“แน่?”
“แน่ค่ะ”
“ดี! อย่าให้รู้ว่าไปเอากับใคร ถ้าแดกของร่วมกับเด็กในร้านเมื่อไหร่กูเอาตายแน่แก้ม”
ติ๊ด!
“...”
บอกตัวเองก่อนเถอะให้เลิกแดกเด็กในร้านสักที!
ทำไมชีวิตต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยวะ!
“...”
“แก้ม”
“...”
“แก้ม แก้ม!”
“ฮะ? ว่าไง” ฉันหันไปถามเพื่อนที่สะกิดเรียก
“แกไหวไหมเนี่ยถามจริง”
“ไหวสิ”
“ไม่มั้ง ไม่โอเคเลยทั้งวัน โทรไปลางานเถอะฉันเป็นห่วง”
“ไม่ได้หรอกเหมย เจ้านายรอบัญชีด้วย”
“ถ้างั้นก็ลาแต่เข้าไปหาบัญชีให้เขา หาเสร็จก็กลับหอไปพัก”
“ไปถึงร้านแล้วจะกลับทั้งที่ไม่ได้เงินได้เหรอ”
“เฮ้อ! เหนื่อยกับความงกของแก ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว ตามใจ แต่อย่าให้ต้องไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลนะไม่งั้นฉันตีตายแน่”
“ฮ่า ๆๆ จ้า~”
“ถ้างั้นก็เดินทางดี ๆ อย่าเผลอหลับบนรถเมล์ล่ะเดี๋ยวเลยป้าย”
“อื้ม เจอกันวันจันทร์นะ”
“โอเค” เหมยเอยโบกมือลาฉันก็แยกจากเพื่อนไปที่ป้ายรถเมล์ วันนี้วันศุกร์จะลาได้ไง วันนี้แหละวันที่ได้เงินเยอะเพราะคนมาเที่ยวเยอะก็ได้ทิปเยอะ
จะว่าไป ง่วงเป็นบ้าเลยนะแก้ม ถ้าได้นอนบนเตียงนุ่ม ๆ เปิดแอร์ให้เย็นฉ่ำแล้วซุกตัวในผ้าห่มอุ่น ๆ คงดี~
แต่...มีแบบนั้นที่ไหนกันล่ะ เฮ้อ!
ฉันใช้เวลาไม่นานมั้ง นานสิคะ ระยะทางจากหน้ามหาลัยฯ ไปที่ทำงานไม่ไกลแต่ใกล้แค่ไหนก็เท่ากับใกลถ้าคุณต้องเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่เรียกว่ารถเมล์และอยู่ในช่วงที่ทุกคนเพิ่งเลิกงานในเมืองหลวงของประเทศไทย!
“อ้าวแก้มมาแล้วเหรอ มากินข้าวด้วยกันเร็ว”
“แป๊บนะพี่เมฆ แก้มขึ้นไปหาบัญชีให้เฮียก่อน” ฉันเดินเข้ามาด้านหลังร้านเจอพี่ ๆ เพื่อน ๆ พนักงานของร้านกำลังนั่งกินข้าวก่อนเริ่มงานก็มีเสียงทักทายเรียกกินข้าวตามปกติ
แต่แก้มใสคนนี้ยังกินไม่ได้เพราะสิบนาทีก่อนระหว่างที่กำลังยืนอัดกับคนแปลกหน้าเป็นปลากระป๋องบนรถร่วม ขสมก. ที่เก่าจนแม้แต่พัดลมยังลาโลกไปแล้วก็มีสายโทรเข้าไปกระชากวิญญาณฉัน
“คะ”
(เมื่อไหร่จะมาหาบัญชีให้วะ!)
“แก้มกำลังจะถึง อยู่บนรถเมล์”
(แม่ง! โคตรพ่อโคตรแม่ช้า ไม่รู้รึไงว่ารอบัญชีอยู่ รู้ว่ารีบยังเสือกขึ้นรถเมล์!)
“เวลานี้รถอะไรก็ติดค่ะเฮียไคน์”
(ถ้านั่งวินมันก็เร็วกว่านี้ สมองมีคิดบ้าง!)
“...โอเค แต่ตอนนี้ไม่ทันแล้ว แก้มอยู่บนรถเมล์ลงไม่ได้ เดี๋ยวก็ถึงแล้วค่ะ”
ติ๊ด!
