Chapter 15 เล่ห์กลมนตร์สะกด
อาจเพราะห่างเหินจากงานหวามมานาน นายจันเลยตามใจตัวเองไปเสียทุกอย่าง มือหนาบีบคลึงเนื้ออวบตึง ปากตะกรุมตะกรามดูดกลืนปลายยอดสีหวานทั้งสองข้างเข้าปาก เกิดเสียงดังทั้งจากน้ำลายที่เสียดสีกับปลายยอดแข็งเป็นตุ่มไต ซึ่งเขาสลับทำมันอย่างเท่าเทียม
“อ๊ะ! อื้อ... เบา ๆ นะคะ คุณชาร์ล”
ซุ่มเสียงไพเราะอ่อนหวาน พาลพาให้กุมภิลหนุ่มยิ่งคึกคะนองเป็นม้าพยศ ขณะปลายหางใหญ่โตโอฬารสะบัดซ้ายทีขวาทีตามอารมณ์ประหลาด เรือนร่างกำยำเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์แม้สักชิ้น ต่างจากคนใต้ร่าง เส้นบราเซียร์บางเฉียบสีดำหล่นอยู่เหนือต้นแขน เสื้อสูททำงานตัวสวยกองบนพื้นหิน
ทั้งหมดเป็นฝีมือของคนไม่ชอบรอ หากว่าเธอได้สติ ก็จะถูกสะกดด้วยมนตร์และปลุกให้ตื่นจากภวังค์พร้อมอารมณ์หวามไหว แววตาฉ่ำปรือหลุบมองการกระทำอุกอาจของคนบนร่าง หายใจหอบสั่น
“คุณชาร์ล... พอก่อนค่ะ...”
อีกคนคงไม่ฟังคำร้องขอที่ไม่มีน้ำหนัก เมื่อมือเรียวขาวยังสอดเข้าเส้นผมขาวสลวยแซมปอยผมขาวอย่างเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ เขาจึงก้มหน้าลงประกบริมฝีปากอิ่มงาม มอบจุมพิตดูดดื่ม สูบลมหายใจของเธอออกไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า มือจับคลึงเคล้าสองเต้าเต่งตึง กว่าริมฝีปากหนาหยักได้รูปจะยอมปล่อย
“ไปเท่าที่ไหว... ผมรับปากว่าจะไม่ทำถ้าคุณไม่เต็มใจ”
“กัน... จะได้อะไรจากคุณ?”
“จะกุดหางพี่ไปทำกระเป๋าจระเข้ใบใหม่ดีไหมเล่า... แม่แก้วใจ... บอกแล้วว่าให้ได้ทุกอย่าง ชอบสายเปย์มิใช่ฤา?”
บางคนยังจำแม่สาวจอมดื้อดึงในนิมิตได้ แม้ว่าเธอช่างแตกต่างจากเวลานี้โดยสิ้นเชิง ใบหน้านวลร้อนผ่าว แก้มขาวกลายเป็นสีซับเลือด เพียงมองตามเรียวปากหนาหยักได้รูปปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“เป็นเมียผม... ไม่น่ากลัว รับรองว่าผมน่ารักน่ากิน เอาอกเอาใจเก่ง”
ครู่เดียวเท่านั้น เมื่อความซาบซึ้งหวั่นไหวพลันผุดขึ้นกลางใจ เรื่องบางอย่างจึงยากเกินจะควบคุมสำหรับผู้หญิงไร้ประสบการณ์ กุมภิลหนุ่มโน้มใบหน้าลงมอบจุมพิตให้เธออีกครั้ง มือประคองแก้มนวลอย่างหวงแหน ขณะที่เขาต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมากไม่ให้เธอได้รับอันตราย ซึ่งเจ้าหางตัวดีคงไม่ฟาดโดนส่วนไหนของเนื้อนาง เว้นแต่หางหน้า! มันปวดตุบรุ่มร้อนหลังห่างเหินการปลดปล่อยมานาน ที่ผ่านมาเพียงปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติร่างกายส่วนหนึ่งซึ่งยังเป็นมนุษย์
