“จะออกได้ยังไงในเมื่อหนูชอบพี่นทีขนาดนี้” นะโมพูดขึ้นพร้อมกับโอบล้อมรอบลำคอของเหนือนทีให้แน่นขึ้น มีหวังหากเขาจับเธอโยนออกจากตัวเธอคงหลุดแน่ๆเพราะขนาดร่างกายที่ต่างกัน
“ชอบฉันแต่วันก่อนยืนด่าฉันน่ะหรอยัยปากปลาร้า” เหนือนทีพูดขึ้นทันทีเพราะหากไม่พูดแบบนี้เธอคนนี้คงไม่ยอมปล่อยเขาให้เป็นอิสระ
นะโมที่ได้ยินก็ได้แต่นั่งนิ่งบนตักแกร่งของเหนือนที คำพูดนี้มันคุ้นๆเหมือนอีตาบ้าไร้มารยาทที่ไม่ยอมขอโทษเธอ
“ดะ…เดี๋ยวนะ” ตอนนี้นะโมกำลังใช้ความคิด
คงไม่ใช่หรอก ช่างสักนทีคงไม่ใช่คนไร้มารยาทแบบนั้น เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะเป็นคนเดียวกัน
“ลงไปจากตัวฉันยัยปากปลาร้า” เหนือนทีพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับใช้มือหนาแกะมือเล็กของนะโมให้ออกจากลำคอ
“อ๊ะ…โอ๊ย เจ็บนะ”
“เจ็บก็ปล่อยสิ จะกอดให้แน่นกว่าเดิมทำไม” เหนือนทีพูดขึ้นก่อนจะแกะมือของนะโมออกโดยไม่สนว่าอีกคนจะเจ็บหรือรู้สึกยังไง
“พี่นทีคืออีตาบ้าคนนั้นจริงๆหรอ” แน่นอนว่าต่อให้ตอนนี้เหนือนทีจะหลุดจากการพันธนาการของนะโมแล้วแต่นะโมเองก็ยังไม่คลายความสงสัยในใจ
“คิดว่ายังไงล่ะ”
“ไม่จริงน่า ไม่ใช่หรอก” เพราะมันเป็นไปไม่ได้ ยังไงก็เป็นไปไม่ได้
“แล้วใครกันที่มันด่าฉันว่าไร้มารยาท”
“บ้าจริง ! ใครกันนะ” นะโมได้แต่เฉไฉทำเป็นไม่รู้เรื่อง ถ้าเธอรู้ว่าผู้ชายคนนั้นคือช่างสักนที เธอไม่ด่ากราดและโวยวายใส่หรอก
“เสร็จแล้วก็ออกไป ฉันมีลูกค้าต่อ” เหนือนทีเอ่ยปากไล่เพราะตอนนี้ไม่มีอะไรจะคุยอีกแล้ว
ที่พูดเรื่องนี้เพราะต้องการให้อีกคนปล่อยตัวเองเฉยๆ ไม่มีอะไรแอบแฝงและตอนนี้เธอคนนี้ก็ควรออกไปจากห้องสักของเขาได้แล้ว
“พี่นทีขา” แน่นอนว่านะโมไม่ทำตาม เธอเดินตรงเข้ามาหาเหนือนทีที่นั่งอยู่ เหนือนทีที่เห็นก็ถอยเก้าอี้หนีอย่างไวเพราะกว่าจะเอาตังเมติดหนึบอย่างนะโมออกจากตัวได้แทบแย่
“ออกไป !” เสียงตวาดทำเอานะโมสะดุ้งแต่ก็ต้องทำใจดีสู้เสือเอาไว้ จะแสดงออกให้อีกคนเห็นว่าเธอกลัวก็ไม่ได้
“ตอนนั้นหนูไม่ได้ตั้งใจ พี่นทีอย่าเก็บมาคิดเลยนะ” นะโมพูดขึ้นเพราะเธออยากได้ช่างสักนทีจริงๆ การที่มีภาพจำแย่ๆต่อกันมันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย
“ฉันไม่เอาเรื่องไร้สาระมาคิดหรอก” เรื่องพวกนี้เหนือนทีไม่ใส่ใจอยู่แล้ว ไม่ได้เก็บมาคิดหรืออะไรเลย ตอนแรกก็ลืมไปแล้วแต่เมื่อเห็นหน้าก็ดันคิดขึ้นมาได้ ใครจะไม่คิดล่ะ ผู้หญิงคนนี้ปากยิ่งกว่าอะไร
“ตอนนั้นหนูน่าจะผีเข้า หลงผิดเป็นถูก พี่นทีอย่าใส่ใจนะคะสุดหล่อ” นะโมพูดขึ้นอีกครั้ง
“ไม่ได้ใส่ใจ” เหนือนทีพูดจบก็ลุกจากเก้าอี้เดินตรงมาเปิดประตูห้องสักของตัวเองเพราะหากไม่ลุกมาเปิดเอง ผู้หญิงคนนี้ก็คงไม่ยอมออกมาสักที
“เชิญครับ”
“เฮ้อ…ไปก็ได้ค่ะ แล้วจะมาจีบใหม่วันหลังนะคะ”
“ก่อนจะไปขอหอมหน่อยนะคะพี่นทีขา”
ฟอด !
นะโมพูดจบก็หอมแก้มเหนือนทีก่อนจะรีบเดินออกจากห้องสักของเหนือนทีตรงมาที่เคาน์เตอร์คิดเงินที่ตอนนี้รับหน้าที่โดยวินเช่นเคย
“คิดเงินทางนี้ครับ”
“ดูแลรักษายังไงบ้างคะ พอดีว่าเป็นรอยสักแรกเลยไม่รู้เรื่องเท่าไหร่” นะโมถามขึ้นเพราะช่างสักนทีไม่บอกอะไรเธอเลย
“งดแอลกอฮอล์ ของหมักดองนะครับ ส่วนบริเวรที่สักไม่ต้องไปทำอะไรกับมันนะครับ ครบหนึ่งอาทิตย์แกะสติกเกอร์ออกได้เลย ที่แปะไว้เป็นสติกเกอร์กันน้ำ”
แน่นอนว่าวินค่อนข้างงุนงงเพราะเรื่องพวกนี้เหนือนทีที่เป็นคนสักควรแจ้งกับลูกค้า
“ขอบคุณมากๆค่ะ หนูสแกนจ่ายนะคะ”
“ครับ ว่าแต่ไอ้นทีไม่ได้บอกหรอครับ” สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นเพราะปกติแล้วต่อให้ลูกค้าคนไหนจะอ่อยมากน้อยแค่ไหน เหนือนทีที่เป็นช่างก็จะบอกเสมอ
“ไม่ได้บอกค่ะ เขาไล่หนูออกมา” นะโมตอบกลับไปตามตรงแต่ถ้าหากถามว่าไล่เพราะอะไร เธอไม่บอกหรอกนะเพราะคนคนนี้ก็หล่อเหลาเอาการเพียงแค่คนละสไลต์กับช่างสักนทีเท่านั้น
“เราไปทำอะไรหรือเปล่า ปกติมันไม่ไล่ลูกค้านะ” วินถามขึ้นเพราะเหนือนทีแทบจะไม่ปริปากพูดอะไรกับลูกค้าคนไหนนอกจากเรื่องที่เกี่ยวกับการสัก
“นิดหน่อยค่ะ ถ้าอย่างงั้นหนูขอตัวก่อนนะคะ ไว้อยากมีลายเพิ่มจะเข้ามานะคะสุดหล่อ” พูดจบนะโมก็ขยิบตาให้วินไปหนึ่งทีทำเอาคนเจ้าชู้อย่างวินได้แต่ยิ้มร่าและรีบเดินตรงมาหาเหนือนทีที่อยู่ในห้องสัก
“ดาวมหาวิทยาลัยอ่อยมึงหรอไอ้นที” วินถามขึ้นด้วยความอยากรู้
