"นี่คุณ...หลอกฉันให้มาเป็นเมียน้อยคุณนี่"
"ฟังให้จบก่อนสิ"
แดเนียลว่าเสียงเข้ม
"ที่บอกว่าแต่งงานแล้ว แค่แต่งงานเฉยๆ ไม่ได้เป็นอะไรกัน"
ยิ่งพูดก็ยิ่งงงๆ ความสับสน ข้องใจ แสดงให้เห็นบนใบหน้า ของทานตะวันอย่างชัดเจน
"คือผู้หญิงที่ฉันแต่งงานด้วยชื่อจูเลีย เราแต่งงานกันเพราะที่บ้านจับคู่ให้"
ใครจะไปเชื่อว่าเสืออย่างเขาจะยอมถูกคลุมถุงชน
"ไม่ต้องมองแบบนั้นเลย ที่ฉันยอมแต่งเพราะมันมีอะไรมากกว่านั้น"
แดเนียลหยุดเล่าแล้วหันมาจ้องหน้าคนที่กำลังนั่งงงเป็นไก่ตาแตก
"ข้อแรก ผลประโยชน์ทางธุรกิจซึ่งถ้าอธิบายไปเธอก็คงไม่เข้าใจ สอง เราทั้งคู่ถูกพ่อแม่พยายามจับคู่ให้จนเบื่อ เลยตกลงกันว่าแต่งก็แต่งแต่เราไม่ได้จดทะเบียนกัน และทำสัญญาระหว่างกันไว้ว่าจะแค่แต่งงานไม่มีอะไรนอกเหนือจากนั้นใครอยากจะใช้ชีวิตยังไงอีกตนไม่มีสิทธิ์ก้าวก่าย"
พูดจบเขาก็ถอนหายใจ แต่ดูว่าตอนนี้จูเลียจะละเมิดกฎเสียจนหมด เขาไม่ทันได้คิดว่าการที่ไปแกล้งจีบจูเลียเล่นๆ จะทำให้เลสเบียนเปลี่ยนมามีใจให้ผู้ชายได้ ใช่แล้วล่ะหนึ่งในเหตุผลที่จูเลียยอมแต่งงานกับแดเนียลก็คือ ต้องการปิดบังพ่อแม่เรื่องที่หล่อนเป็นเลสเบียนนี่เอง
"มีอะไรหรือเปล่า"
เขาดูไม่ค่อยโอเคเลย ทานตะวันจึงถามขึ้น
"ฉันไม่ชอบเวลาที่ทำข้อตกลงกับใครแล้วอีกฝ่ายทำไม่ได้ มันเหมือนกับการที่เราสัญญาอะไรกับใครสักคนไว้ แต่คนคนนั้นผิดคําสัญญา"
"คุณหมายถึง..."
