“คุณคลาวด์นะคะ?”
“ครับ ผมคลาวด์ครับ นี่พี่ชาร์ลพี่ชายผมเอง ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณกัญญาวีร์” เขาแนะนำให้พี่ชายรู้จักด้วยซึ่งนายจันได้แต่ยืนนิ่งอึ้ง เมื่อหญิงสาวยกมือไหว้พวกเขา ก่อนจะปัดผมตัวเองอย่างเก้อเขิน
“เอ่อ... รู้สึกอายจัง ฉันขายของเก่งไปหน่อยค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ ดูคุณกัญญาวีร์สนใจงานเกี่ยวกับหนังจระเข้ดี ผมไม่ผิดหวังที่มา”
กัญญาวีร์หัวเราะแห้ง “เรียกฉันว่ากันก็ได้นะคะ ชื่อจริงฉันคงจะยาวไป ตามฉันมาทางนี้เลยค่ะ” ผายมือเชื้อเชิญ เดินนำทางสองหนุ่มพลางแนะนำสถานที่ในฟาร์มจระเข้อย่างเชี่ยวชาญ ยังเลือกใช้ทางลัดผ่านสวนหย่อมเล็ก ๆ เพื่อตรงไปยังห้องอาหาร
กัญญาวีร์เพิ่งสังเกตเห็นด้วยว่าเหล่าสาวน้อยใหญ่แต่ละนาง เหลียวคอมองตามเธอทุกย่างก้าวเดินราวกับว่าเป็นผู้โชคดี มีหนุ่มหล่อลากกระชากตับขนาบข้างทั้งซ้ายขวา! จะว่าเป็นลูกครึ่งออกไปทางจีน ฮ่องกง ผสมแขกขาวนิด ๆ หรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ ขณะที่ชายทั้งสองมีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะผู้ชายตัวโต คิ้วเข้มหนาที่เรียบขนานเหนือดวงตาคู่คมปลาบขมวดมุ่น คร่ำเครียดตลอดเวลา
“คุณยายกันชอบเรียกกันว่าแก้วนะคะ แปลกที่คุณคลาวด์เรียกขึ้นมา แปลกมาก ๆ เลยค่ะ”
“คุณกันชื่อเล่นชื่อแก้วหรือครับ?” นายคล้าวถามแทนเจ้านายที่เงียบกริบ คงรู้ตัวแล้วล่ะว่าเขากำลังจะทำอะไร
“ชื่อกัญญาวีร์ค่ะ กันไม่ชอบชื่อแก้วเลย กันว่ามันโหลน่ะค่ะ โบร้าณณโบราณ แต่ว่ากันนี่สะกดด้วย น หนูนะคะ ถ้ากัญฯ เหมือนชื่อจริง กันนึกถึงก***าค่ะ” เธอยกมือป้องปากหัวเราะด้วยความเป็นคนอัธยาศัยดี อาจจะเพื่อละลายพฤติกรรมลูกค้าด้วย เพราะไม่รู้ว่าพวกเขาทั้งสองกำลังคิดอะไร จะตกลงซื้อสินค้ากับเธอไหม
ฝั่งนายคล้าวเองก็ไม่รู้ว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนการหรือเปล่า เขาแกล้งหัวเราะตามพอเป็นมารยาท ตามองไกล ๆ ไปทางถัดจากบ่อจระเข้ขนาดใหญ่ ความจุจระเข้นับพันตัว
ฟาร์มจระเข้นี้กว้างขวางพอสมควร ต่างคนเดินกันช้า ๆ มาถึงร้านอาหาร หน้าโต๊ะสำหรับลูกค้า VIP คลุมไว้ด้วยผ้าปูสีขาวปักด้วยลูกไม้อย่างงดงาม มันถูกจองไว้ก่อนหน้านี้ผ่านการติดต่อจากหน้าเว็บไซต์ มีการวางเงินมัดจำจำนวนหนึ่ง สมัครสมาชิกเพื่อซื้อสินค้าราคาปลีกก่อนเข้ามาติดต่อกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย
“กันต้องขอโทษที่ให้รอด้วยนะคะ ยังไงกันขออนุญาตเลี้ยงข้าวคุณคลาวด์คุณชาร์ลสักมื้อ”
“ให้ผมจ่ายดีกว่าครับ ผู้หญิงจ่ายเงินแล้วรู้สึกไม่ดี” ตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ ผู้อาวุโสสุดเงียบนานแล้วจึงไม่อยากเสียมารยาท
“เดี๋ยวพี่จ่ายเองครับน้อง ๆ พี่แก่สุดจะมาให้เด็กจ่ายได้ยังไง ทานกันให้เต็มที่เลยนะ” เขาหันไปทางหญิงสาวที่พยักหน้า ยกมือประนมก้มศีรษะอย่างนอบน้อม “ขอบคุณค่ะคุณชาร์ล งั้นไม่เกรงใจนะคะ กันทานเก่งนะ”
“ดีครับ รับปากว่าจะทาน ต้องทานเยอะ ๆ นะครับ ระดับพี่ชายผมเปย์หมดร้านไหว สบายมาก”
เสียงหัวเราะดังระคนกันไปหลังผูกมิตรไมตรีที่ดีต่อกัน จู่ ๆ กัญญาวีร์กลับเอียงคอ ขมวดคิ้วนิ่วหน้าสงสัยตัวเองว่ายกมือไหว้ลูกค้าทำไม อย่างมากก็ควรจะทำแค่ขอบคุณ ฉีกยิ้มหวาน ไม่สิ... ไม่ใช่นิสัยของเธอด้วยซ้ำ
ขณะที่อีกฝั่งนั้นเริ่มจับจ้องเจ้าของใบหน้าหวานงามด้วยความรู้สึกมากมายหลายอย่าง
ใต้เครื่องสำอางอ่อนโทนสีชมพู ริมฝีปากบางกระจับงามเคลือบลิปสติกสีหวานดูยังไงก็ใช่แม่ตะเภาแก้ว เส้นผมสีน้ำตาลดัดลอนปลายตามเทรนด์แฟชั่น จากที่เคยเป็นผมสีดำขลับประสาสาวโบราณทำให้เขานึกถึงคนในอดีตอย่างตะเภาทอง
กัญญาวีร์เพียงเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวทันสมัย ทว่าทรวดทรงองเอวอ้อนแอ้นและใบหน้างดงามหมดจดราวรูปปั้นสลักแกะราวกับว่าเป็นคนเดิมไม่มีผิดเพี้ยน
หากว่าเขาเจอคนพี่แล้วคนน้อง... คงต้องอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน นายจันควรดีใจกับข่าวดีนี้ จนได้ยิน
“น้อง... สเต๊กจระเข้สามที่...” เสียงหวานบอกพลางโบกมือเรียกพนักงานหนุ่ม เข้ามารับออเดอร์ไปพร้อมหน้าตาเหลอหลาของสองหนุ่มในฝั่งตรงกันข้าม
“สเต๊กจระเข้?”