“แม่ง ! เกินกว่าทุกคนที่กูเคยเจอ” เหนือนทีตอบกลับไปตามตรงเพราะยัยเด็กนี้มันเกินกว่าทุกคนจริงๆ
“โห่ ! กูอยากโดนน้องนะโมอ่อยบ้าง เมื่อกี้ยิ้มให้กู ทำเอาหัวใจกูเต้นแทบไม่เป็นจังหวะ” ดาวมหาวิทยาลัยคนนี้สวยแซ่บและน่ารักมาก ใครๆก็ย่อมอยากโดนอ่อยเป็นธรรมดา
“เพ้อเจ้อ ยัยนั่นก็เหมือนผู้หญิงทุกคนที่มา” เพราะมันน้อยมากๆที่จะมาสักโดยไม่อ่อยหรือทำอะไร
“ทำไมมึงดูไม่ชอบ” แน่นอนว่าวินดูออกเพราะเหนือนทีหน้าบอกบุญไม่รับเลย
“ก็ยัยนั่นมันคือคนที่ด่ากูที่ลานจอดรถ”
“ยัยปากปลาร้าที่มึงพูดถึงน่ะหรอ” วินถามขึ้นเพราะวินรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นดี
เหนือนทีที่กลับถึงร้านสักเมื่อวันนั้นก็มีแต่ความหงุดหงิดเพราะไม่เคยมีใครมาชี้หน้าด่าตัวเองเท่ายัยบ้าประสาทปากปลาร้า
“เออ”
“ฮ่าๆ เหมือนมึงจะเจอคู่ปรับ ถ้าจากที่มึงเล่าให้ฟังคือแสบไม่น้อยแต่ทำไมตอนนี้ถึงแซ่บจังว่ะ” เพราะวินมองเห็นแต่ความแซ่บ ดาวมหาวิทยาลัยคนนี้แซ่บมากจนวินเองก็อยากจะลองสักครั้งแต่ก็ได้แค่ในความคิดเท่านั้น
“แซ่บตรงไหน มึงตาถั่วหรอไอ้วิน” ผู้หญิงอย่างนะโมไม่มีตรงไหนเข้าตาเหนือนทีเลย
ที่บอกว่าแซ่บ ใช้ตรงไหนดูกัน ถึงได้กล้าพูดแบบนั้นออกมา ยัยบ้าประสาทปากร้านั่นก็แค่เด็กผู้หญิงขี้อ่อยขี้โวยวายคนหนึ่งเท่านั้น
“มึงนั่นแหละตาถั่ว” วินสวนกลับทันควันเพราะเหนือนทีนั่นแหละคือคนที่ตาถั่ว
“ใครตาถั่ววะ” เติร์ดที่ออกมาจากห้องสักของตัวเองพร้อมกับลูกค้าถามขึ้นทันที
สายตาของเพื่อนสนิททั้งสองคนมองไปก็รับรู้ดีว่าเติร์ดพึ่งจะเสร็จกิจกรรมอย่างว่ากับลูกค้ามาแน่ๆ
“ไอ้เติร์ด” เหนือนทีเอ่ยเสียงแข็งเพราะตอนนี้กลางวันแสกๆ กล้าทำไม่อายฟ้าอายดิน
“อย่าว่ากู” เติร์ดพูดขึ้นพร้อมกับพาลูกค้าของตัวเองมายังเคาน์เตอร์คิดเงิน หลังจากจัดการกับลูกค้าเสร็จแล้วก็ตรงมาหาเพื่อนของตัวเองอีกครั้ง
“กลางวันแสกๆก็เอาอะนะ” เหนือนทีถามขึ้นเพราะเพื่อนของเขามันไม่เลือกเวลาเลย
“ลูกกูมันไม่เลือกอยู่แล้วครับ ว่าแต่น้องดาวมหาวิทยาลัยแซ่บไหมไอ้นที” เติร์ดถามขึ้นเพราะเขาเองก็อยากรู้เหมือนกัน ดาวมหาวิทยาลัยแต่ละปีงานดีไม่มีหยอก เขาก็อยากรู้ว่าปีนี้มันจะเหมือนปีที่ผ่านมาหรือเปล่า