ปลายลิ้นหนากระหวัดเกี่ยวลิ้นน้อยออกมาพัวพัน สอนคนตัวเล็กในแบบที่แตกต่างไป ดูดดื่มเร่าร้อนทว่าอ่อนหวาน แต่ยังมอบอากาศผ่านริมฝีปากให้น้อยลงเรื่อย ๆ จนหญิงสาวอ่อนระทวยไปทั้งร่าง ทว่ากลับหยัดสะโพกขึ้นราวกับว่ามันมีความรู้สึกนึกคิดของมันเอง
กัญญาวีร์เพิ่งเข้าใจคำว่าเล้าโลมจากบุรุษเพศ โพรงปากอุ่นที่มอบจุมพิตดังใจปรารถนา การกระทำแสนช่ำชองของมือหยาบกร้านที่ปัดป่ายไปทั่ว ไม่รู้ว่าเขาดึงป้อมปราการสีดำสนิททั้งบนล่างที่จะหลุดก็ไม่หลุดโยนลงพื้นไปตอนไหน เขาจะจับทำอะไรกับร่างกายเธอก็ทำอย่างไร้ความเกรงใจ แม้กระทั่งเลื่อนจมูกขึ้นซุกไซ้ซอกคอขาวเนียน ดูดเนื้อกายจนเกิดรอยจ้ำแดงไปทั่ว
“อื้ม... หอมหวาน... น้องกัน... แม่แก้วกัญญา”
“พอก่อนนะคะ... ไม่ไหว... อื้อ มัน... แปลกค่ะคุณชาร์ล” เธอเรียกปรามเขาอยู่หลายครั้ง เรือนกายอรชรเปลือยเปล่าโล่งเย็น ในถ้ำเงียบสงบมีเพียงเสียงหยดน้ำไหล ความร้อนจากเนื้อกายที่แนบชิดสนิทสนมกันเหมือนจะกลายเป็นคนคนเดียว ทำให้เธอปิดตาลงส่งเสียงประหลาด สำนึกรู้ว่าร่างกายขาดบางอย่าง
“คุณชาร์ล... กันรู้สึก... ร้อนค่ะ...”
“ร้อนแล้วดีไหม?” พูดเท่านั้น มือหนาพลันเลื่อนผ่านแพรไหมสีดำขลับงาม ภูเขาอูมสวย ภุมภิลหนุ่มแสยะยิ้มร้าย ลากปลายนิ้วร้อนผ่านยอดเกสรงาม
“ตรงนั้น... อ๊า! ไม่ได้นะคะ มัน... อื้อ อ๊ะ!”
ใบหน้านวลปรากฏอารมณ์อย่างชัดเจน เธอหวีดร้องตัวเกร็ง คิ้วเรียวสวยชนชิดติดกันในสีหน้าแสนทรมาน ประหนึ่งคนถูกทำร้ายเธออย่างสาหัสสากรรจ์ แต่เป็นตรงกันข้าม ปลายนิ้วอุ่นร้อนทำให้เธอรู้สึกดี เมื่อเขาขยับเขี่ยปลายยอดแข็งเป็นตุ่มไต ก่อนจะเลื่อนลงสอดเข้าช่องทางรักเข้าไปจนลึกสุดทาง
‘ชอบไหม? คนดี’
‘มัน... เสียว... ค่ะ...’
ทั้งข้างนอกข้างใน! กัญญาวีร์ไม่สามารถเลือกได้สักทาง หากว่าเขาดึงเข้า ๆ ออก ๆ เธอก็ร้องจนต้องเก็บเสียงตัวเองไว้เพราะความอับอาย พอสลับขึ้นมาขยี้ยอดกายสาวที่ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้แตะต้อง เธอก็ร้องดัง! โดยไม่กลัวว่าใครจะมาได้ยิน ปลายเล็บจิกลงบนบ่ากว้างเพื่อระบายอารมณ์แสนซาบซ่าน
ทว่าทันทีที่มือหนาหายไปจากพื้นที่สุขสม เธอกลับมองเขาอย่างตัดพ้อ จนผู้ชายตัวโตขยับกายแทรกกลาง ดึงหัวเข่าของเธองอขึ้นแล้วทาบทับตัวลงมา
“อย่าเอาเข้ามานะคะ... กันขอ...”