“ค่ะ คุณชาร์ลชอบทานสุกไหมคะ? หรือจะเอาแบบมีเดียมแรร์ สุกกลาง จระเข้ที่นี่เนื้อดีมากเป็นจระเข้หนุ่ม รับรองว่าเนื้อนุ่มหอมเครื่องเทศ ฝีมือของเชฟเราระดับมิชลินสตาร์ ไม่มีเหนียวติดฟันแน่นอนค่ะ”
สองคนมองหน้ากัน เพราะว่าถ้าพวกเขาจะไม่กิน...
‘ฉันเป็นมังสะวิรัต! ไม่กินพวกเดียวกัน แกพาฉันมาทำอะไรวะไอ้คล้าว!’
‘กิน ๆ เข้าไปเถอะครับ ผมอยากพิสูจน์อะไรหน่อย อดทนหน่อยนะพี่นะ’
“เอ่อ... มีใคร... เป็นมังสะวิรัตหรือเปล่าคะ? คือกันได้ยิน... เสียง... เหมือนคนคุยกัน”
กัญญาวีร์แน่ใจว่าเธอได้ยินเสียงสองหนุ่มชัดเจนมาก แม้เป็นเสียงก้อง ๆ คล้ายเสียงสะท้อนของลำโพง ขณะที่พวกเขาเพียงนั่งเฉย ๆ โดยที่ปากไม่ขยับ
“ไม่มีนี่ครับคุณกัน ผมกับพี่ชายขอเลือกเมนูสักครู่นะครับ”
‘ต่อให้เจอแม่แก้ว... มันมีทางเลือกเดียวคือตายกับตายใช่ไหม!?’
‘ไม่ถึงตายหรอกครับ ใจเย็น ๆ รอดูเธอก่อน เธออาจไม่ใช่คนที่เราคิดก็ได้’
‘อย่ามาเล่นลิ้นปลิ้นปล้อน หัดเป็นบ่าวขี้ปดตั้งแต่เมื่อไร ถ้าเป็นเมื่อก่อนฉันลากแกไปเฆี่ยนแล้วไอ้น้องชายจอมปลอม! ทำอะไรไม่ปรึกษาพี่สักคำ แกเอาหัวเป็นประกันไหมว่าฉันจะไม่ต้องกลายเป็นสเต๊กจระเข้ให้เธอกิน...’
‘คงไม่มั้งครับ เธอไม่รู้สักหน่อย แล้วผมว่าเธอไม่น่าจะชอบเนื้อเหนียว ๆ เคี้ยวเข็ดฟันรุ่นคุณหลวงมั้งครับ’
‘แกกำลังจะบอกว่าจระเข้หนุ่มอร่อยกว่า?’
‘ก็แน่นอนน่ะสิครับ’
‘อยากกลายเป็นสเต๊กจระเข้ตอนนี้เลยไหมวะ ไอ้คล้าว!’
สองคนเถียงกัน ไม่ได้มองหน้ากันด้วยซ้ำ คนที่กำลังตกใจตอนนี้จึงไม่ใช่พวกเขาแต่เป็นหญิงสาว เธอจ้องหน้าสองหนุ่มสลับกันไป เมื่อต่างคนพลิกเปิดเมนูเหมือนเลือกไม่ถูกว่าจะทานอะไรดี
“เอ้อ ถ้าไม่ชอบทานเนื้อจระเข้ เป็นเนื้ออย่างอื่นก็มีนะคะ”
แน่ล่ะว่าไม่ชอบกิน! นายจันไม่พอใจ แต่พอบ่าวสะกิดเรียกบอกให้เขาสงบสติอารมณ์ลงหน่อย ใบหน้าหล่อเหลาจึงโค้งมุมปากละไมอย่างรักษามารยาทสุด ๆ
“คุณกันสั่งมาเลยครับ ผมกินได้หมด เอาเมนูแนะนำที่คุณบอกว่าอร่อย”