บทสนทนาจบลงด้วยการตัดสายจากฉัน ตัดสายพร้อมกับอารมณ์ที่คุกรุ่นอยู่ในใจ
ก๊อก ๆๆ
“เข้ามา”
แอด~
“นึกว่าตกรถเมล์ตายห่าไปแล้ว”
“...” คำทักทายส้นตีนดี
ขออภัยที่หยาบคายนะคะ แต่บางทีก็ไม่ไหวจริง ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องหยาบคายกับฉันทุกครั้งที่อารมณ์เสียรึเปล่า ใครจะอยากมาช้าให้หมาที่ไหนด่า ถ้าเหาะได้ก็คงเหาะมาแล้ว
ฉันอยากด่ากลับไม่ให้อายหมาแต่ทำแล้วได้อะไรนอกจากตัวฉันเองที่ซวย ได้ความสะใจตอนอ้าปากด่าแค่ไม่กี่นาที ถึงสิบวินาทีรึเปล่าก็ไม่รู้แล้วแลกกับตกงาน หรืออาจจะอะไรอีกหลายอย่างที่ตามมามันไม่คุ้มหรอก
“หาเร็ว ๆ”
“แก้มกำลังหา” ฉันไม่ได้หันไปตอบแต่เลือกที่จะหาแฟ้มบัญชีที่เขาต้องการแทนจะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการใช้อากาศหายใจร่วมกันนาน ๆ
“นี่ค่ะ” ฉันเอาแฟ้มไปวางให้เขา โชคดีที่หาเจอเร็วไม่งั้นได้โดนอะไรสักอย่างแน่ อะไรก็ตามที่คาดเดาไม่ได้แต่รู้ดีว่าต้องโดน
“มันอยู่ไหน”
“ข้าง ๆ กัน แต่ชื่อแฟ้มมันหาย” ฉันหมายถึงชื่อตรงสันแฟ้มนั่นล่ะ มันหลุดออกไปตอนไหนก็ไม่รู้
“ทีหลังตรวจให้ดีสิวะ ทำงานไม่รอบคอบจะจ้างมาทำห่าอะไร” เขากระชากแฟ้มไปวางตรงหน้า
“มันก็แค่ชื่อแฟ้มหาย”
“แค่ชื่อแฟ้มหายแล้วทำกูเสียเวลาไหม?”
“...”
“ไง ตอบมาสิวะ จากที่จะได้ดูบัญชีตั้งแต่เที่ยงนี่เย็นจนผับจะเปิดกูได้ดูรึยัง”
“ค่ะ เสียเวลาค่ะ”
“อืม รู้ก็ดี ทีหลังคิดก่อนไม่ใช่เอาแต่จะเถียง หัดใช้สมองบ้างไม่ใช่ใช้แต่ปาก”
“...ค่ะ”
อยากถามจริง ๆ ว่าเวลาปกติเคยอารมณ์ดีเกินห้านาทีบ้างไหม หรืออารมณ์เสียหัวร้อนแค่กับฉัน น่ารำคาญมากนะบอกตามตรง
“ถ้าเฮียไม่มีอะไรแล้วแก้มขอตัวไปทำอย่างอื่นแล้วนะ”
“ไปสิวะใครห้าม”
แอด~
“เดี๋ยว”
...เฮ้อ! จะหาเรื่องอะไรอีกล่ะ!
“คะ”
“คืนนี้อย่าเพิ่งกลับ”
“...อืม” ฉันรู้ว่าในห้องนี้มีปืนหลายกระบอก แต่ละกระบอกแพง ๆ ทั้งนั้น ฉันไม่สนปืนพวกนั้นหรอกว่าจะแพง จะเท่ห์ จะหายากแค่ไหน แต่อยากขอยืมสักกระบอก กระบอกไหนก็ได้ที่ยิงหัวผู้ชายคนนี้ให้เขาตายแล้วฉันไม่ต้องติดคุกก็พอ
...เบื่อ รำคาญ ไม่อยากเจอหน้า เมื่อไหร่ไอ้เจ้าของผับคนนี้มันจะเมาแล้วขับรถแหกโค้งตาย ๆ ไปสักที!