"จูเลีย"
หลังๆ มานี้ จูเลียพยายาม ติดตามเขาไปทุกที่ ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ทั้งที่ตกลงกันแล้ว ว่าเรื่องของเราจะไม่มีอะไรนอกจากการแต่งงาน ที่สิ่งที่จูเลียขอ คือ ห้ามถูกเนื้อต้องตัว หรือคิดอะไรในเชิงชู้สาว ซึ่งเขาก็ทำให้เธอได้มาโดยตลอด ทั้งคู่ไม่เคยหลับนอนด้วยกัน ไม่เคยมีอะไรกัน แต่ก็มีแค่ ก่อนหน้านี้สักประมาณ 6 เดือนแดเนียล นึกสนุก อยากแกล้งจูเลียก็เลย หยอดเช้าหยอดเย็นอยู่พักหนึ่ง ใครจะไปคิดว่าจูเลียจะคิดจริง ก็หล่อนบอกว่าเป็นเลสเบียน จะไปรู้เหรอว่าจะหวั่นไหวกับผู้ชายด้วย
"กลับกันเถอะนี่ก็ค่ำแล้ว"
แดเนียลลุกจากม้านั่งแล้วเดินนำทานตะวันกลับบ้าน
"ของที่สั่งเรียบร้อยแล้วครับ"
มาถึงก็เจอโจเซฟยืนรอพร้อมกับอะไรก็ไม่รู้วางเต็มโต๊ะไปหมด แดเนียลนั่งลงที่โซฟาแล้วเอามือเคาะบนที่ว่างข้างๆ เป็นคำสั่งให้ทานตะวันนั่งลง
"อันนี้เป็นโทรศัพท์ของเธอ ใช้ไปก่อนถ้าไปที่บ้านฉันแล้วจะจัดการอีกที"
โทรศัพท์แบรนด์ดังกับอุปกรณ์เสริมครบเซท ทานตะวันตะลึงกับของมากมายนี้ใครจะไปคิดว่าเกิดมาชาตินี้จะมีปัญญาใช้ของแบบนี้กับเขาด้วย
"ชอบรึเปล่า"
ท่าทางของตะวันมันนิ่งจนคนเจ้าเล่ห์อย่างเขาอ่านทางไม่ออก ถ้าเป็นคนอื่นคงวี้ดว้ายดึงของไปกอดแล้วกระโดดหอมแก้มเขาไปแล้ว แต่ทานตะวันแค่มองๆ แล้วยิ้มๆ
"ชอบค่ะ"
"แค่ชอบเองเหรอ"
"ต้องอะไรด้วยอะคะ"
แดเนียลถอนหายใจเฮือกใหญ่ บางครั้งเด็กนี่ก็ดูฉลาด บางทีก็ดูซื่อบื้อ ตกลงเขาตัดสินใจถูกรึเปล่าที่เอาเด็กกะโปโลแบบนี้มาเลี้ยง จะได้เรื่องมั้ยเนี่ย
"แล้วนี่พูดภาษาอังกฤษได้มั้ย"
เขาลืมถามเรื่องนี้ไปเลย
"พอได้ค่ะ"
"อืม ถ้ายังไงเดี๋ยวฉันจัดการเรื่องเรียนให้ ตอนนี้ก็พักผ่อนไปก่อนแล้วกัน"
พูดจบแดเนียลก็ลุกขึ้นเตรียมเคลียร์งานต่อ
"แล้วคืนนี้..."
บ้าจริงคิดอะไรวะเนี่ย อยู่ๆ ปากมันก็โผล่งออกไป เค้าไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้นสักหน่อย ทำไมอยู่ๆ ถึงคิดขึ้นมาเองล่ะตะวัน แดเนียลหันกลับมายิ้มเล็กๆ
"ถ้าเธออยาก เดี๋ยวจะแวะไป"
พูดจบเขาก็หันกลับแล้วเดินออกไปเลย ไม่สิไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ทานตะวันหน้าแดงก่ำเพราะอาย ไปพูดแบบนั้นเดี๋ยวเค้าก็หาว่าอยากหรอก ไม่สิเค้าคิดไปแล้วต่างหากว่าเราอยาก ทานตะวันบ่นกับตัวเองในใจ
ในที่สุดก็ถึงวันที่เอกสารทุกอย่างเรียบร้อยพร้อมเดินทางแล้ว ทานตะวันเองตื่นเต้นนิดๆ แต่อีกด้านก็รู้สึกใจหาย เกิดแล้วก็โตที่นี่ จู่ๆ ต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น จะได้กลับมาหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย การเดินทางเป็นไปได้ด้วยดี แต่ทานตะวันก็แย่หน่อย เพราะไม่เคยเดินทางไกลขนาดนี้ กว่าจะถึงบ้านของแดเนียลที่อิตาลีได้ ก็เล่นซะแย่เลย
"กลับบ้านถูกเหมือนกันเหรอ"
แต่ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าบ้าน เสียงแหลม ทำลายโสตประสาทหู ก็ดังขึ้นต้อนรับทันที หญิงสาวรูปร่างอวบผิวขาวเผือก ผมบลอนทองธรรมชาติ ตาสีฟ้าเข้มดุดันด้วยอารมณ์โกรธ หล่อนยืนเท้าเอวจ้องมองแดเนียลกับทานตะวันด้วยสายตา ที่ไม่เป็นมิตรเลย
"มันเรื่องของใคร"
พูดจบแดเนียลก็เดินจูงมือทานตะวันเข้าบ้าน ไปอย่างไม่สนใจไยดี ปล่อยจูเลียมองค้อนขวับ กำมือแน่น แต่คนโกรธก็คือคนโกรธ จะให้คุมอารมณ์ตัวเอง มันก็ยาก ยิ่งเห็น คนที่เป็นสามี ไม่รู้สิจะเรียกสามีได้หรือเปล่า แต่ก็แต่งงานกันแล้วนี่ เห็นเจ้าบ่าว พาผู้หญิงเข้าบ้านแบบนี้ มันก็ไม่โอเคหรือเปล่าล่ะ
"นี่หรือคะคุณจูเลีย"
ทานตะวันถามเสียงสั่นฟังดูก็รู้ว่าเธอกำลังกลัว
" ไม่ต้องกลัวหรอก ฉันอยู่นี่ใครก็ทำอะไรเธอไม่ได้"
แดเนียลกระชับมือหนา ที่จับอยู่กับมือของทานตะวันให้แน่นขึ้น
"โอ๊ย!! "
แต่จูเลียก็คือจูเลีย เคยกลัวใครกับเขาที่ไหน จูเลียเดินตามมากระชากผมทานตะวันเต็มแรง
"ปล่อย!! "
แดเนียลดุเสียงแข็ง แต่จูเลียยังคงออกแรงดึงผมอย่างไม่สนใจ
"อย่าให้ผมต้องใช้กำลังกับคุณ"
"คุณจะให้ฉันทนดูคุณพาผู้หญิงมาอยู่ในบ้านแบบนี้เหรอ คนอื่นเขาจะพูดถึงฉันยังไง"
ข้ออ้างที่แสนจะฟังไม่ขึ้น แดเนียลรู้ดีว่าคนแบบจูเลียไม่ใช่สาวหน้าบาง เรื่องโดนนินทาก็โนสนโนแคร์อยู่แล้ว
"ผมจะพูดครั้งสุดท้ายจูเลีย ปล่อย!!! "
คราวนี้แดเนียลตะคอกใส่จูเลียเต็มเสียง จนทานตะวันเองก็กลัวไปด้วย แดเนียลดึงตัวทานตะวันมากอดไว้ กันไม่ให้จูเลียทำร้ายอีก
"คุณนี่มันทุเรสจริงๆ เลยนะ"
"เป็นบ้าอะไร เราตกลงกันแล้วไม่ใช่รึไงว่าแต่งงานเฉยๆ "
"ก็คุณแต่งงานกับฉัน แล้วไปนอนกับผู้หญิงไม่เลือกหน้าแบบนี้ ฉันควรรู้สึกยังไงเหรอ"
"โจเซฟพาทานตะวันไปที่ห้องฉัน"
แดเนียลหันไปสั่งลูกน้องคนสนิท
"หยุด"
พอตามองเห็นว่าจูเลียทำท่าจะตามไปเลยรีบหันมาคว้าไว้ได้ทัน
"มานี่"
แดเนียลลากจูเลียมาคุยที่ริมสระว่ายน้ำ
"มีอะไร"
จูเลียกอดอก ทำหน้าไม่พอใจนัก
" ลืมข้อตกลงของเราไปแล้วหรือไง" แดเนียลถาม
" ข้อตกลงอะไร"
จูเลียหันหน้าหนีทำเป็นจำไม่ได้ ฝั่งแดเนียลทั้งเดือดทั้งปะทุ เขาล่ะเกลียดผู้หญิงแบบนี้ที่สุด
"ก่อนที่เราจะแต่งงานกันเราตกลงอะไรกันไว้ล่ะ"
"ฉันลืมไปหมดแล้ว"
"อย่ามาทำแบบนี้ผมไม่ชอบ คำพูดต้องเป็นคำพูดสิ"
แดเนียลกระชากไหล่บางจนหน้าหันมาหาเขา
"ปล่อยนะแดเนียล ฉันเจ็บ"
จูเลียพยายามสะบัดตัวเองออกจากมือหนาของแดเนียล
"ผมไม่ชอบทำร้ายผู้หญิงอยู่แล้ว ถ้าผู้หญิงไม่มายั่วให้ผมต้องทำ"
แดเนียลกัดฟันแน่นแล้วเปล่งเสียงลอดผ่านฟังออกมา เขาชักจะทนไม่ไหวกับจูเลียแล้ว ถ้าไม่ติดที่ผลประโยชน์ทางธุรกิจคงโยนออกไปจากชีวิตแล้ว แปลกเหมือนกันที่จูเลียจัดว่าอยู่นอกสเปคนอกสายตาเขาไกลจนมองไม่เห็น ทั้งที่หน้าตาจูเลียก็จัดอยู่ในเกณฑ์สวย แดเนียลปล่อยมือจากจูเลียผิวขาวเนียนแดงเป็นรอบนิ้วมือจนดูรู้เลยว่าแดเนียลออกแรงไปแค่ไหน
"ถ้าจำไม่ได้ก็จำไว้เลยว่าที่ผมแต่งงานกับคุณเพราะธุรกิจของพ่อเรา เพราะผมเบื่อที่พ่อพยายามหาคู่ให้ผม ส่วนคุณ เคยบอกผมว่าแต่งเพราะไม่อยากให้ที่บ้านรู้ว่าคุณเบียน (เป็นเลสเบียน) "
ที่แดเนียลพูดมาทั้งหมดคือเรื่องจริงที่ทั้งคู่เคยคุยกันก่อนแต่งงานแล้ว
"แล้วคุณมาทำให้ฉันคิดทำไม!!! "
จูเลียตะโกนใส่หน้าคนใจร้ายด้วยความโมโห แต่งงานกันมาอยู่ด้วยกันเฉยๆ มานานเป็นปีอยู่ดีดีก็มาหยอดมาพูดให้คิดมาทำดีด้วย พอเรารู้สึกดีด้วยก็มาบอกว่าไม่คิดอะไร
"ก็ไหนว่าชอบผู้หญิงไง หวั่นไหวกับผู้ชายด้วยเหรอ"
"ก็..."
ก็ไม่รู้จะเถียงยังไง
ทานตะวันปิดม่านมองผ่านหน้าต่างลงไปที่ริมสระว่ายน้ำ 2 คนดูทะเลาะกันหนักเอาเรื่อง นี่เรามาเป็นตัวทำลายความรักของเขารึเปล่านะ ทั้งคู่เคลียร์กันอยู่นานกว่าจะจบ
"จำไว้นะจูเลียผมไม่เคยรักใคร ถ้าคุณไม่อยากเสียใจ อย่ามารู้สึกแบบนั้นกับผม"
พูดจบแดเนียลก็เดินออกมา
"คุณจะหลอกตัวเองไปอีกนานแค่ไหนแดเนียล"
เขาหยุดฟังเสียงของจูเลียแปบหนึ่งก่อนจะเดินต่อไป
จูเลียหลังจากเกิดเรื่องก็เลยต้องยอมออกมานอนที่อื่นเพราะแม้จะแค่แต่งงานกันเฉยๆ แต่ก็รู้นิสัยแดเนียลดีว่าเป็นยังไง
ก๊อกๆ ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้เจ้าของห้องเดินมาส่องดูว่าใครมา พอเห็นเป็นจูเลียก็รีบเปิดทันที
"ทำไมถึงมาที่นี่ล่ะ"
วีรญาถามอย่างสงสัยปกติจะมุตารางเวลาที่นัดกันไว้แล้วซึ่งวันนี้ไม่ใช่วันที่ตกลงกันไว้
"ทำไมฉันจะคิดถึงเธอบ้างมันไม่ได้รึไง"
จูเลียเหวี่ยงแขนขึ้นพาดที่คอขอวีรญาแล้วดึงหน้าแม่เลขาเข้ามาจูบ
"แดเนียลอาละวาดเรื่องยัยผู้หญิงไทยหน้าหวานๆ นั่นแหละ"
จูเลียพูดขึ้นหลังจากทิ้งตัวลงบนโซฟา
"คุณแดเนียลเค้า ไม่ใช่คนที่จะหาเรื่องใครก่อน โดยเฉพาะกับผู้หญิง คุณไปทำอะไรให้เค้าล่ะ"
วีรญายื่นแก้วน้ำให้จูเลีย คนรับแก้วเงยหน้าขึ้นค้อนเล็กน้อย
"ใช่สิ เค้าไม่ได้รักเรานี่เค้าก็ต้องเข้าข้างคนที่เค้ารักอยู่แล้ว"
วีรญามองคนที่กำลังทำหน้ามุ่ยเป็นเด็กแล้วก็นึกขำ ทั้งคู่แอบมีความสัมพันกันมานานพอสมควร เรื่องมันเริ่มจากที่จูเลียตามตัวแดเนียลผ่านวีรญาบ่อยๆ จนทำให้สนิทกัน ครั้งหนึ่งวีรญาเมาจนเผลอเล่าทุกอย่างให้จูเลียฟังเลยทำให้ถอนตัวจากความสัมพันนี้ไม่ได้ จูเลียเองก็รับได้กับการที่จะคบกันแค่ทางกายเท่านั้น และที่ไปอาละวาดใส่ทานตะวันในวันนี้ก็เพราะวีรญาขอให้ทำให้ ก่อนหน้านี้ช่วงที่แดเนียลมาแกล้งหยอดก็ยอมรับว่าเขวๆ ไปเหมือนกันแต่พอมาเจอวีรญาทุกอย่างมันก็กลับมาเป็นจูเลีย แต่ที่ยังตามตัวแดเนียลอยู่แบบนี้ก็เพราะวีรญาขอให้ทำ
"ฉันเบื่อที่จะต้องวิ่งตามแดเนียลแล้วนะวี"
พอวีรญานั่งลงข้างๆ จูเลียก็หันมาโวยทันที
"ฉันทำแบบนั้นไม่ได้คุณก็รู้ ถ้าฉันมีสิทธิในตัวเค้าแบบคุณฉันจะไม่รบกวนคุณให้คุณลำบากเลยจูเลีย"
วีรญาทำหน้าเศร้า จนจูเลียต้องใจอ่อนทุกครั้ง
"ฉันจะทำเพื่อคุณนะ แต่เรื่องส่งเด็กทานตะวันกลับไทยคงต้องปล่อยไปก่อน แดเนียลเพิ่งได้มันมาคงไปพรากไม่ได้ง่ายๆ "
"ฉันรู้ค่ะ คนอย่างแดเนียลเดี๋ยวก็เบื่อ"
"แต่ฉันไม่เคยเห็นเค้าเอาคนไหนมาอยู่ที่บ้านเลยนะ"
จูเลียแสดงความคิดเห็นปกติแค่เอามานอนเล่น 2-3 คืนเค้าก็ไล่ให้กลับแล้ว
"คุณไม่รู้อะไรจูเลีย คนนี้แดเนียลลงทุนจ้างคนไปเผาบ้านมันเพื่อให้มันไม่มีที่อยู่แล้วก็แกล้งไปให้ความช่วยเหลือมันจนมันตายใจแล้วก็ตามเค้ามานี่"
"โอ้พระเจ้า"
จูเลียไม่รู้จะพูดอะไร เท่าที่รู้จักกันมาก็ไม่เคยเห็นจะชอบผู้หญิงคนไหนจนต้องลงทุนทำเรื่องบ้าบอแบบนี้ แต่ก็เคยได้ยินพ่อของแดเนียลเล่าให้ฟังว่าตอนวัยรุ่นเคยหลงรักผู้หญิงถึงขนาดหนีออกจากบ้านไปอยู่ด้วยกันมาเลยเหมือนกัน
"บ้าใช่มั้ยล่ะ แค่ผู้หญิงขายตัวคนเดียว หน้าตาแบบนี้ที่เอเชียเกลื่อนกลาดไปหมด เกาหลี ญี่ปุ่น หรือที่ไทย"
พูดถึงแล้ววีรญาก็ยิ่งขึ้น ทำไมล่ะฉันที่จงรักภักดีกับคุณ คุณไม่เคยคิดจะเอาเข้าไปอยู่ที่บ้านบ้าง เรียกใช้แต่งานแค่ชั่วคราวตอนไม่มีใคร หรือไม่ก็งานทั่วไป ทำตัวเหมือนนายจ้างกับลูกจ้างมันเจ็บยิ่งกว่าเป็นผู้หญิงขายบริการซะอีก
"ใจเย็นน่าวีคืนนี้ฉันขอแหกกฎนะ"
มือขาวๆ ลูบไล้ที่ขาอ่อนของวีรญา สายตาหวานเยิ้มจ้องมองที่ใบหน้าสวย
"ถ้างั้นก็ไปหักวันต่อไปออกถือว่าคุณใช้โควตาไปแล้ว"
"ใจร้าย"
"คุณมันจอมแหกกฎ ก็ต้องโดนแบบนี้แหละ"
วีรญายกมือขึ้นจับที่แก้มทั้งสองข้างของจูเลียแล้วประคองหน้าของเธอให้ใกล้เข้ามาประชิดกันจนจมูกแตะถึงกัน ปากเรียวทั้งสองไล้เลียกันอย่างคุ้นเคย ถึงจะไม่ได้รักจูเลียแต่ทุกครั้งที่เจอกันมันก็รู้สึกพอแทนกันได้...
ฝั่งแดเนียลคืนนี้เห็นว่าเดินทางมาเหนื่อยเลยไม่ได้กวนปล่อยให้ทานตะวันนอนหลับพักผ่อน ส่วนตัวเขาก็ยังนั่งเหม่ออยู่ริมระเบียงจิบไวน์เครื่องดื่มประจำกายรับสายลมอ่อนๆ
"คุณยังไม่นอนอีกเหรอคะ"
แดเนียลหันไปมองเสียงใสๆ ที่ดังมาจากข้างหลัง
"ฉันไม่ง่วง เธอพักผ่อนไปเถอะเดินทางมาเหนื่อยๆ พรุ่งนี้จะให้โจเซฟพาเธอไปทำธุระด้วย"
"คุณก็มาพร้อมกันไม่เหนื่อยรึไง"
"ฉันชินแล้ว ไปนอนซะตะวัน ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจไม่ให้เธอนอน"
จบเสียงคำสั่งทานตะวันก็ถอยหลังเข้าห้องปิดประตูไปนอนตามที่เขาสั่งทันที ปล่อยให้ร่างกำลังนั่งเปลือยท่อนบนมองฟ้า มองพระจันทร์ทำตัวเป็นหนุ่มอินดี้ตามสบาย คำพูดของจูเลียมันตามกวนใจเขาอย่างน่ารำคาญ หลอกตัวเองเหรอ หึ ฉันไม่รักใครทั้งนั้นแหละผู้หญิงมีไว้แค่นอนด้วยเท่านั้นล่ะ