"อามีนารบกวนช่วยหยิบหวีมาให้ฉันหน่อย เมื่อครู่ฉันยังไม่ได้หวีผมเลย"
ลัลนาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเตรียมเข้านอน รู้สึกสดชื่นขึ้นมาหน่อย แต่ก่อนนั้นคิดว่ามีแต่เมืองไทยเสียอีกที่ผูกมิตรกับดวงอาทิตย์ แต่ที่นี่ยิ่งกว่า กลางวันอากาศร้อนแรงส่วนกลางคืนดีขึ้นมาหน่อย
โชคดีว่าฮาเร็มแห่งนี้ทุกอย่างครบครันทันสมัย มีเครื่องปรับอากาศเครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่างนับว่าต่างจากที่คิดเอาไว้มาก เสียงย่ำเท้าเดินเข้ามาข้างหลังพร้อมยื่นมือมาช่วยหวีผมให้เธออย่างเบาแผ่ว
ลัลนารู้สึกเคลิบเคลิ้มเพราะคิดว่าอามีนากำลังช่วยสางผมให้เธออยู่
"ขอบใจนะอามีนา ว่าแต่ว่านายท่านของอามีนาเรียงลำดับในการไปพบเมียแต่ละคนอย่างไรเหรอ เอิ่ม ตามลำดับหมายเลขป่ะ แล้วมีการหึงหวงตบตีแย่งชิงกันบ้างมั้ย?"
"เธอกำลังเอ่ยถึงฉันอย่างนั้นหรือ?"
ภาษาไทยชัดแจ๋วทำให้ลัลนารีบหันควับมาหา ดวงตาเบิกโพลงเมื่อเห็นว่าเป็นใครมาเยือน
"คุณเข้ามาได้ยังไง ไม่มีมารยาท"
ต่อว่าเขาเสร็จก็เชิ่ดหน้าขึ้นทันทีพยายามไม่มองเขาตรงๆ หุ่นล่ำกำยำในชุดคลุมตัวยาวบางเบา ใส่มาอย่างกะเตรียมพร้อมทำอย่างว่า ลัลนาไม่มีวันยอมหรอก เธอไม่ต้องการเป็นเมียของคนแปลกหน้า
"ฉันไม่จำเป็นต้องมีมารยาทกับนางบำเรอของฉัน เสร็จแล้วก็ลุกมาบีบนวดให้ฉันเสียตั้งแต่ตอนนี้เลย"
เขานอนแผ่ลงไปบนเตียงนอนของลัลนา ลัลนานึกฉุนเพราะเธอไม่อนุญาตและไม่คุ้นสักนิดที่เขากำลังรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวของเธอ
"ไม่! เมื่อยก็ไปหาหมอนวด หรือไม่ก็เมียคนอื่นๆของคุณเพราะฉันจะไม่ทำตามอะไรแบบนั้นกับคุณแน่นอน ฉันไม่ยอมรับการเป็นเมีย นางบำเรอหรือว่าอะไรของคุณทั้งนั้น"
ลุกขึ้นไปยืนอยู่ข้างเตียงพร้อมกับยกมือขึ้นกอดอก
"เธอขัดขืนฉันไม่ได้หรอกลัลนา "
เขาล้มตัวลงนอนตะแคงเอามือเท้าศีรษะ สายตาดูดวิญญาณที่ส่งมาทำเอาลัลนากำลังรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกแผดเผาให้หลอมละลายไหม้เป็นเถ้าธุรี ทำไมคนอาหรับถึงได้หล่อดูดีราวกับถูกพระเจ้าปั้นขึ้นมาเองกับมือ
แม้จะมีหนวดเคราก็ไม่ถึงกับน่าเกลียดอามีนาบอกว่าอาดัมเป็นลูกครึ่งอังกฤษ ดังนั้นหน้าตาของเขาแม้จะคมคายแต่สีผิวกลับขาวสะอาดตา เขาเหมือนเทพบุตรในนิยายที่เธอชอบอ่าน
ก็แค่หน้าตาเท่านั้นแหละยังไงก็กลบความป่าเถื่อนของเขาไม่ได้อยู่ดี
"ทำไมถึงมั่นใจอะไรปานนั้น เป็นถึงผู้นำสูงสุดของที่นี่กะอีแค่ปัญญายอมให้ผู้หญิงมีอะไรด้วยแบบเต็มใจยังไม่มี"
ลัลนาดักทางเขาไว้ก่อน ความจริงก็แอบหวั่นใจอยู่ไม่น้อย หากเขาลงมือข่มขืนเธอขึ้นมาจริงๆ ยังไงๆก็ไม่อาจจะห้ามได้ หมายถึงห้ามหัวใจตัวเองต่างหาก หล่อขนาดนี้เธอน่าจะดีดดิ้นได้ไม่ถึงห้าวิ
"หญิงไทยเป็นแบบนี้ทุกคนหรือไม่?"
"ไม่ทราบ!"
"เตือนไว้ก่อนว่าการขัดใจฉันไม่ใช่ทางเลือกที่ดีของเธอ"
สีหน้าของเขาเริ่มแสดงออกมาว่ากำลังไม่สบอารมณ์ที่โดนขัดใจ
"ฉันยอมไปเป็นคนงานเลี้ยงอูฐเลี้ยงม้า ดีกว่ายอมเป็นเมียของท่าน"
หน้าสวยหวานเชิ่ดขึ้นอย่างดื้อดึง
"งั้นหรือ"
ผุดยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา ลัลนาไม่ชอบยิ้มซ่อนเร้นแบบนี้ของอาดัมเลยสักนิดเพราะมันแฝงความน่ากลัวเอาไว้
"ใช่!"
ตอบแบบทะลุกลางปล้องทำท่าทำทางตั้งท่าพร้อมฟาดกลับใส่เขา
"เธอจะได้ทำอย่างที่ใจต้องการ ใครอยู่ข้างนอก เข้ามาเดี๋ยวนี้!"
ลัลนาเริ่มเลิ่กลั่ก
"เจ้าค่ะนายท่าน"
นอกจากอามีนาจะเข้ามาแล้วเหล่าชายฉกรรจ์ที่ทำหน้าที่เป็นองครักษ์ก็กรูกันเข้ามาด้วยประมาณสองสามคน ลัลนาหน้าถอดสีนึกกลัวขึ้นมาเพราะไม่รู้ว่าอาดัมกำลังจะทำอะไรกับเธอกันแน่
"พานางไปขังไว้ในคอกเลี้ยงม้า ให้นางเป็นคนเลี้ยงม้าจนกว่านางจำยอมทำตามคำสั่งของเรา"
"ห้ะ!อะไรนะ มีสิทธิ์อะไร ปล่อยนะ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ไอ้คนเถื่อน ไอ้โจรบ้า ปล่อยนะ"
อาดัมลุกขึ้นยืนเต็มความสูงร้อยแปดสิบห้า เขาจ้องลัลนาด้วยสายตาแบบผู้มีชัยอย่างคนที่มีอำนาจเหนือกว่า ลัลนามองเขาอย่างเคียดแค้นจนลูกกะตาแทบจะถลนออกมาจากเบ้า
ร่างเล็กถูกลากออกไป พร้อมกับเสียงกรีดร้องโวยวาย เขาชั่วร้าย โหดเหี้ยมและป่าเถื่อนเกินไปที่เธอจะทานทนแล้วจริงๆ
"นายท่านเจ้าคะ ได้โปรดอภัยให้ท่านหญิงเถิดเจ้าค่ะ "
อามีนาคุกเข่าลงขอความเห็นใจแทนผู้เป็นนาย
"หากเห็นใจนางก็ไปกล่อมให้นางยอมเราดีๆ"
กล่าวจบอาดัมก็เดินออกไป หน้าของเขายังคงแดงก่ำอารมณ์โกรธยังไม่สร่างซา เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่โดนผู้หญิงปฏิเสธการนอนร่วมเตียงกับเขา หญิงไทยผู้นี้ช่างอวดดี ดื้อรั้นและท้าทาย ดี เขาจะทำให้นางคลานเข่ามาหาขอร้องอ้อนวอนขอความรักจากเขาเอง