Chapter 14 เล่ห์กลมนตร์สะกด
กัญญาวีร์คงลืมไปแล้วว่าบุรุษรูปงามเป็นจระเข้แปลงกายมาหลอกล่อมนุษย์ อย่างที่คุณยายและคุณทวดของเธอเคยสอนบอก ในเมื่อเขาไม่มีท่าทีใจร้ายกับเธอเลย ไม่นานที่เธอหยุดร้องไห้เพราะความกลัว นั่งนิ่ง ๆ ในถ้ำเย็นชื้น บรรยากาศเงียบสงัด ไม่กล้าเข้าใกล้เขาอีก จึงพยายามเอ่ยปากขอ
“พากันกลับบ้านได้ไหม? กันอยากไปหายาย”
“โตแล้วนะต้องเลิกเป็นลูกแหง่หลานแหง่ ผมไม่น่ากลัวหรอก ไม่กินเจ้าสาวตัวเองแน่”
แต่เขาก็ทำเธอใจเสียหลายคราว นายจันยังไม่ใช่คนเชี่ยวชาญเรื่องการเข้าหาผู้หญิง เสียงทอดถอนหายใจเฮือกใหญ่ดังขณะมองใบหน้าแดงก่ำ เสียงสะอึกสะอื้นไห้ค่อย ๆ เงียบลง
“ขอโทษครับ วันหลังผมจะบอกก่อนละกัน”
“...”
“อย่าโกรธเลยนะ เดี๋ยวพาไปกินหูฉลามร้านดัง...”
‘อีตาบ้า! ฉันก็ไม่ได้เห็นแก่กินขนาดนั้นปะ’
ขนาดถูกต่อว่าด้วยหน้าตาโกรธขึ้งบึ้งตึง เขายังรู้สึกหลงใหลเคลิบเคลิ้มท่าทางเง้างอนของเธออยู่นิด ๆ ใบหน้าหล่อเหลาระเรื่อยิ้ม คราวเลื่อนมือไปประคองแก้มร้อนผ่าว ก้มหน้าลงหาคนที่กระถดตัวหนี
“ทำอะไรคะ...?”
“แม่แก้ว... น้องเป็นเมียพี่”
เพียงเสียงทุ้มนุ่มกังวานราวเสียงของระฆังแก้วผ่านโสตประสาทหูของหญิงสาวไป แววตาคู่สวยสบมองใบหน้าอบอุ่นอ่อนโยนอย่างจงรักภักดี เธอคิดว่าสามารถเชื่อฟังเขาทุกอย่างไม่ว่าเขาจะพูดอะไรก็ตาม ก่อนจะค่อย ๆ ซุกซบใบหน้าลงบนอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม เลื่อนมือขึ้นลูบผ่านแผ่นหลังกว้าง
“ผมเป็นคุณลุงเกเตอร์สายเปย์ หาให้คุณได้ทุกอย่าง อย่าดื้อนะคุณกัน”
“คะ?” คำถามเต็มวงหน้าหวาน มือเล็กทั้งสองพยายามผลักผู้ชายเจ้าเล่ห์ ที่รวบเธอไว้เต็มวงแขน
“คุณชาร์ล คุณ... ทำอะไรกัน?”
“ยังไม่ได้ทำแต่กำลังจะทำ”
คำเตือนใต้รอยยิ้มตรงมุมปากทำหญิงสาวเริ่มกระวนกระวาย แต่ด้วยความเป็นคนใจกล้า เธอยังเชิดหน้าหยิ่งยโส
“ลองกล้าทำอะไรกันดูสิ จะให้หมอจระเข้มาปราบ จับยัดลงหม้อเลยคอยดู”
“ไม่ใช่ผีนะครับมาจับยัดลงหม้อลอยน้ำ แล้วกันน่ะ... ทำไมไม่คุยกับผมดี ๆ เหมือนตอนขายของ”
“ไม่ชอบคนพูดไม่รู้เรื่อง ตอนนี้นอกเวลางาน กันจะพูดอะไรกับคุณก็ได้”
“ถ้าอย่างนั้น ไม่ต้องพูดกันเลยดีไหม?” แสร้งถามเสียงขึ้นจมูก พลันโน้มใบหน้าลงช่วงชิงริมฝีปากคู่งามที่เม้มปิดสนิทแน่น ไม่ปล่อยให้เธอได้มีโอกาสเอ่ยประท้วง
ดวงตาคู่สวยจึงพริ้มปิดลง เมื่อเขาบดจุมพิตอ่อนหวานนุ่มนวล ประคองเธอไว้ในอ้อมแขนอย่างหวงแหน ทำให้เธอต้องตอบรับเรียวปากหนาหยักได้รูป นุ่มละมุนราวริมฝีปากของผู้หญิง หาใช่ด้วยอิทธิฤทธิ์ของมนตรา
กัญญาวีร์แทบลืมไปด้วยซ้ำว่าโกรธเขาเรื่องอะไร เมื่อมันเป็นจูบเดียวกับในห้วงฝัน ซึ่งเธอโหยหาและชอบพอมันอย่างถึงที่สุด หัวสมองของเธอขาวโพลน ไร้สภาวะความเครียดความโกรธ เพียงเรียวปากหนาเริ่มขบเม้มริมฝีปากล่างของเธออย่างช่ำชอง เชื่องช้า ก่อนดูดกลืนริมฝีปากบนสลับกันไป เธอก็ทำแบบเดียวกันกับเขาแต่คงไม่รู้เรื่องรู้ราวนักเมื่อมันเป็นครั้งแรกหัดลอง
ในเมื่อเธอยังเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง เคยแต่แอบมองเพื่อนสาวแลกจูบดูดดื่มกับ Boyfriend หลังรั้วไฮสคูล ส่วนตัวเองวิ่งหอบหนังสือกองโตกลับบ้านพร้อมอารมณ์ประหลาด คงไม่แปลกที่จะติดอกติดใจ!
