8

1112 คำ
ชุดสวยของลู่ซินเหว่ยขับให้ผิวขาวอมชมพูนางโดนเด่น เพราะเป็นสีแดงเลือดนก อันที่จริงเสิ่นฉุนอยากท้วง ขอให้เปลี่ยนใหม่ แต่พอเห็นว่าอีกฝ่ายชอบใจ พร้อมร้องขอดอกไม้สดมาทำเป็นมงกุฎประดับศีรษะนางก็เลยปล่อยเลยตามเลย “ถิงถิงสวย จะไปรอ พี่ซาน!” นางว่าแล้วจึงวิ่งออกไปนอกเรือน พลอยให้เสิ่นฉุนสนุกไปด้วย ระหว่างทางไปจนถึงท่าเทียบเรือ ผู้คนที่เห็นหญิงสาว ต่างยิ้มและโบกมือให้ ด้วยท่าทางลู่ซินเหว่ยซุกซน ทั้งนางยังสร้างเสียงหัวเราะให้พวกเขามีความสุขด้วยการท่องกลอนแปลกๆ แต่เหนืออื่นใด หลายเสียงเห็นพ้องต้องกันว่า แม่นางน้อยผู้นี้ งดงามราวกับนางฟ้าจากสวรรค์ ยามเย็นวันนี้อากาศอบอ้าวสักหน่อย และฟ้ามืดเร็ว และเรือของซานเกอเหมือนจะมาผิดเวลาจากที่คาดการณ์ไว้ เมื่อเริ่มเบื่อการรอคอย ลู่ซินเหว่ยจึงวิ่งไปยังกลุ่มนักแสดงปาหี่ ที่มีเครื่องดนตรี กำลังเล่นอย่างสนุกสนาน นางยิ้มให้พวกเขา ทำท่าทางว่าอยากร้องเพลง ซึ่งคนตีกลองหน้าวัว และผู้ที่ดีดพิณก็พร้อมเป็นฝ่ายสนับสนุน อึดใจต่อมา ลู่ซินเหว่ยได้ส่งเสียง เป็นทำนองสนุกสนาน ก่อนเอ่ยคำร้องที่ทำให้ สาวๆ หนุ่มๆ ตบมือ เป่าปากเสียงดัง สามีออกเรือหาปลา ล่าน้ำตานางเงือก หาเงินซื้อข้าวเปลือก เลี้ยงลูกและภรรยา เมื่ออยู่บ้าน สามีหมั่นเพียรศึกษา ตกดึกก็ชอบสะกิดข้า แล้วสอนวิธีต่อแขน เติมขา เรียกบุตรจากเทวา ให้มาเกิดไวๆ ทว่าเสียงของนางและท่าทางร่าเริงสุดขีด กลับชวนให้สตรีผู้หนึ่งหมั่นไส้อย่างนัก รั่วเฟิงกระทืบเท้า และพุ่งเข้ามากระชากคอเสื้อของลู่ซินเหว่ย “เสื้อผ้าชุดนี้... ใครใช้ให้เจ้าสวมใส่” ที่รั่วเฟิงถามเช่นนั้น เพราะมันคือชุดเจ้าสาว ที่ซานเกอสั่งตัดขึ้นหลายปีแล้ว ซึ่งแม้แต่เซียวฮูหยินก็ไม่ได้สวมใส่ แล้วจู่ๆ หญิงสติไม่เต็มกลับนำมาสวมเล่น พร้อมแหกปากร้องเพลงสัปดนให้ชวนขายหน้า นางผู้นี้สมควร อยู่ในเรือนหอของซานเกอเช่นนั้นหรือ “ถิงถิง เป็นเมีย เมียพี่ซานต้องสวย เช่นนี้นับว่าถูกต้อง” รั่วเฟิงถลึงตาใส่คนหน้าไม่อายที่กล้าพูดเรื่องเช่นนี้ต่อคนนับร้อย ซึ่งต่างชะเง้อคอมามอง “ถอดมันออก โสเภณีบ้าอย่างเจ้าไม่มีสิทธิ์สวมใส่” นางว่าแล้วก็พยายยามกระชากเสื้อคลุมตัวนอกของลู่ซินเหว่ย แต่อีกฝ่ายแม้จะแกล้งมีสมองเท่าเด็กสามขวบ แต่นางไม่ใช่คนอ่อนแอ จึงทั้งผลัก และถีบรั่วเฟิง จนอีกฝ่ายล้มบั้นท้ายกระแทกพื้นท่าเรือ ขณะเดียวกัน ขันทีหน้าสวยเฮาตั๋วคันไม้ คันมืออยากเข้าไปช่วย แต่จนแล้วจนรอดกลับไม่ยอมก้าวขา เขาได้แต่พ่นลมหายใจร้อนๆ ออกมา “ระวังจะอกแตกตาย” คนที่เอ่ยขึ้นคือโฮ่วหรงเข่อ “แม่ทัพโฮ่ว ใจข้าอยากพุ่งเข้าไปเดี๋ยวนี้ แต่เป็นเมื่อครู่ที่องค์หญิงเก้า ส่งสัญญาณให้ข้าเพียงแค่จับตาดูห่างๆ เท่านั้น” “สตรีผู้นั้น