“เอ อย่าบอกนะว่า องค์หญิงเก้าทำเช่นนี้เพื่อควบคุมเจ้าเกาะ โถ นางทำสิ่งตื้นเขินเกินไป และอาจเจ็บตัวโดยเปล่าประโยชน์”
ยามนั้น เฮาตั๋วมองคนตัวสูง และอมยิ้มในสีหน้า ก่อนทำเสียงขันในลำคอ
“เจ้า... ขบขำในสิ่งใด”
“ข้าคิดว่า แม่ทัพโฮ่วคงโสดมาพักใหญ่ ท่านสมควร มีสตรีล้อมหน้าล้อมหลังบ้าง จะได้รู้ว่า บางทีสตรีก็ใช้ความนุ่มนิ่ม อ่อนแอ พร้อมความใสซื่อบริสุทธิ์มัดใจผู้ชายตัวโตๆ ได้ดีกว่าความเก่งกล้า และมากด้วยจริตยวนยั่ว”
ฝ่ายรั่วเฟิงยังพยายามเข้าไปปล้ำเพื่อถอดเสื้อคลุมตัวนอกจากลู่ซินเหว่ย และเสิ่นฉุนก็เข้ามาห้าม แต่นางถูกคนของรั่วเฟิงกันเอาไว้ พร้อมขู่ไม่ให้ยุ่งเรื่องนี้
“นังปัญญาอ่อน ข้าจะจับเจ้าแก้ผ้า และประจานความร่านให้คนทั้งเกาะได้รู้ และนั่นไม่ถอดออกใช่ไหม ดี... เยี่ยงนั้น ข้าจะเผาให้มันไหม้ติดเนื้อตัวเจ้าไปเลย!”
จากนั้นอีกฝ่ายก็ราดน้ำมันชนิดพิเศษที่เตรียมไว้ ใส่เสื้อผ้าของลู่ซินเหว่ย
กลิ่นเหม็นฉุนเข้าจมูก ซึ่งลู่ซินเหว่ยไม่อาจถอยหลบไปไหน ด้วยสองแขนถูกคนหมู่มากจับตรึงไว้ ส่วนชุดตัวนอกก็ชุ่มด้วยน้ำมันจากฝีมือของรั่วเฟิง!
“จะ เจ้าทำอันใด” จู่ๆ น้ำเสียงลู่ซินเหว่ยก็เปลี่ยนไป เป็นเพราะนางไม่ทันตั้งตัวว่า รั่วเฟิงจะทำเรื่องร้ายแรงเพียงนี้ ขณะเดียวกันสายตาเหลือบไปเห็น คบเพลิงที่ไฟลุกโชนในมือลูกสมุนของอีกฝ่ายหลายคน
รั่วเฟิงยิ้มเยาะ และนางหันไปทางแม่หมอ ที่พาตัวมาด้วย อีกฝ่ายเป็นที่นับหน้าถือตาของชาวเกาะ
“วิญญาณร้ายสิงร่างเจ้าอยู่ และข้าจะเป็นผู้ขับไล่ออกไป”
แม่หมอเอ่ยเสียงขึงขัง พลอยให้คนที่อยากเข้ามาช่วยลู่ซินเหว่ยช่างใจ คอยดูท่าที สิ่งนี้ส่งผลให้รั่วเฟิง ได้แต้มเหนือนาง
ส่วนลู่ซินเหว่ยกวาดตามองรอบตัว ยามนี้นางยืนอยู่บนสะพานไม้ท่าเทียบเรือ เบื้องล่างคือผืนน้ำทะเล การว่ายหน้านางมิกลัว แต่ไฟที่จะเผาเสื้อผ้า อาจทำให้เสียโฉม หรือเป็นอันตรายร้ายแรง หญิงสาวประเมินสถานการณ์กับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น และมั่นใจว่าตนเอาตัวรอดได้ ซึ่งนางต้องเสี่ยงสักหน่อย ถึงอย่างนั้นหัวใจยามนี้เคลื่อนไหวรุนแรง ด้วยตื่นเต้น ทั้งครั่นคร้ามใจเหลือเกิน
“กลัว... ถิงถิง กลัวไฟ เอามันไปให้ไกลๆ”
“กลัวรึ เยี่ยงนั้น จงถอดชุดคลุมเจ้าสาวออก และข้าจะไม่ให้ผู้ใด ทำร้ายเจ้า” รั่วเฟิงเอ่ย และก้าวมายืนหน้าแม่หมอ ซึ่งฝ่ายนั้นเหมือนรู้หน้าที่รีบถอยหลบไป
“ไม่... ถิงถิงเป็นคนสวย เป็นเมียพี่ซาน!”
รู้ทั้งรู้ว่าตนกำลังยั่วโมโหอีกฝ่าย แต่ลู่ซินเหว่ยอยากให้ทุกคนเห็นเหตุการณ์ในยามนี้ว่านางถูกรั่วเฟิงกับลูกสมุนรังแก ซึ่งยิ่งเล่นได้สมจริง และน่าสงสารเพียงใด หลังจากนั้นนางย่อมเป็นผู้กุมชัยชนะอย่างแท้จริง!
“ถิงถิง ถอดเสื้อคลุมนั่นออก แล้วเรากลับเรือนกันเถิด ข้าจะเปลี่ยนชุดอื่นให้เจ้า”
ฝ่ายเสิ่นฉุนห่วงลู่ซินเหว่ย กลัวได้รับอันตราย จึงร้องบอก พร้อมใช้สายตาอ้อนวอนรั่วเฟิงอย่าคิดทำร้ายสตรีที่ความคิดความอ่านด้อยกว่าผู้อื่น
แต่ลู่ซินเหว่ยกลับส่ายหน้า และยืนยันว่า
“ไม่ ถิงถิง ใส่ชุดนี้รอพี่ซานกลับเรือน”
“ไร้ยางอาย เจ้าเป็นได้แค่นางบำเรอ คิดหรือว่า เมื่อเจ้าเกาะกลับมา เขาจะไปค้างคืนด้วย เป็นข้าต่างหากที่เขาจะเรียกขึ้นเตียง ที่เรือนหลักหลังใหญ่”
ได้ฟังถึงตรงนี้ ลู่ซินเหว่ยแอบน้อยใจ เนื่องจากบนเกาะนี้ ซานเกอมีเรือนหลักใหญ่โตโอ่อา เป็นเขตหวงห้ามมิให้คนนอกเข้าไปยุ่มย่าม ซึ่งนับแต่เหยียบที่นี่ เขาไม่เคยออกปากชวนลู่ซินเหว่ยไปเรือนดังกล่าว
“โกหก ถิงถิง เป็นคนของพี่ซาน และพี่ซาน ชอบอาบน้ำด้วยกัน”
เมื่อลู่ซินเหว่ยกล่าวจบ แรงริษยา และความเกลียดชังทวีขึ้นท่วมใจรั่วเฟิง ฝ่ายนั้นจึงพุ่งเข้ามาหาหญิงสาว หมายตบหน้าสักฉาดสองฉาด แม้ลู่ซินเหว่ยถูกจับสองแขนตรึงไว้ ทว่าเท้าของนางยังว่าง ดังนั้นฝ่าเท้าข้างหนึ่งจึงยกสูง แล้วออกแรงรีบเข้าหน้าท้องรั่วเฟิงสุดแรง
“ทำร้ายข้าอีกแล้ว หญิงปัญญาอ่อน”
รั่วเฟิงล้มไปกองบนพื้น นางขยับตัวยังไม่ได้ เจ็บจุก ทั้งยังรู้สึกปวดหนึบที่ท้อง
“ชักช้าอยู่ทำไม เผานังบ้านั่นซะ!”
สินคำพูด คนของรั่วเฟิง ก็โยนคบไฟในมือใส่ร่างลู่ซินเหว่ยที่เสื้อผ้าชุ่มด้วยน้ำมัน
คบเพลิงแรกตกลงพื้น เพราะลู่ซินเหว่ยดิ้นสะบัดตัวและเท้านางเตะปัดป้องตัวเอง ไฟบางส่วนกระเด็นไปติดเสื้อผ้าของสมุนรั่วเฟิง กับแม่หมอ
ส่วนคบเพลิงอีกอัน เป็นรั่วเฟิงรับมา และใช้มันไล่ต้อนลู่ซินเหว่ย พอเห็นนางยืนนิ่ง แสดงท่าทางหวาดกลัวก็โยนใส่ร่างบอบบางทันที แม้ไม่ถูกตัวนาง แต่ชายผ้าชุดเจ้าสาวที่ยาวกรุยกราย ก็ติดไฟพรึ่บ!
ยามนั้นเสียงลู่ซินเหว่ยหวีดลั่น ผสมกับเสียงของสมุนรั่วเฟิง ด้วยพวกนางก็ได้แผลผุผองจากสะเก็ดของคบเพลิง
ฝ่ายเฮาตั๋วและโฮ่วหรงเข่อ โผนทะยานเข้ามาหวังช่วยลู่ซินเหว่ย
ทว่าไฟที่ติดเสื้อผ้าลู่ซินเหว่ยลุกไหม้รวดเร็ว อีกทั้งนางยังวิ่งไปมา พร้อมกรีดร้องไม่หยุด ความชุลมุนนั้น ยิ่งทำให้เข้าถึงตัวนางยาก
“ถิงถิง!...”
สิ้นเสียงเรียกเสิ่นฉุน ร่างบอบบางก็พุ่งลงไปในทะเล เหลือเพียงกองเสื้อคลุมเจ้าสาวที่ติดไฟ