ตอนที่13

1291 คำ
"บัวเดี๋ยวเรียกหัวหน้าแผนกต่าง ๆ เข้าห้องประชุมด่วน" ท่านประธานสั่งงานเธอทันทีที่มาถึงห้องทำงาน แววตาคู่นั้นของเขาไร้ความเคร่งขรึมเย็นชามาหลายวันแล้วกอบัวก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะสาเหตุอะไร "ค่ะท่านประธาน" "อยู่กันสองคนเลิกเรียกท่านประธานเถอะ เรียกพี่การันต์เหมือนที่เธอเคยเรียกเมื่อตอนเด็กๆนั่นแหละ" การันต์พูดออกมาสีหน้าและน้ำเสียงดูเรียบเฉยทำราวกับว่ามันเป็นคำปกติทั่วๆไป แต่คนฟังกลับรู้สึกหัวใจพองโต ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ข้างในว่าเขาเป็นอะไรไป ทำไมพักนี้ถึงได้ใจดีจัง แต่...มีเรื่องเดียวที่กอบัวไม่ชอบใจนัก เขามักรอให้เธอหลับก่อนถึงจะเข้ามานอน ใจจริงเธอก็อยากจะลอง ปรนนิบัติเขาเรื่องบนเตียงบ้างขอเพียงแค่เขาอ่อนโยนกับเธอก็พอ "เอะ! กำลังน้อยใจเรื่องอะไรอยู่ บ้าบอไปแล้วยัยบัว" กอบัวสลัดความคิดฟุ้งซ่านออกไป แล้วรีบพิมพ์เข้าไปในไลน์กรุ๊ปของบริษัทเพื่อเชิญทุกคนเข้าห้องประชุมตามคำสั่งของท่านประธาน แต่เรื่องอะไรนั้นเธอก็ไม่รู้เหมือนกัน ท่านประธานไม่ได้บอกอะไรกับเธอเลย ห้องประชุมใหญ่ ทุกคนเข้ามาในห้องประชุมใหญ่ที่มีเอกสารวางกองอยู่เต็มโต๊ะ พร้อมกับทีมทนายความ "เกิดอะไรขึ้นคะท่านประธาน?" กอบัวกระซิบถามเขาเสียงเบาหวิว "เรียกผัวว่าท่านประธานอีกแล้วนะ" การันต์กระซิบกลับมา ทำเอาคนฟังถึงกับอึ้งหน้าแดงก่ำไปหมดเขินกับคำพูดของเขา "เอาล่ะมากันครบแล้วใช่มั้ย?...เชิญทุกคนนั่งลง" ทุกคนต่างก็นั่งลงประจำที่ตามคำสั่งรวมทั้งกอบัวด้วย ยกเว้นคุณภานุและก็ท่านประธานที่ยังคงยืนอยู่หัวโต๊ะ "ผมได้ทำการย้อนดูงบการเงินย้อนหลัง และผมเจอการโอนเงินให้บุคคลธรรมดาคนหนึ่งที่เป็นผู้รับเหมาในโครงการซ้ำๆและทำแบบเดียวกัน เอกสารก็ไม่มีการแนบอะไร ผมสืบทราบมาว่าบุคคลนี้แท้จริงไม่ได้มีการเปิดรับเหมาอะไรแค่เป็นการนำชื่อและบัญชีธนาคารมากล่าวอ้างเท่านั้น" การันต์พูดขึ้นใขณะที่เขากำลังจ้องมองไปที่ศจี หญิงสาวถึงกับตัวเย็นวาบคาดไม่ถึงว่าจะมีการตรวจสอบระเอียดขนาดนี้ "และเงินทั้งหมดที่มีการโอนไปโดยที่เป็นโครงการทิพย์ทั้งสิ้น 100 ล้านบาท" "100ล้านบาท!" เสียงอุทานจากเหล่าพนักงานดังขึ้น ทุกคนต่างก็มองหน้ากันไปมาเสียงดังอื้ออึง สักพักก็หันไปมองที่ศจีกันทั้งหมด "รันต์คะ ศจีขอคุยกับรันต์เป็นการส่วนตัวได้มั้ย?"อยู่ๆศจีก็ยืนขึ้นหน้าสวยของเธอภายใต้เครื่องสำอางหนาเตอะ ตอนนี้ปราศจากสีเลือดเพราะซีดไปหมดแล้ว และก็รู้ตัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ "วันก่อนผมถามคุณแล้วว่ามีอะไรจะบอกผมมั้ย แต่คุณไม่บอกอะไรกับผมเลยศจี ไปคุยกับทนายเถอะและนอมินีของคุณก็คือสามีของคุณนั่นเอง " ศจีถึงกับหน้าถอดสีคาดไม่ถึงแม้แต่นิดว่าการันต์จะทำกับเธอแบบนี้ได้ลงคอโดยที่ไม่บอกกล่าวอะไรก่อน "รันต์คะ เราคนกันเองน่าจะคุยกันก่อน เราสนิทกันแค่ไหนคุณลืมแล้วเหรอคะ?" ศจีลุกขึ้นมาจับแขนของการันต์ส่งสายตาเศร้าและอ้อนวอนเหมือนจะร้องไห้ขอร้องเขาไม่ให้เอาเรื่องเธอ "กรุณาเกรงใจภรรยาผมด้วยครับ"การันต์สะบัดมือของเธอออกจากการเกาะกุม "ใครคะ ใครเป็นภรรยาคุณ?" "มีอีกเรื่องหนึ่งที่ทุกคนยังไม่รู้ ผมแต่งงานแล้วเมื่อสามเดือนก่อน และเลขานุการของผมก็คือภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมายกรุณาเคารพเธอด้วยครับ" เสียงอื้ออึ้งยิ่งดังมากขึ้นกว่าเดิม กอบัวก้มหน้างุดไม่กล้าสบตาใครเมื่อถูกจ้องมาอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นพี่แต้วหัวหน้าฝ่ายบุคคล พอลลี่เพื่อนสาวสองคนสนิทของเธอ หญิงสาวแทบจะตั้งรับไม่ทันเพราะเขาไม่ได้แจ้งล่วงหน้าก่อนว่าจะเข้ามาประชุมเรื่องอะไร ศจีมองกอบัวด้วยสายตาที่ค่อนข้างจะอับอายเพราะเธอมักจะไปเล่าเรื่องของการันต์สมัยก่อนกับกอบัวบ่อย ๆ ที่แท้เป็นภรรยาของเขาแล้วเธอจะเอาหน้าไปไว้ไหน ไหนจะเรื่องนี้อีกตอนนี้ขาข้างหนึ่งของเธอตอนนี้ไปอยู่ในคุกแล้ว "สรุปเรื่องที่โกงเงินบริษัทไปหนึ่งร้อยล้าน มีใครร่วมมือกับคุณบ้างศจี" ทุกสายตาหันมามองศจีอีกครั้ง แต่ละคนไม่มีใครกล้าถามอะไรเพราะรู้ว่าตอนนี้สถานการณ์ค่อนข้างจะตึงเครียดมาก ในห้องนี้มีแต่พนักงานระดับหัวหน้าเท่านั้นไม่ได้เชิญตำรวจหรือผู้ถือหุ้นเข้ามา เพราะเกรงว่าจะทำให้ชื่อเสียงของบริษัทเสียหายไปด้วย ก็ถือว่าการันต์ใจดีมากแล้ว "ศจีทำคนเดียวค่ะ ศจีเดือดร้อนเรื่องเงิน จับศจีไปเถอะค่ะศจียอมรับแล้ว" ศจีคุกเข่าทรุดลงบนพื้นอย่างอับอายและยอมจำนนต่อโชคชะตา น้ำตาแห่งความพ่ายแพ้ความจำนนต่อโชคชะตาค่อยๆไหลออกมาอย่างต้านไม่ได้ ศจีเชื่อแน่ว่าสามีเธอจะต้องไม่ช่วยเธอแน่นอกจากซ้ำเติม กอบัวกลับรู้สึกสงสารเธอขึ้นมาจับใจ "พี่การันต์คะ ฟังเธอเป็นการส่วนตัวหน่อยเถอะค่ะ" กอบัวอดที่จะพูดออกมาไม่ได้ เธอนั้นสัมผัสได้ว่าศจีไม่น่าจะตั้งใจ มันต้องมีเรื่องอะไรมากกว่านี้กอบัวก็อยากจะรู้เหตุผลที่ทำให้ศจีตัดสินใจทำอะไรแบบนี้ ทั้งๆที่รู้ว่ามันเสี่ยงมาก "เอาอย่างนั้นเหรอ..อืม" การันต์พยักหน้าฟังเลขานุการสาวเป็นครั้งแรก ภายในใจได้แต่คิดว่าใครกันนะวันก่อนที่ดูเดือดร้อนกับเรื่องนี้มากกว่าเขาพอเขาเอาเรื่องเข้าจริง ๆกลับน้ำตาซึมสงสารจำเลยขึ้นมาได้ "เอาล่ะทุกคนออกไปก่อน เดี๋ยวจะให้ฝ่ายเอชอาร์แจ้งผลไปอีกทีละกันว่าจะมีการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่หรือไม่อย่างไร" "ค่ะ/ครับ!" ทุกคนต่างก็ทะยอยออกไปตามคำสั่งของผู้บริหารยกเว้นทนายความ กอบัวก็ขอตัวออกไปด้วยเพราะเข้าใจว่าศจีคงไม่สะดวกใจให้เธอได้ยิน "บัวไปก่อนนะคะ" "ครับ เดี๋ยวเจอกันตอนเที่ยงนะ"การันต์ยิ้มให้กอบัวแล้วตอบเธอด้วยน้ำเสียงหวานซึ้ง จนกอบัวต้องหันไปมองรอบๆ แต่เหมือนกับว่าคนอื่นๆกำลังจะยิ้มเขินแทนเธอกับคำพูดของท่านประธานที่ไม่ค่อยจะได้ยินกันนัก ศจีมองภาพที่เขาแสดงความรักกับกอบัวด้วยหัวใจที่เจ็บปวด การันต์เจอเพชรเม็ดแท้เข้าแล้วจริง ๆ เธอได้รับผลกรรมแบบนี้มันสมควรแล้ว ความสำนึกผิดชอบชั่วดีประดังเข้ามาในหัวใจและสมองของเธอ เพราะแท้จริงแล้วศจีไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นแต่ที่เธอทำเพราะสถานการณ์บังคับทั้งนั้น แต่เธอก็ไม่สมควรยักยอกเงินของบริษัทแล้วมาอ้างความเดือดร้อนของตัวเอง ศจีขลาดกลัวเกิดไปที่จะเผชิญหน้ากับความจริงว่าเธอนั้นเลือกเส้นทางผิดตั้งแต่แรกแล้ว ไม่งั้นจุดจบคงไม่ลงเอยแบบนี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม