"บัว! เอ่อ คุณบัว" พอลลี่เดินมาหากอบัวที่โต๊ะเมื่อออกมาจากห้องประชุมพร้อมพี่แต้วหัวหน้าฝ่ายบุคคล เพื่อจะมาขอโทษขอโพยเธอเรื่องที่ผ่านๆมา
"พี่่พอลลี่คะ เรียกบัวเหมือนเดิมเถอะค่ะ"
กอบัวส่งยิ้มให้พอลลี่อย่างเป็นมิตรไมตรีเหมือนเดิมไม่ได้แตกต่างไปจากวันเก่าก่อน
"น้องบัวจ้ะ..เอ่อที่ไม่เปิดเผยตัวนี้เพราะมาสืบเรื่องการโกงเงินของบริษัทหรือจ้ะ?"
เสียงพูดของพี่แต้วดูอ่อนหวานเปลี่ยนไปจากเดิมมากและท่าทางก็เปลี่ยนเป็นนอบน้อมมากขึ้น กอบัวหัวเราะออกมาเล็กน้อยกับการคิดเยอะไปของพี่แต้ว
"ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะพี่แต้ว บัวแค่ไม่อยากจะเปิดเผยตัวเอง จะได้ทำงานกันเต็มที่"
"น้องบัวอาจจะอยากมาสืบพฤติกรรมของคนแถวนี้ก็ได้นะพี่แต้ว"
เสียงพูดที่ดัดออกมาพร้อมจริตที่กรีดกรายประชดประชันของพอลลี่ทำให้พี่แต้วถึงกับหน้าซีด เพราะว่าชอบมาชวนกอบัวเมาส์บ่อย ๆ เวลาว่างๆ ถึงแม้ส่วนมากกอบัวจะเป็นฝ่ายนิ่งฟังมากกว่าแต่พี่แต้วก็ใส่ไว้เยอะเหมือนกัน
"พี่..พี่ขอโทษนะคะคุณบัว"
พี่แต้วกล่าวออกมาด้วยท่าทางที่เขิน ๆ และดูกังวลว่าจะถูกไล่ออกเพราะพฤติกรรมของเธอมันก็เยอะไปจริงๆ
"ไม่เป็นไรค่ะ ทุกคนทำตัวกับบัวเหมือนเดิมสบายๆเถอะนะคะ "
กอบัวพูดขึ้นเพราะตอนนี้เริ่มมีคนอื่นทะยอยกันเข้ามาขอโทษขอโพยเธอกันมากมาย เพราะช่วงหลังๆพากันนินทากระแทกกระทั้นเธอบ่อยๆ และยังปล่อยข่าวลือเรื่องที่ว่ากอบัวนอกจากเป็นเลขานุการแล้วยังเป็นเมียเก็บท่านประธานอีกด้วย แต่หญิงสาวไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ เอาตรงๆทั้งบริษัทนี้ก็มีแต่พอลลี่เท่านั้นที่ช่วยเหลือเธอและคอยปลอบใจเธอตลอดมา
ตอนนี้เจ้พอลลี่ก็ยืนเชิ่ดหน้าใส่ทุกคนเพราะว่าได้หน้าเต็ม ๆ
"แยกย้ายกันไปทำงานกันเถอะค่ะ ไม่มีอะไรทั้งนั้นบัวไม่ได้ถือโทษโกรธใครเลยค่ะ คนไม่รู้ย่อมไม่ผิด..แต่ว่าไม่ควรทำแบบนี้กับพนักงานใหม่ที่เข้ามานะคะ"
"ค่ะ/ครับคุณบัว!"