นิยมการแสดงนัก” โฮ่วหรงเข่อไม่ได้กล่าวประชดประชัน เพียงแต่เห็นเช่นไรก็กล่าวออกไป “ท่านก็คิดเอาเถิด องค์หญิงเก้าเสี่ยงภัยมาถึงเกาะเผิงหนาน อยากให้ท่านรวบกองทัพออกไปช่วยอี้อ๋องให้พ้นภัย แต่หลายวันที่ผ่านมา กลับตกอยู่ในมือและอำนาจของซานเกอ และเขายังมือไว้ ฉวยจวีหรูฝั่งซ้ายไปเก็บไว้” “อาตั๋ว...” น้ำเสียงของแม่ทัพหนุ่มฟังแล้วชวนให้ประหลาดใจ ทั้งทุ้ม และเจือความอ่อนโยนต่อเฮาตั๋ว “ท่านจะชี้แนะสิ่งใดข้าหรือ” “หากเจ้าเกาะนำจวีหรูไป เขาย่อมมีเหตุผล อีกฝ่ายเป็นโจรก็จริง แต่ข้ารู้จักเขามาหลายปี โจรผู้นี้ ไม่ใช่คนถ่อย อาจแข็งกระด้าง และหยาบคาย หากเขากลับช่วยหลายชีวิตให้มีลมหายใจ บนเกาะเผิงหนาน” คิ้วเรียวที่ตบแต่งอย่างสวยงามของเฮาตั๋วเลิกขึ้นสูง มองโฮ่วหรงเข่ออย่างประหลาดใจ “เขาเป็นคนทำผิดกฎหมาย ส่วนท่านคือแม่ทัพของแผ่นดิน ไฉนถึงได้ชื่นชมผู้อื่นราวกับเป็นขุนนางที่ทำประโยชน์ต่อแผ่นดิน” โฮ่วหรงเข่อไม่อยากต่อว่าเฮาตั๋ว คนผู้นี้เป็นขันที และอยู่ในรั้วในวัง โลกคงแคบสักหน่อย จึงมองโจรสลัด เป็นดั่งผู้ร้าย หากอันที่จริง เหล่าขุนนางที่บอกว่าตนเป็นคนดี กลับน่าชิงชัง ทั้งยังสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นเสมอ โดยเฉพาะราษฎรตาดำๆ “สิ่งที่เจ้าควรรู้ หากการเกิดสงคราม ย่อมไม่ใช่สิ่งดี และที่ข้าวางมือจากราชสำนักชั่วคราว ออกมาพักผ่อนที่นี่ก็เพราะ อยากช่วยเหลือบ้านเมืองด้านอื่น คิดดู หากเราไม่แก่งแย่งกัน หรือจ้องแต่จับดาบฆ่าศัตรู ชีวิตนี้จะมีความสุขเช่นไร” “เอ ที่ท่านต่อเรือนับร้อยลำนี้ อย่าบอกนะว่า จะไปเป็นโจรสลัดอีกคนเช่นซานเกอ ผู้นั้น” “ฮ่าๆ ๆ ข้าคือนักรบ สกุลโฮ่วรับราชการทหารมาหลายชั่วอายุคน ไฉนข้าถึงจะทำเรื่องที่ขัดต่อคุณธรรมได้เล่า” “เฮ้อ โล่งใจไปที อย่างน้อย ข้ายังพอพึงพาท่านได้” เฮาตั๋วว่า และมองไปยังการต่อล้อต่อเถียงของลู่ซินเหว่ยและรั่วเฟิง ซึ่งยามนี้มันรุนแรงเกินไปแล้ว “นั่นคือองค์หญิงที่เจ้าควรอารักขานาง” โฮ่วหรงเข่อเอ่ย “แม่ทัพโฮ่วกล่าวถูกต้อง แต่...องค์หญิงบอกข้าเอาไว้ หากนางส่งสัญญาให้ข้านิ่งเฉย หมายความว่า นางกำลังใช้สุดยอดท่าไม้ตาย เพื่อเอาชนะผู้อื่น” “ข้าคิดว่าฝ่าบาทคงไว้ใจผิดคน ปล่อยให้นางออกจากวังด้วยทางหมารอดก็อัปมงคลพอแล้ว ยังให้เจ้าเป็นผู้คุ้มครองมาอีก และแทนที่จะห้ามปราม หรือทำในสิ่งที่จะเกิดผลดี กลับไปวิวาทกับสตรีชาวบ้าน” เมื่อโฮ่วหรงเข่อเอ่ยจบ เขาจึงส่ายหน้าไม่เห็นด้วย และเป็นตอนนั้นที่เฮาตั๋วตอบเขา “ความหึงหวงของสตรีน่ากลัวมาก ท่านรู้หรือไม่ อีกอย่างเพื่อเอาชนะใจบุรุษ ทำให้ปีศาจร้ายสยบอยู่แทบปลายเท้า บางทีมารยาหญิงก็ต้องงัดออกมาหลายร้อยหลายพันเล่มเกวียน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม