8.45 นาฬิกา รถจอดเข้าที่ สายตากลมโตที่กวาดตามองมาตลอดเส้นทางตั้งแต่ตื่นนอนครั้งสุดท้ายในเวลาใกล้รุ่ง ยังคงมีแววหวั่นใจตลอดเวลา ก่อนจะยืดตัวพร้อมถอนหายใจออกมาเบาๆ อย่างกับต้องการระบายความหนักอกหนักใจที่พกพามาตลอดการเดินทาง ก่อนจะยื่นมือไปสะกิดเภาที่นอนหลับเกือบตลอดการเดินทาง
“ถะ ถึงแล้วหรือคะ คุณสร” เสียงที่ยังไม่คงที่พยายามปรือตาขึ้น แล้วถาม ใบหน้าหวานพยักหน้าตอบรับ เภาจึงยืดตัวเพื่อคลายความปวดเมื่อยขบ ก่อนจะพากันลงจากรถเมื่อคนขับรถเลื่อนประตูอ่าออก
“เป็นไงจ๊ะ สาวๆ เดินทางมาเหนื่อยๆ ไปๆ เข้าด้านในก่อนเถอะ” ทันทีที่ก้าวลงมาจากรถ เสียงหวานนุ่ม ร้องถามมาแต่ไกล สร้างความอบอุ่นใจให้ภัศสรอย่างน่าแปลก ทั้งที่เธอไม่ทันเห็นหน้าเจ้าของเสียงนั้นเลยด้วยซ้ำ
“สวัสดีค่ะ คุณ...” เมื่อเห็นว่าเสียงนั้นดังมาจากทิศทางใด ภัศสรจึงกล่าวทักทายกลับไปทันที หากแต่กลับถูกขัดไว้ เมื่อเธอกล่าวไม่ทันจบประโยค
“คุณแม่จ๊ะ เรียกฉันว่าคุณแม่นะ” ปานวาดรีบเอ่ยแทรกสีหน้ายิ้มแย้ม ทั้งที่อีกฝ่ายยังเอ่ยไม่จบ เพราะคิดว่าความไม่คุ้นชินของทั้งสองฝ่าย อาจทำให้หญิงสาวไม่กล้าเอ่ยเรียกตนว่า ‘แม่’
ภัศสรยิ้มเจื่อนๆ “ค่ะ สวัสดีคุณแม่” ประโยคที่เปล่งออกมาใหม่ ทำให้นางชื่นใจไม่น้อย ก่อนจะเดินเข้ามาโอบไหล่ว่าที่ลูกสะใภ้อย่างไม่ถือเนื้อถือตัว โดยที่นางรู้ดีว่าเป็นสาวคนไหนคือว่าที่เจ้าสาว เพราะรูปถ่ายที่ถูกยื่นมาให้ตามคำขอ นางเก็บไว้อย่างดี
“นี่เภาค่ะ เธอจะมาอยู่เป็นเพื่อนหนูค่ะ” ภัศสรเอ่ยบอก ก่อนจะเดินตามแรงโอบของอีกฝ่ายไป
หญิงสูงวัยยิ้มรับ ไม่คิดขัด โดยเภาก็ยกมือไหว้อย่างมีมารยาทกับเจ้าของคฤหาสน์หลังงาม
“แม่ให้เด็กจัดห้องไว้เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวแม่พาขึ้นไป” นางเอ่ยบอกสีหน้าแช่มชื่น สร้างความปราบปลื้มให้ผู้มาใหม่เป็นอย่างมาก หากแต่ดูจะไม่เหมาะ ภัศสรจึงกล่าวขึ้นด้วยความเกรงใจว่าที่แม่ยาย
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ให้เด็กพาสรขึ้นไปก็ได้” เธอกล่าวพร้อมมองเด็กที่ว่า ยืนรออยู่สีหน้ายิ้มแย้มกันทุกคน
คนถูกขัด ค้อนให้ และเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเงางอด ให้คนแรกเจอได้เห็น “ไม่เป็นไร แม่เต็มใจและแม่ก็อยากขึ้นไปส่ง” อาการนั้นทำให้คนที่อยู่ด้วยกันมานานอมยิ้ม เห่อลูกสะใภ้!