หญิงสาวกล่าวเสร็จทุกคนต่างก็ทะยอยกันออกไปทำงานประจำตำแหน่งหน้าที่ของตัวเอง แต่ทว่าในวันนี้คงไม่ได้ทำงานกันดีๆแน่ เพราะแชทกลุ่มของแต่ละคนน่าจะแตก เรื่องเลขานุการคือภรรยาของท่านประธานคงจะกลายเป็นไวรัลที่ร้อนระอุในบริษัทไปอีกหลายวัน
"พี่การันต์นะพี่การันต์ ไม่ยอมบอกอะไรบัวเลยปล่อยให้เข้าใจผิดไปซะหลายเรื่อง"
กอบัวอดที่จะบ่นออกมาไม่ได้ หญิงสาวเอามือเท้าคางลูบแก้มตัวเองเบา ๆ เมื่อนึกถึงตอนที่เขาประกาศบอกทุกคนว่าเธอคือภรรยาของเขา กอบัวอดที่จะรู้สึกเขินไม่ได้
แต่ทว่าก็ยังอดเป็นห่วงศจีไม่ได้ เรื่องโกงเงินเป็นร้อยๆล้านไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ก็หวังว่าสามีของเธอจะหาทางออกให้ศจีได้โดยที่ไม่ต้องติดคุกกันใหญ่โต เพราะได้ข่าวว่าศจีมีลูกเล็กๆ พอคิดมาถึงตอนนี้เธอก็อดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้
"เฮ้อ..อยากรู้จังว่าเหตุที่ทำให้ผู้หญิงคนนึงกล้าทำเรื่องแบบนี้ได้เป็นเพราะอะไร?"
หญิงสาวได้แต่เก็บความสงสัยไว้ภายในใจ เธอหยิบงานออกมาทำต่ออย่างปกติ แต่สายตาก็อดที่จะปรายตาไปตรงทางเดินไม่ได้เพราะกำลังรอคนเป็นท่านประธานอยู่อย่างใจจดใจจ่อ
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป
ร่างสูงโปร่งก็เดินกลับมาพร้อมกับผู้ช่วยภานุ
"เอ่อ ท่านประธานครับ ขอโทษเรื่องที่เคย..เอ่อ.กับคุณบัวครับ"
ภานุเอ่ยออกมาอย่างติดๆขัดๆและไม่กล้าสบตามืออีกข้างก็ยกขึ้นลูบท้ายทอย ก่อนจะก้มลงเล็กน้อยอย่างคนสำนึกผิดไปแล้ว
"อ๋อ เรื่องที่นายเคยคิดจะจีบเมียชั้นน่ะเหรอภานุ?"
การันต์ย้ำเสียงเข้มเพียงเพราะต้องการแกล้งภานุเล่นๆเท่านั้นแต่ทำเอาอีกคนขาสั่นแทบจะร่วงไปกองอยู่กับพื้น
"ขะ ขอโทษครับท่านประธานพอดีนุไม่รู้จริง ๆ อย่าไล่นุออกเลยนะครับ"
แทนตัวเองด้วยชื่อเล่นด้วยน้ำเสียงที่อ้อนวอนฟังดูน่าขำขันเสียมากกว่า เพราะปกติภานุเป็นคนตลกอารมณ์ดีตลอดเวลา
"รู้ก็ดีแล้ว ที่ผ่านมาถือว่านายไม่รู้ก็แล้วกัน แต่ต่อไปนี้ถ้าคิดจะจีบเมียชั้นอีก.....ตาย!"
"ครับ ๆ งั้นผมไปทำงานก่อนนะครับ"
ภานุรับจ้ำอ้าวอออกไปอย่างเร่งรีบ เพราะถ้าขืนอยู่ต่อพูดอะไรไม่เข้าหูท่านประธานเงินเดือนเดือนนี้ไม่น่าจะเหลือติดบัญชีแล้ว
"มีอะไรกันหรือเปล่าคะพี่การันต์ ทำไมคุณภานุเดินเหมือนจะวิ่งไปอยู่แล้ว"
"กลัวโดนไล่ออกข้อหาจีบเมียท่านประธาน"
"ห้ะ!จริงเหรอคะ มะ ไม่น่าจะผิดอะไรนะคะ ก็..คุณภานุไม่ทราบว่าเรา..."
