“เออ ๆ บอกว่ารอก่อนไงวะ”
(กูจะฆ่ายัยนี่ให้ตาย มึงรอมาเก็บศพแทนแล้วกัน)
“อ่าส์! กูกำลังรีบไป”
ติ๊ด!
“พี่ต้องเปลี่ยนเส้นทางระทันหันนะหวาย”
“เอ่อ...ค่ะ ถ้างั้นเดี๋ยวหวายลงข้างหน้าก็ได้ค่ะ”
“ไปด้วยกันนี่แหละ เสร็จธุระเดี๋ยวพี่ไปส่ง ที่ ๆ พี่จะไปอยู่ไม่ไกลจากแถวนี้” ลุคบอกเธอจบก็เพิ่มความเร็วของรถยนต์ขึ้นทันทีส่วนไม้หวายก็กล้าพูดอะไรต่อเพราะเธอตกใจตั้งแต่ที่ได้ยินประโยคนั้นของเพื่อนเขาแล้ว
(รอเหี้ยไร มึงรีบมาเดี๋ยวนี้ไอ้ลุคไม่งั้นกูได้ฆ่าผู้หญิงคนนี้ตายก่อนยัยนี่จะฆ่าตัวตายเองแน่!)
เธอไม่เคยคุยพี่ชาร์ลคนนั้นหรอกมีแค่พี่ลุคคนนี้เท่านั้นที่เธอมีโอกาสได้คุยบ้างเพราะบุคลิคที่เข้าถึงง่ายของเขาแตกต่างจากเพื่อนของเขาที่แค่มองหน้าก็เหมือนจะฆ่าคนให้ตายคนนั้นพอได้ยินเขาพูดประโยคนั้นออกมาเลยทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัว
“พี่ลุคคะ” หลังจากปล่อยให้บรรยากาศในรถเงียบอยู่พักหนึ่งไม้หวายก็ตัดสินใจเรียกคนข้าง ๆ
“ครับ”
“เหมือนจะมีธุระสำคัญ ให้หวายไปด้วยจะไม่เป็นไรเหรอคะ”
“ก็...ไม่เป็นไรหรอก พี่รีบของเราก็เยอะจะให้กลับเองได้ไง ไม่เป็นไรหรอกอย่าคิดมากเลยใกล้ถึงแล้ว เคลียร์ธุระเสร็จเดี๋ยวพี่ไปส่งนะ”
“ค่ะ” เพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อไม่กล้าพูดมากเพราะเกรงใจเขาด้วยทำให้เธอเลือกที่จะเงียบจนกระทั่งเวลาผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีลุคก็พาไม้หวายเลี้ยวรถเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง
“ไปครับ”
“คะ?”
“ลงรถไงถึงแล้ว”
“ค่ะ ๆ” เธอรีบลงรถตามที่เขาบอกเพราะดูเขาเองก็รีบพอตัวจากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในบ้านหลังนั้นส่วนเธอก็ยืนรออยู่ข้างนอกไม่ได้เดินตามเข้าไป
“พี่ลุคมาทำไม!” เสียงที่ดังออกมาจากข้างในบ้านทำให้เธอที่ยืนอยู่ข้างนอกตกใจนิดหน่อย ดูเหมือนข้างในจะมีปัญหาใหญ่ที่เธอก็ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรเพราะเป็นคนนอก และด้วยความที่เป็นคนนอกก็ยิ่งทำให้เธอลำบากใจที่จะยืนอยู่แถวนี้เช่นกัน
“เฮ้อ! มาทำอะไรที่นี่นะหวายเอ้ย” ไม้หวายพึมพำกับตัวเองแล้วพยายามมองหาที่นั่งแต่มันดันไม่มีนี่สิ
“กลับได้แล้วพิม”
“ไม่! พิมยังคุยกับพี่ชาร์ลไม่รู้เรื่องเลย!”
“คุยห่าอะไรอีกวะ”
“คุยเรื่องเด็กในท้องพิมนี่ไงยังจะถามอีกเหรอว่าคุยเรื่องอะไร!” ไม้หวายตกใจมากกว่าเดิมกับสิ่งที่ได้ยิน เธอไม่ได้ตั้งใจฟังแต่เพราะคนในบ้านคุยกันเสียงดังออกมาข้างนอกให้เธอได้ยินเอง
“ฉันไม่ได้ทำเธอท้อง”
“ไม่ได้ทำพิมท้องแล้วหมาที่ไหนมันทำในเมื่อพิมนอนกับพี่ชาร์ลคนเดียว!”
“จะไปรู้เหรอวะ!”
“เฮ้ยไอ้ชาร์ลมึงใจเย็น”
“เย็นเหี้ยไรยัยนี่นอนกับกูสามครั้งกูใส่ถุงทุกครั้งจะมาท้องกับกูได้ยังไง!”
“มันก็แตกได้ไหมพี่ชาร์ล! ปัดความรับผิดชอบเอาแต่ได้ ตกลงจะไม่รับผิดชอบพิมกับลูกใช่ไหม!”
“เออ!”
“ได้! ถ้าพี่ชาร์ลไม่รับผิดชอบพิมจะฆ่าตัวตาย!”
“เออ! ตาย ๆ ไปเลยเรื่องของเธอ!”
“เฮ้ย ๆ พอ ๆ กูว่าไปกันใหญ่แล้ว เอางี้พิมพี่ว่าคุยตอนนี้ก็มีแต่แรงใส่กันให้ไอ้ชาร์ลมันไปสงบสติอารมณ์ก่อนดีกว่านะ”
“แล้วพิมล่ะ! พิมจะอยู่ยังไงระหว่างที่พี่ชาร์ลไปสงบสติอารมณ์! คนทำแค่อารมณ์เสียแต่คนท้องมันจะตายอยู่แล้วนะพี่ลุค ฮื่อ ๆๆ”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวคุยกับพี่ก่อน มีอะไรระบายกับพี่ ยิ่งดันทุรังคุยกับมันตอนนี้ยิ่งพังกว่าเดิมนะพิม”
“แต่พิม... / เชื่อพี่ คุยตอนนี้ยิ่งพังก็เห็นอยู่ว่าไอ้ชาร์ลไม่ได้แคร์อะไร”
“ฮึก! ก็ได้ค่ะ”
“โอเค ถ้างันพิ้มรออยู่ตรงนี้ก่อน อย่าเพิ่งทำอะไรนั่งอยู่เฉย ๆ เดี๋ยวพี่มา ถ้าอยากให้เรื่องมันดีขึ้นอย่าวู่วามเด็ดขาดนะพิม”
“ค่ะ ฮื่อ ๆๆ”
“มึงมานี่ไอ้ชาร์ล” ลุคดึงเพื่อนสนิทของตัวเองออกมานอกบ้าน ทันทีที่เดินออกมาข้างนอกก็ทำให้ไม้หวายสะดุ้งด้วยความตกใจแล้วก็รู้สึกหวาดกลัวทันทีที่เห็นสายตาเกรี้ยวกราดที่มองมาที่เธอ
“...มึงพาเด็กในคณะมาทำไม?”
“เอ่อ...” ไม้หวายรู้สึกเสียวสันหลังกับน้ำเสียงและสายตาที่ดูไม่พอใจกับการมีเธออยู่ที่นี่ของเขาทำให้เธออึกอักออกมาในทันที
“ก็มึงเร่งกูจะให้ทำยังไงวะกูกำลังจะไปส่งน้องที่หอพอดีจะไปส่งก่อนก็กลัวไม่ทัน ช่างเถอะน่ากูว่าตอนนี้มึงกลับก่อนดีกว่าเดี๋ยวกูเคลียร์ทางนี้เอง”
“อืม เคลียร์ไปเลยกูรำคาญ แต่ถ้าเคลียร์ไม่ได้ก็ปล่อยให้ตายอย่างที่อยากตายไปเลย” ชาร์ลเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาไร้เยื่อใยก่อนจะหันหลังเดินไปทันที
“เดี๋ยวก่อนไอ้ชาร์ล”
“อะไร”
“กูคงต้องเคลียร์อีกนานฝากไม้หวายกลับกับมึงก่อน”
“เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะพี่ลุคเดี๋ยวหวายกลับแท็กซี่ก็ได้ค่ะ”
“ไม่ได้ พี่บังคับเรามาจะให้เรากลับเองได้ยังไงของเราก็เยอะ กูเคลียร์ธุระให้มึงมึงก็เคลียร์ธุระให้กูบ้าง พาไม้หวายไปส่งที่หอเอารถกูไปเพราะของน้องอยู่หลังรถกูเยอะ” ลุคพูดจบก็ยื่นกุญแจรถไปข้างหน้าเพื่อให้ชาร์ลมาหยิบมัน
“...ยุ่งยากว่ะ” เขาพึมพำออกมาด้วยความหงุดหงิดก่อนจะเดินมาแลกกุญแจรถกับเพื่อนสนิทด้วยท่าทางที่ดูไม่น่าเข้าใกล้ที่สุดในความรู้สึกของไม้หวาย
“กลับกับมันนะไม้หวาย พี่ขอโทษจริง ๆ ที่ไปส่งด้วยตัวเองไม่ได้”
“...ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะพี่ลุค” ไม้หวายรับคำด้วยความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ความจริงเธอยากกลับเองมากกว่าแต่ด้วยอารมณ์ของชาร์ลในตอนนี้ทำให้เธอไม่กล้าพูดอะไร
“มาสักที” เสียงดุดันเอ่ยขึ้นทำให้สองขาเรียวต้องรีบเดินไปที่รถของลุคก่อนจะรีบขึ้นรถด้วยความลนลานแต่ยังไม่ทนที่เธอจะได้คาดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อยรถหรูคันนี้ก็ถูกคนขับเหยียบคันเร่งเต็มแรงจนรถกระชากและมันก็ทำให้ไม้หวายอกสั่นขวัญหาย จากที่กลัวอยู่แล้วก็ยิ่งกลัวมากขึ้นหลายเท่าตัว
บรรยายกาศในรถมีแต่ความเงียบไม่มีสักวินาทีที่ไม้หวายจะไม่เกร็ง แม้แต่การหายใจเข้าออกของตัวเองเธอก็ยังรู้สึกเกร็งต้องค่อย ๆ หายใจเข้าออกช้า ๆ เพื่อไม่ให้เกิดเสียงรบกวนเขาที่เธอไม่ได้สนิทด้วยแม้แต่นิดเดียวต่อให้เขาจะเป็นพี่รหัสของเพื่อนสนิทเธอก็ตาม
“ชื่ออะไรนะ” เสียงเย็นชาที่เอ่ยขึ้นมาทำลายความเงียบอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียงทำไม้หวายสติแทบหลุด
“คะ”
“เธอชื่ออะไร” เขาถามอีกครั้งโดยที่ไม่ได้หันมามองหน้าเธอแม้แต่นิดเดียวเอาแต่จ้องมองไปที่ถนนด้วยใบหน้าถมึงทึง
“หวะ...หวายค่ะ”
“อืม” เขาตอบรับแค่นั้นบรรยากาศโดยรอบก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้งและมันยิ่งทำให้ไม้หวายทำตัวไม่ถูก แม้แต่มือไม้ก็ไม่รู้ว่าจะเอาไปวางไว้ตรงไหนดี
“อย่าไปพูดเรื่องนั้นให้ใครฟัง”
“...ค่ะ” เธอเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะตอบไม่ใช่เพราะจะไม่รับปากแต่เป็นเพราะเธอรู้สึกหวาดกลัวน้ำเสียงเย็นยะเยือกของเขาต่างหากเลยทำให้เธอขยับปากได้ช้า
“รับปากแล้วก็ทำให้ได้ ถ้าเรื่องนี้เล็ดลอดออกไป...เธอตาย”