบัดแขนออกทันทีที่หันมาเผชิญหน้าพร้อมกับตวาดเสียงใส่ใบหน้าหล่อเหลา ด้วยอารมณ์โมโหไม่ต่างกัน “มึงคิดว่ามึงเป็นใครไอ้คิง! เอาแต่สั่งๆๆๆคนอื่น คิดว่าเป็นหัวหน้าที่นี่แล้วกูจะกลัวมึงหรือไง” “มีเหตุผลหน่ายสิวะไอ้หมอ ที่กูสั่งไม่ให้มึงตามไปก็เพราะเป็นห่วงมึง ไม่อยากให้มึงไปเผชิญอันตรายเข้าใจกูหน่อยสิวะ!” “แล้วมึงถามกูหรือเปล่าว่ากูกลัวอันตรายไหม มึงเอาแต่ตัดสินคนอื่นตามใจมึง ไม่เห็นถามความเห็นของคนอื่นเลย แบบนี้ยังจะเรียกตัวเองว่าผู้นำที่ดีอยู่อีกเหรอวะ!” “ไอ้หมอ!” คริษฐ์สติหลุดคว้าคอเสื้ออีกฝ่ายกระชากเข้ามาหาตน ใบหน้าหล่อเหลาตอนนี้แดงก่ำด้วยความโกรธ ทว่าคนถูกคว้าคอเสื้อกลับเชิดหน้าท้าทาย ไม่มีทีท่าว่าจะกลัวเลยสักนิด “ทำไม! มึงจะทำไมกู คิดว่าตัวเองมีอำนาจแล้วจะใช้กับใครก็ได้งั้นสิ เอาเลยสิ เอาเลย!” “อย่ามาท้ากูนะไอ้หมอ” “กูไม่ได้ท้า แต่ถ้ามึงอยากต่อยกูก็เชิญ เพราะกูก็จะสวนมึงกลับเหมือนกัน” คำประกาศชัดจากเจ้าจอมที่ไม่ยอมอ่อนให้ ทำให้คริษฐต้องขบกรามแน่นจนเป็นสันนูนเพื่อระงับตัวเองไม่ให้เผลอต่อยอีกฝ่ายเข้า ก่อนจะที่สองคนจะสบประสานตากันนิ่ง แล้วหัวใจก็เต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง “บ้าชิบ!” คริษฐ์ผลักอกกว้างของอีกฝ่ายเต็มแรงเมื่อความรู้สึกแปลกๆกลับมา ทำให้คนไม่ทันระวังต้องเซถอยหลังไปหลายก้าว แต่ก่อนที่ทั้งสองคนจะได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น เสียงของเจ้าหน้าที่นายหนึ่งก็วิ่งมารายงานเสียก่อน “หัวหน้าครับ ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตชด.มาถึงแล้วครับ” “เอ่อ! เดี๋ยวกูไป” คริษฐ์บอกกับลูกน้อง ก่อนจะหันมามองใบหน้าขาวเนียนแล้วตัดใจยุติการพูดคุยเอาไว้เพียงเท่านี้ก่อน เพราะตัวเองยังมีเรื่องต้องจัดการ พร้อมกับตั้งใจไว้ว่าหลังจากเสร็จงานจะกลับมาพูดคุยกันใหม่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม