เวลาผ่านไปถึงช่วงเวลานัดเดทกับเพื่อนของเพื่อนอีกที ต้นเป็นหนุ่มเนิร์ดที่ค่อนข้างฮอตมากเลยแหละ เรามานั่งเล่นที่คาเฟ่ใกล้มหาวิทยาลัยที่พึ่งจะเปิดใหม่ได้ไม่นาน ที่นี่บรรยากาศดีเหมาะแก่การถ่ายรูปที่สุดเลย ขนมก็อร่อยถูกปาก น้ำก็รสชาติดีถูกใจ แต่ว่าไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกอึดอัดมากขนาดนี้ คล้ายกับว่าถูกจ้องมองจากมุมใดมุมหนึ่งและเสียวสันหลังแปลกๆทั้งที่ไม่มีอะไรเลย ต้นก็ไม่ได้แทะโลมหรือหาทางจะลวมลามกันเลยด้วยซ้ำทั้งที่มีโอกาสหลายครั้งที่เขาจะตีเนียนได้
“ทีแรกเราคิดว่าจะถามพิ้งค์ตั้งแต่วันนั้นแล้วว่ามีแฟนรึเปล่า แต่พิ้งค์เมาก่อน พอเราไปถามเพื่อนมันก็บอกว่าพิ้งค์ยังโสดอยู่ แต่อาจจะมีคุยบ้างตามประสาคนสวย”
“เราก็ไม่ได้สวยขนาดนั้นสักหน่อยนะต้น”
“สวยสิ พิ้งค์สวยเสมอแหละสำหรับเรา”
“ปากหวานแบบนี้สาวน่าจะเยอะนะเนี่ย”
“แล้วสาวคนนี้ล่ะ?”
“ไม่หลงหรอก เราใจแข็งมาก”
“พิ้งค์ได้บอกใครไหมว่ามาที่นี่ เรารู้สึกเหมือนมีคนแอบมองอยู่ตลอดเวลาเลย บางทีอาจจะเป็นเพื่อนของเราสองคนตามมาแอบดูก็ได้ พวกมันต้องล้อเราแน่นอนเลยอะ นานมากแล้วที่เราไม่ได้จีบใคร”
“เราไม่ได้บอกใครว่ามาที่นี่ เราบอกแค่จะมาเดท”
“สงสัยเราน่าจะคิดมากเลย”
“นั่นสิ! ที่นี่คนเยอะจะได้ตายไปใครจะมาสนใจเราล่ะว่าไหมต้น” ถึงจะพูดไปแบบนั้นแต่ก็รู้สึกไม่ต่างกันเลยว่ามีคนแอบมองอยู่ แต่ที่นี่มันไม่มีใครเลยนะที่รู้จักเราสองคน เธอเลือกมาที่นี่เพราะว่าเดินทางง่าย ใกล้กับคอนโดและยังไม่เคยมาเลยนับตั้งแต่คาเฟ่เปิดมาสามเดือน
รู้สึกร้อนๆหนาวๆแปลกๆนะเนี่ย
เสียวสันหลังอย่างบอกไม่ถูกว่าเพราะอะไร
ในขณะที่อีกด้านหนึ่งของคาเฟ่ที่อยู่ในมุมลับสายตาจากโต๊ะนั้น เค้กชิ้นเล็กถูกตักกินเงียบๆแล้วกลืนลงคอแต่ไม่สามารถบอกได้ว่าอร่อยรึเปล่า แววตาดุดันภายใต้แววกันแดดสีดำสนิทจ้องมองด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างมากแต่ก็ไม่ได้อยากจะแสดงตัวตนอะไรเกินไปในอึดอัด ชากำมือแน่นเพื่อข่มกลั้นอารมณ์ที่กำลังปะทุขึ้นมาอย่างหนักหน่วง ยิ่งได้เห็นว่าเมียจับมือกับผู้ชายคนอื่นก็แทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว
“มึงไหวไหม?” ชัชถามน้องชาย
“ไหว” ชาตอบ
“สรุปลากกูมาเพื่อจะเฝ้าเด็กกับว่าที่ผัวใหม่เหรอวะ?” ชัชถามน้องชายก่อนจะดื่มน้ำบ๊วยโซดาเพื่อตัดเลี่ยนขนมที่สั่งมาก่อนหน้านี้ ส่วนของน้องชายดื่มเลม่อนโซดาตัดเลี่ยนและเขาแอบชิมแล้วมันอร่อยดี ในระหว่างที่ชาจ้องมองเมียเด็กตาเป็นมันก็หยิบแก้วเปลี่ยนกันแบบไม่คิดอะไรมาก
“อีกแล้วนะมึง!”
“อะไร?”
“ของกูอร่อยกว่าเลยมาแย่งงี้เหรอวะชัช?”
“ของกูก็อร่อยเหมือนกัน”
“แล้วทำไมมึงไม่แดกเองห่ะ?”
“อยู่ดีๆกูก็อยากแดกเลม่อนโซดามากกว่า กูว่ามันตัดเลี่ยนได้ดีกว่าเยอะ”
“ข้ออ้าง! ของมึงไม่อร่อยเลยเอามาให้กูกินแทน”
“รู้แล้วก็อย่าบ่นน่าน้ำแค่แก้วเดียวเอง”
“ไอ้เด็กนั่นมันหล่อกว่ากูไหมวะชัช?” ชาถามแล้วดื่มน้ำบ๊วยโซดาที่ไอ้พี่เวรมันเปลี่ยนเอาของตัวเองมาให้เพราะไม่ถูกปากเท่าเลม่อนโซดาของเขา จากนั้นก็ตักขนมกินแล้วจ้องมองเพื่อสังเกตคนที่มันกล้านัดเมียเขามาเดท ดูยังเด็กอยู่เลยไม่น่าจะมีอะไรเทียบเขาได้ด้วยซ้ำ เรื่องหน้าตาก็งั้นๆหาความหล่อแทบไม่เจอเลยสักนิด ไม่รู้ว่าพิ้งค์ตาถั่วรึไงถึงมากับมัน แล้วที่ว่าเนิร์ดเพราะมันแค่สายตาสั้นรึเปล่า มันไม่ได้หมกมุ่นในเรื่องอะไรหรือสนใจเรื่องไหนเป็นพิเศษด้วยซ้ำมั้ง
แค่เด็กเนิร์ดปลอมๆไม่มีทางดีเท่ากับเขาหลอก
เมียควรได้รับอะไรที่ดีกว่านั้น
“มันแค่เด็กกว่ามึงเฉยๆน่าชา”
“พิ้งค์บอกว่ามันคือฮอตเนิร์ดที่ใครๆก็ชอบ แล้วทรงเสี่ยแบบกูมันไม่ดียังไงวะ อยากได้อะไรกูเปย์ให้หมด จะเอารถก็ได้ จะทำหน้าทำผิวก็จ่ายให้ได้ ค่าเทอมไม่มีก็มาเอากับกูได้ ทำไมวะเมียกูถึงชอบมันด้วย!”
“ไม่ได้ชอบหรอก”
“มั่นใจเหรอชัช? ไอ้เด็กนั่นเมียกูบอกว่าของแรร์เลยนะเว้ย แล้วแบบนี้จะบอกว่าไม่ได้ชอบได้ไงวะ!”
“เชื่อเถอะน่าว่าไม่มีใครหล่อเท่ามึงหรอกชา ไม่มีใครดูแลดีเท่ามึงด้วย มึงทั้งดูแลเอาใจใส่และใส่ใจเอาด้วย ทั้งโลกนี้หาใครดีเท่ามึงอีกได้ห่ะ ยกเว้นกูคนหนึ่งที่ดีกว่ามึงนะ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นเว้ย กูว่าพิ้งค์แค่ลองใจมึงเฉยๆ พิ้งค์ไม่ได้คิดจะทิ้งมึงหรอก”
“แน่นะชัช?”
“ไม่เชื่อกูแล้วมึงจะเชื่อใครห่ะ?”
เวลาผ่านไปจนถึงช่วงค่ำในเวลาส่วนตัวมาก เดทวันนี้ก็สนุกดีแต่รู้สึกว่าไม่ได้ใจสั่นกับต้นเลยสักนิด เธอรู้สึกกับเขาเหมือนเพื่อนคนหนึ่งแค่นั้นเองเอง ขากลับเขาขับรถมาส่งแล้วเหมือนจะรู้ว่าเราเข้ากันไม่น่าจะได้เลยไม่ถามถึงนัดครั้งถัดไป แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ชมว่าเธอสวยตลอดเวลาเลยนะ
พรุ่งนี้จะไปทำผิวสักหน่อย แล้วจะเลเซอร์ขนทั้งตัวให้เกลี้ยงเกลาและบอกลาการแว็กซ์ที่เจ็บแสบได้เลย ตอนนี้พึ่งอาบน้ำเสร็จก็เลยเลือกจะมาร์กหน้าขณะที่ทำงานส่งอาจารย์ ส่วนเรื่องวันนี้ที่เพื่อนแซวเห็นทีว่าคงจะเป็นไปไม่ได้แล้วแหละ เธอก็ยังคงเป็นคนโสดคนเดียวในกลุ่มเหมือนเดิม แต่ในระหว่างที่กำลังใช้ความคิดเงียบๆโทรศัพท์ก็สั่นเพราะมีคนส่งข้อความมา
“เสี่ยรออยู่ข้างล่าง”
ผัวมาหาแบบไม่บอกล่วงหน้าเลย
เธอหยิบมาร์กออกจากหน้าแล้วเดินนวดหน้าออกไปเพื่อลงไปหาเสี่ยชา ปรกติเวลามาหาเขาจะโทรบอกก่อนเสมอแต่ว่าครั้งนี้กลับไม่บอกกล่าวเลยค่อยข้างงงมาก หรือว่าเขาจะมาถามเรื่องรถรึเปล่านะเพราะเธอส่งแบบที่ชอบไปให้และเขามาเรื่องสีมา แต่ว่าเธอยังไม่ได้ตอบเพราะคิดไม่ออก ทีแรกเธอเลือกรถราคาไม่กี่แสนเพราะมันเหมาะกับตัวเองมากกว่า แต่เสี่ยชาดันบอกว่าถ้าเอารุ่นนี้ก็จะจองตัวท็อปให้แล้วแต่งให้เข้ากับเธอ
“เสี่ยชาคะ”
“อยู่กับใครรึเปล่า?”
“อยู่คนเดียวค่ะ หนูพึ่งอาบน้ำมาร์กหน้าเสร็จเมื่อกี้นี้เอง”
“เสี่ยมากับพี่ชายเลยซื้อข้าวมาฝาก ขนมก็ซื้อมานะ”
“คืนนี้จะค้างกับหนูใช่ไหมคะ?”
“อืม พรุ่งนี้เสี่ยจะพาไปดูรถด้วย”
“แต่หนูมีนัดทำผิวนะ”
“ไปดูตอนเช้า แล้วสายๆค่อยไปทำผิวก็ได้ถึงยังไงคลินิกก็เปิดช้ากว่าอยู่ดี”
“ก็จริง งั้นเอาตามที่เสี่ยชาบอกเลยค่ะ” เขาเดินถือของด้วยมืออีกข้างและโอบไหล่เธอขึ้นไปที่ห้องด้วยกัน เธอได้กลิ่นเหล้ามาจากเขาชัดเจนมากและไม่รู้ว่าเขาไปดื่มที่ไหนมาก่อนถึงมาที่นี่ได้ จะว่าไปเธอก็ไม่เคยเห็นเสี่ยชัชที่เป็นพี่ชายฝาแฝดของเสี่ยชาเลยนะ เธอเคยเห็นแค่ในรูปซึ่งเขาชอบถ่ายเบลอจนรู้สึกว่าหน้าตาไม่เหมือนกันเลย เสี่ยชาก็ไม่ได้แนะนำให้รู้จักแต่ก็เล่าให้ฟังบ้าง
อยากรู้จักว่าเสี่ยชัชจะใจร้ายเหมือนเสี่ยชาไหม
พี่น้องคงไม่ต้องเหมือนกันทุกอย่างหรอกมั้ง
“วันนี้หนูไปเดทมาค่ะ”
“เป็นยังไงบ้างล่ะ?”
“ก็ดีค่ะ แต่หนูว่าต้นจืดไปหน่อย แล้วเขาก็น่าจะชอบคนหวานๆกว่านี้ด้วย”
“สรุปหนูไม่ได้ชอบมันเหรอ?”
“ไม่รู้สิคะ หนูกลัวจะอกหักอะ”
“ถ้าอกหักก็หันกลับมารักผัวบ้างแล้วกัน”
“หันมารักผัว?”
“ก็ใช่ไงพิ้งค์ แล้วถึงเมียอกหักก็ยังมีผัวปลอบใจอยู่”