“ครับ... ไว้ใจผมนะคนดี” รับปากในแววตามาดมั่น และเขาคงต้องทรมานตัวเองสักตั้ง หลังถูกปรามเสียขนาดนั้น มือหนาจับเจ้าท่อนร้ายที่ขยายตัวเต็มที่เข้าแทรกกลางหว่างกลีบเกสรงาม ที่กอดกลืนตัวตนของเขาไว้ด้วยการโอบล้อม แม้ว่าอยากจะเข้าไปในช่องทางแคบสักเท่าไร เมื่อคนตัวเล็กยังไม่พร้อม ก็ต้องตามใจ
“งั้นแค่นี้...”
“ระวังนะ...” ในเสียงสั่นกลัว ใบหน้าแดงซ่านจับจ้องเขาอย่างไม่ละวาง ร่างกำยำชนหัวเข่าของเธอชิดติดกัน สะโพกสอบคอยขยับช้อนขึ้นลงอย่างระวัง ไม่กี่ครั้ง หญิงสาวเริ่มส่ายเร่าเมื่ออารมณ์ประหลาดเกิดขึ้นกับร่างกาย
เหมือนมีอะไรบางอย่างวิ่งวนในช่องท้องน้อย พอปลายหัวแดงก่ำถู ๆ ไถ ๆ สะกิดเธออยู่เรื่อย สองกลีบงามยิ่งบีบรัดตัวตนของเขาแน่น เธอกัดริมฝีปากตัวเอง แอ่นเอวให้เขาอย่างชอบพอ จนอีกคนรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าตรงไหนที่เธอชอบที่สุด และไม่อยากให้หยุด เน้นย้ำเหมือนตั้งใจนวดให้เฉพาะจุด
“คุณชาร์ล! กัน... ไม่ไหว... ค่ะ”
“มาสิแม่ทูนหัว...”
คล้ายกับว่าเขาล่อหลอกเธอหรือเปล่า โอบกอดอันแข็งแกร่งขยับลอดผ่านแผ่นหลังบาง อ้อมแขนและหน้าท้องอันทรงพลังยังกดร่างบาง ไม่ละแรงลงแม้สักน้อย
คนไร้ประสบการณ์อย่างกัญญาวีร์คงไม่รู้ว่าจะข้ามขั้นเรื่องราวระหว่างหนุ่มสาวไปมากแค่ไหน เพียงไว้เนื้อเชื่อใจ ยามสบนัยน์ตาคู่คมประกายเจิดจรัส เจ้าท่อนร้อนร้ายสะกิดปลายยอดเปียกนองน้ำแต่ละครา เธอได้แต่ส่งเสียงครวญคราง ปล่อยให้เขาจับจูบลูบกอดไปตามแต่ใจ กระทั่งมาถึงจุดที่แสงสีขาวจ้าสาดตา
“อ๊ะ... อ๊าา อร๊ายย! พี่จัน...!”
“แม่แก้ว!” เสียงทุ้มคำรามพร้อม ๆ กับที่เรือนร่างงามเกร็งกระตุก มือหนาค่อยคลายอ้อมกอดออกจากที่กอดรัดหน้าขาแน่น แหวกเรียวขางามออกกว้าง เพื่อเปลี่ยนทิศทางลงหน้าทางเข้าปากทางถ้ำที่ตอดตุบเป็นจังหวะ ซึ่งเขาคงอยากเข้าไปลิ้มลองมันเหลือเกิน จึงดุนดันปลายหัวมนเข้าไปหน้าทางเข้า
“คุณชาร์ล!” กรีดร้องพลันกระถดตัวหนี รับรู้ได้ว่าผู้ชายตัวโตคงจะตามเธอมาติด ๆ จากอาการตัวเกร็ง กัดกรามแน่นจนเห็นสันกราม น้ำสีขาวขุ่นไหลทะลักเข้ามาในช่องทางรัก แม้ว่ามันจะยังจดจ่ออยู่แค่นั้นตามที่เขารับปาก
“ครับ... ไม่ทำครับ...” พลันเลื่อนสายตาจากช่องทางสีชมพูหวานกายสาวเจิ่งนองน้ำเต็มหน้าขา ขึ้นมองสีหน้าตัดพ้อที่ทำให้เขาหยุด ก่อนจะฉีกยิ้มร้ายมีเลศนัย
“เข้าไปนิดเดียว แต่เผลอแตกเข้าไปแล้วนี่สิ... ไม่รู้ว่าเมีย... จะออกลูกเป็นไข่หรือเปล่ากัน?”