“แซ่บ” วินพูดขึ้นทันทีเพราะจากเท่าที่ใช้สายตาดูมันก็บอกได้คำเดียวว่าคนนี้โคตรจะแซ่บ
“แต่ไอ้นทีบอกเฉยๆ” วินพูดขึ้นอีกครั้ง
“มึงจะเอาอะไรกับมันวะไอ้วิน นทีแล้วน้องเขาอ่อยมึงไหม” เติร์ดถามขึ้นด้วยความอยากรู้เพราะอะไรที่เป็นเรื่องของคนอื่น พวกเขาก็อยากรู้เป็นธรรมดา
“อ่อยแต่กูไม่สนใจ” เหนือนทีตอบกลับไปตามตรงเพราะเขาไม่สนใจจริงๆก่อนที่มือหนาจะหยิบแบบรอยสักข้อความเดียวกับที่สักให้นะโมขึ้นมาทาบลงที่แขนด้านในของตัวเอง
“จะสักหรอ ข้อความเดียวกันด้วย” วินเอ่ยแซวขึ้น
“ความหมายมันดี ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับยัยนั่น” เหนือนทีสวนกลับทันควัน
“อย่าพึ่งสักดิ กูว่าจะชวนไปคลับพ่อมึงอะไอ้นที” เติร์ดพูดขึ้นเพราะตอนนี้มันก็หลายวันแล้วที่พวกเขาขาดแอลกอฮอล์
“ซื้อมาแดกที่นี่ไม่ดีกว่าหรอ” แน่นอนว่าคนอย่างเหนือนทีไม่ชอบที่แบบนั้น คนมันเยอะวุ่นวาย
“ไม่อยากเสพบรรยากาศบ้างหรือไง คลับพ่อมึงติดอันดับในกรุงเทพเลยนะ” เพราะหากไม่มีอะไรสำคัญหรือบังคับจริงๆเหนือนทีก็ไม่ค่อยจะไปหรอกกับสถานที่แบบนั้น
“ไม่”
“ตามใจมึงแล้วกันแต่กูไปกับไอ้เติร์ดนะ” วินพูดขึ้นทันทีส่วนเหนือนทีก็ไม่ได้สนใจอะไร
เขากลับมาสนใจแขนตัวเอง ถึงจะชอบข้อความนี้มากแต่หากจะสักลงที่แขนก็ไม่รู้จะเอาวางไว้ตรงไหน หากเป็นตามลำตัวก็อาจจะได้อยู่แต่คงต้องพึ่งไอ้พวกเพื่อนว่าใครจะเป็นคนสักให้
แน่นอนว่าจนค่ำเหนือนทีก็ใช้เวลาอยู่ในห้องสักของตัวเอง ออกแบบรอยสักให้กับลูกค้าก่อนจะเดินตรงออกมานอกร้านเพื่อหวังจะกลับคอนโด
หากถามว่าร้านสัก NNT tattoo มีห้องนอนหรือเปล่าก็ต้องบอกว่ามีแต่ทั้งสามคนไม่นิยมค้างที่นี่ มีแค่บางครั้งเท่านั้น
เหนือนทีกำลังจะเดินออกจากร้าน ขายาวก็ต้องหยุดชะงักเมื่อคนที่เดินเข้ามาคือยัยบ้าประสาทปากปลาร้า
“มาทำไม” เหนือนทีถามขึ้นเพราะตอนนี้มันไม่ใช่เวลาเลย ร้านกำลังจะปิดแล้วแต่ทำไมเธอคนนี้ถึงมา
“หนูก็มาหาพี่นทีนั่นแหละ สักยังไงทำไมหนูเจ็บแขนขนาดนี้” นะโมพูดขึ้นพร้อมเดินตรงเข้ามาออเซาะเหนือนที
“อย่าสำออย ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้เจ็บ”
“แย่จัง ! พี่นทีรู้ทันแบบนี้แล้วหนูจะอ่อยต่อยังไงล่ะคะ”
❤️
ยังไงดี ฮ่าๆ