"ช่างเถอะ เดี๋ยวเข้ามาในห้องหน่อย"
การันต์พยักพเยิดให้เธอตามเข้าไปในห้อง กอบัวยิ้มพยักหน้าแล้วก้มลงรวบรวมเอกสารบนโต๊ะเดินตามร่างสูงโปร่งของเขาเข้าไปทันที
"เรื่องคุณศจีสรุปเป็นยังไงบ้างคะ?"
การันต์เอนหลังทุ่มตัวลงบนเก้าอี้กระพริบตาถี่ๆสองสามครั้งก่อนจะเอ่ยออกมา
"ก็ให้ทางทนายทำเป็นสัญญาเงินกู้โดยอ้างอิงจากหลักฐานให้ศจีหาเงินมาใช้คืนบริษัท"
กอบัวยิ้มออกมาเมื่อรู้ว่าเขาไม่ได้ส่งศจีไปถึงมือตำรวจเพราะอดที่จะสงสารศจีไม่ได้
"พี่การันต์ใจดีจังค่ะ"
กอบัวยิ้มกว้างจนตาหยีทำให้ใบหน้างามของเธอดูน่ารักน่ามองยิ่งขึ้นไปอีก การันต์จ้องเธอนิ่งราวกับถูกมนต์สะกดเพราะเป็นครั้งแรกที่แต่งงานกันแล้วเห็นเธอยิ้มออกมาแบบนี้
"เย็นนี้ไปบ้านคุณพ่อคุณแม่กันนะ"
"จริงๆเหรอคะ พอดีเลยบัวก็อยากเจอคุณแม่"
รอยยิ้มแห่งความสุขยังคงฉายอยู่บนใบหน้าของเธอไม่ต่างไปกับยัยหนูบัวตัวน้อยในอดีต
"แล้วแซนวิชพี่ล่ะ วันนี้ทำมาให้มั้ย?"
"ทำมาสิคะ เดี๋ยวบัวเอาเข้ามาให้พร้อมกาแฟนะ"
"นึกว่าไม่ทำมา จะได้กินเลขาแทน"พูดพรางส่งสายตาคมวาววับไปลวนลามหญิงสาวแทนการกระทำกอบัวหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย
"พี่การันต์อ่ะ..เดี๋ยวบัวไปชงกาแฟให้ค่ะ"ขอตัวออกไปอย่างเขิน ๆ เพราะถ้าขืนยืนอยู่ต่อมีหวังได้ร่วงไปกองอยู่กับพื้นเพราะความปวกเปียกแน่ก็ดูสายตาที่เขามองเธอสิ
การันต์มองตามร่างเพรียวในชุดเดรสสั้นที่มีสูทสวมทับอีกที เขาเผลอยิ้มออกมาอย่างรู้สึกดี ยิ่งพาลให้นึกถึงเมื่อวัยเยาว์นานเท่าไหร่แล้วนะที่เขากับเธอจากกัน แล้วมาเจอกันอีกในฐานะสามีภรรยา
"บางครั้งการมีเมียมันก็ดีนะ"การันต์เผลอพูดกับตัวเองหลังจากที่ลับตากอบัวแล้ว
เมื่อความรู้สึกที่มีต่อเธอผิดแผกไปจากเดิม จึงทำให้การันต์รู้สึกมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ๆเธอ กลายเป็นว่าเสือตัวนี้กำลังสิ้นลายแล้วจริงสินะ เพราะจากเคยไปเที่ยวทุกคืนก็ไม่ไป แถมตื่นมาตอนเช้าในบางวันยังไปช่วยเธอใส่บาตรอีก ตอนนี้การันต์ยังคงสับสนไม่เข้าใจกับความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อกอบัวนัก คงจะต้องใช้เวลาสักหน่อยถึงจะเข้าใจในเรื่องนี้