ขนาดนายจันยังอิ่มเอมกับปากเล็กนุ่มไม่ประสีประสา อีกฝ่ายพยายามลอกเลียนการขยับปาก สูบลมหายใจจากปากที่ใหญ่กว่าเข้าเต็มปอด พอเขาใจดียอมมอบอากาศให้เธอบ้าง ต้องเรียกว่าใจดีเพราะเขามักเอาแต่ได้ ขนาดจูบยังไม่จูบเปล่ากอดจับไปเรื่อย จนร่างเล็กสั่นเทาส่งเสียงครางหวานผ่านลำคอมาเป็นระยะ
กุมภิลหนุ่มรู้ว่าตนกระทำเรื่องไหนได้ดียิ่งได้ใจ เขาประคองป้อนจุมพิตหวาน กว่าจะยอมผละริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง
“เชื่อสิว่าคุณยอมจูบผมเอง”
“คงจูบผู้หญิงมาเยอะค่ะ กันแค่หลงกลไอ้ตาละวัน”
ในดวงหน้าแดงก่ำแต่ปากว่า หัวสมองเผลอคิดถึงเรื่องที่คุณยายเคยเล่าให้ฟังถึงความโหดเหี้ยมของจระเข้ยักษ์ มันกินคนไม่เว้นแต่ละวันจนถูกขนานนามว่า ‘ไอ้ตาละวัน’ ก่อนผันคำเปลี่ยนไปเป็น ‘ชาละวัน’
เธอรู้ว่าเขาคงไม่โกรธเจ้าตัวนั้น ดวงตายังคงหลุบมองริมฝีปากหนาเคลือบสีเชอร์รี บวมเจ่อพอ ๆ กับปากตัวเอง
“ก็เคย... มีเมีย แต่โสดมาหกร้อยกว่าปีแล้ว”
“มีเมียตอนอายุสี่สิบ ห้าสิบ?”
“ราว ๆ นั้นแหละ รักไม่ยุ่งมุ่งแต่เที่ยวเพราะว่ายังไม่เจอคนที่ใช่ ผมไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน” นั่นเป็นเรื่องที่เขานึกเสียใจในหลายวันมานี้ จึงตั้งปณิธานแน่วแน่ว่าลากลงน้ำมาแล้วต้องได้!
“ขอชื่นใจมากกว่านี้ได้ไหม?”
“ถ้าไม่ให้ล่ะคะ?”
“อยากทำเรื่องดี ๆ แบบมีสติหรือไร้สติ... ผมอ่อนโยนเท่ากัน เฉพาะกับน้องกัน”
‘เมียรักของพี่...’
แม้ออกคำสั่งประกาศิตเพียงในใจ หญิงสาวกลับถูกสะกดอย่างง่ายดาย เธอตวัดสองมือขึ้นโอบรอบคอแกร่ง เมื่อเรือนร่างกำยำขยับขึ้นคร่อมบนตั่งหิน พลันผลักแผ่นหลังบางให้นอนราบลง ประคองเธอไว้ให้ทิ้งตัวลงนอนอย่างแผ่วเบา
ด้วยกลัวว่าคนตัวเล็กจะเจ็บหลังเมื่อยกายเสียเปล่าหากต้องบรรเลงกิจรักบนที่นอนแข็งและเย็นชืด เพียงกะพริบตาครั้งหนึ่ง มันจึงปรากฏเป็นที่นอนนุ่มสีขาวสะอาด
“คุณกัน...”
เสียงหัวเราะชอบใจดังผ่านเรียวปากหนาหยักได้รูป บอกว่าเขาแค่หยอกเธอเล่น ขณะที่เธอลูบไล้แผ่นหลังกว้างอย่างย่ามใจ ก่อนจะเบิกตากว้างตะลึง
“คุณแกล้งกันอีกแล้วเหรอ?”
“ผู้หญิงอะไร เวลางอนช่างน่ารักน่าชัง” เขายิ้มให้คนใต้ร่าง เมื่อดวงตาสุกใสทำเหลือบมองอย่างสะท้านอาย แล้วก็โดนตีเข้าบนบ่าด้วยแรงเท่ามด
“งั้นเสกหูฉลามสักชามแทนที่นอนตราจระเข้นี่ได้ไหมคะ ตกลงว่าจบโรงเรียนพ่อมดมา?”
นายจันหัวเราะอีกรอบ “เสกไม่ได้ครับ ได้แค่ของที่เคยมี ของเดิม ๆ ที่มันมีอยู่ที่นี่”
“เงื่อนไขเยอะจัง”
“ไม่ใช่พ่อมดตัวร้าย คนที่คุณก็รู้ว่าใคร ผมเป็นพญาจระเข้” ในน้ำเสียงเด็ดขาดจริงจังแอบตลกขบขัน
อย่างไรเสียกัญญาวีร์คงฉลาดมากพอรู้ว่าหากเขาใช้พละกำลังเข้าข่มขืนใจผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ในถ้ำรังรักของตัวเองคงไม่ใช่เรื่องยาก แถมไม่มีใครมาช่วยเธอด้วย ยิ่งนัยน์ตาสีแดงตรงหน้าร้อนแรงถึงเพียงนั้น พอใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนเข้ามาใกล้ ประกบปิดจุมพิตดูดดื่มเร่าร้อน ต่างจากคนก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง...
เธอคงเชื่อหมดใจว่าตนได้ตกหลุมพรางพญาจระเข้เข้าให้แล้ว