“ยิ้มอะไรแม่สำเนียง?” คนถูกเอ่ยชื่อ ซ่อนยิ้มพร้อมกับลูกคู่ที่ยืนอยู่ด้านหลัง แล้วรีบหลบฉาก กลัวลูกหลง
“ปะ เปล่าค่ะคุณปานวาด” ป้าสำเนียงแม่บ้านเก่าแก่ เอ่ยปัดหลบสายตา คนเห่อลูกสะใภ้ค้อนมา
“ป่าวอะไรก็ฉันเห็น เดี๋ยวเถอะ จะใช้ให้จัดห้องอีกรอบหรอก”
คนถูกยกงานให้กลั้นยิ้ม เพราะห้องที่เตรียมไว้นางไม่ได้แตะต้องแม้แต่น้อย นอกจากยืนคุมงานให้เด็กๆจัดทำกันเอง เพราะคุณหญิงเจ้าของบ้านเป็นฝ่ายกำชับไว้ว่า... “ ป้าสำเนียงแก่แล้ว ไม่ต้องไปออกแรงให้เสียเหงื่อเป็นลม ให้ยุ่งเด็กๆ ปล่อยให้เด็กจัดการไปก็พอ” คำสั่งนั้นเฉียบขาดจนคนถูกห้ามต้องถอดถอนหายใจ เพราะนางรู้ตัว ว่ายังไม่แก่ขนาดยกของนิดย้ายนี้หน่อย ไม่ถึงกับเป็นลมล้มพับหรอก!
ป้าสำเนียงยิ้มกริ่ม มองแผ่นหลังนายสาวที่แสดงอาการเห่อว่าที่ลูกสะใภ้จนออกนอกหน้า
“เอ้า พวกหล่อนจะมัวหลบมุมอยู่ทำไม เอากระเป๋าคุณสรตามไปสิ”
ช่วงจังหวะที่คนขับรถลากกระเป๋าเข้ามา สำเนียงจึงออกปากสั่งเด็กๆที่หลบอยู่ไม่ไกล แล้วเดินตามนายสาวไปอีกคน
จากอาการเกร็งที่อยู่ต่อหน้าผู้คนไม่คุ้นชิน หากแต่ตอนนี้ ทั้งเกร็งและเกรงใจ จนเกือบวางตัวไม่ถูก เมื่องานทุกอย่างถูกแย่งทำไปจนหมดแม้แต่เภา พอจับนู้นนี่ ก็ถูกแย่งไปจากมือ จนเธอเองต้องหลบไปยืนอยู่อีกมุมห้อง ปล่อยให้เจ้าของสถานที่จัดการไป
“ว่าไงจ๊ะ ชอบมั้ย” เมื่อคนของตนเองจัดของทุกอย่างเข้าที่ ปานวาดก็หันมาเอ่ยถามว่าที่ลูกสะใภ้ที่ยืนท่าสำรวมพอๆ กับเภา
ใบหน้าหวาน ที่ปิดกั้นความกระดากอายไม่มิด พยักหน้าตอบรับ กับความตื่นตัวของว่าที่แม่สามี ที่ยังไม่ได้แนะนำตัวกันอย่างเป็นทางการเลยตั้งแต่เข้ามาในคฤหาสน์หลังนี้ แต่ดูผู้สูงวัยใสใจความรู้สึกของเธอ เหมือนรู้จักมักคุ้นกันมานาน
...อย่างน้อยๆ การต้อนรับอย่างดีจากหญิงสูงวัย ที่ดูสวยสง่าซึ่งเป็นเจ้าของคฤหาสน์หลังโต จนเธอรู้สึกว่า การเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ใน ‘มณีพรรณ’ เธอไม่ได้ไร้ค่าในสายตาของใครที่นี้ไปเสียทั้งหมด
“ว่าไงละ ชอบไหม… นี้เป็นแค่ห้องพักชั่วคราว เดี๋ยวห้องหอจะจัดที่ห้อง ตากร”
คนพูดน้ำเสียงรื่นรมย์ถามซ้ำ หากแต่คนฟัง เสียวสันหลังวาบ ก่อนจะพยักหน้ารับน้อยๆให้อีกฝ่ายได้เห็น พร้อมกับกลืนน้ำลายเหนี่ยวๆ ลงคออย่างยากเย็น
...แค่ได้ยินชื่อ หัวใจของเธอเหมือนจะหยุดเต้น แล้วหากเจอหน้า เธอไม่ละลายไปต่อหน้าเขาหรือ?
เจ้าของบ้านยิ้มชอบใจ เมื่อสิ่งที่นางจัดให้เป็นที่ถูกใจของสาวสวยตรงหน้า “อืม... งั้นปล่อยให้หนูสรได้พักผ่อนก่อน อีกสักพักจะให้เด็กขึ้นมาเรียก เมื่อได้เวลาอาหารนะจ๊ะ...”
นางเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม ที่เรียกว่าความประหม่าที่มีในตัวภัศสรคลายไปได้เกือบหมด
“ส่วนยายนก พาเภาไปห้องพักข้างล่าง ที่เตรียมไว้เลยนะจ๊ะ”
ประโยคหลังนางหันไปสั่งเด็กของตัวเอง ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง โดยทิ้งรอยยิ้มอบอุ่นให้ภัศศรจนเธอรู้สึกตื่นตันใจยิ่งหนัก