ตอนที่4 ไม่มีอารมณ์

908 คำ
"ยังไม่เจอตัวไอ้สารเลวเนวินอีกเหรออาลี?" ถามไถ่ขึ้นทันทีที่องครักษ์ส่วนตัวเดินเข้ามา ตอนนี้อาดัมกำลังนั่งจิบไวน์ชั้นดีอย่างผ่อนคลายอารมณ์ หลายวันที่ผ่านมามีแต่ความตึงเครียดมาตลอด "จากการที่ส่งคนไปเฝ้าที่เมืองไทย สถานการณ์ตอนนี้ยังไร้ซึ่งวี่แววใดๆของเนวินครับนายท่าน" "เจ็บใจนัก!" อาดัมทุบลงบนโต๊ะดังปัง!ก่อนจะสบถออกมาอย่างหัวเสียแค่คนเพียงคนเดียวทำไมถึงได้ยากเย็นเช่นนี้ ดูท่านายเนวินผู้นี้ไม่น่าจะเป็นแค่คนธรรมดาๆเสียแล้ว "จะทำอย่างไรต่อไปครับนายท่าน" "ไม่ต้อง มันมีสมบัติของเรา เราก็มีสมบัติของมัน แค่ส่งคนไปเฝ้าไว้ที่เมืองไทยมันกลับไปเมื่อไหร่ไม่ต้องทำร้าย ไม่ต้องจับกุมตัว แค่ส่งข่าวบอกมันว่าบุตรสาวของมันอยู่กับเราก็พอ" ผุดยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นมาเพราะคิดอะไรบางอย่างออก "แล้วผู้หญิงคนนั้นเล่าจะทำเช่นไร?" "ให้ลูกสาวมันจ่ายดอกเบี้ยด้วยการเป็นเมียบำเรอเราไปเรื่อยๆ ไร้ซึ่งเกียรติยศ ไร้ซึ่งศักดิ์ศรี ให้มันรู้สึกเสียบ้างว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร" ไม่ทำร้ายทางร่างกายแต่บุตรีก็เป็นดั่งดวงใจ ดวงใจถูกทำร้ายไม่ต่างอะไรกับตัวเองโดนย่ำยี เนวินคงคิดไม่ถึงว่าเหตุการณ์จะกลับกลายมาเป็นเช่นนี้ "เป็นเมียนายท่านไร้เกียรติอย่างไร?" อาลีถามขึ้นอย่างสงสัยเพราะหญิงงามในเมืองนี้ล้วนอยากเป็นนางสนมของอดีตชีคอาดัมทั้งสิ้น "คนไทยรังเกียจหญิงที่เป็นน้อยผู้อื่น ทำแบบนั้นไม่ต่างอะไรกับการทรมาณทั้งจิตใจและร่างกาย" ยิ้มกรุ่มกริ่มแฝงจุดประสงค์ ปากร้ายๆของนางกับวาจาที่พ่นออกมาแต่ละคำดั่งเสือร้ายที่ไม่ได้นึกยำเกรงต่อราชสีห์ แม้จะเคืองนางนักอีกใจก็นึกอยากจะกำราบให้อยู่หมัด ทำให้เป็นแมวน้อยเชื่องๆคงน่าอภิรมย์ไม่น้อย "เข้าใจแล้วครับนายท่าน แล้วนายท่านจะเข้าหอกับนางวันไหน กระผมจะได้ให้สาวรับใช้เตรียมตัวนางไว้ให้ดี" "ยังก่อน ช่วงนี้งานเราเยอะไม่มีอารมณ์อะไรแบบนั้น" ยกไวน์ขึ้นจิบพรางนึกถึงใบหน้าหวานๆไทยแท้ของลัลนา อาดัมไม่เคยมีสัมพันธ์ทางกายกับหญิงเอเชียมาก่อนแอบพึงใจในร่างกายของลัลนาอยู่ไม่น้อย..ก็..ตั้งแต่คืนนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะลัลนาอยู่ในฐานะจำเลย เขาหรือจะปล่อยวันเวลาให้ล่วงเลยจนถึงวันนี้ "ส่งแบบไปให้ช่างทำเครื่องเพชรชุดใหม่ขึ้นมา เอาให้ทันวันเกิดของท่านแม่จ่ายเงินกี่เท่าก็ไม่เป็นไรเรายินดีจ่าย เสร็จแล้วส่งไปให้ท่านแม่ที่อังกฤษ" "นายท่านจะไม่ไปด้วยตัวเองหรือ?" "ไม่..ท่านแม่คงไม่อยากพบหน้าเราเท่าไหร่ ปล่อยให้ท่านใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสุขสงบเถอะ" ไม่ใช่อาดัมไม่รู้ว่าตอนท่านแม่เป็นพระสนมอยู่กับเสด็จพ่อของตนนั้นโดนกลั่นแกล้งอะไรจากพระชายาบ้าง เนื่องจากท่านแม่ในตอนนั้นเป็นที่โปรดปรานของเสด็จพ่อมากกว่าภรรยาคนอื่นๆ ทำให้การใช้ชีวิตอยู่ในวังของท่านแม่พบเจอแต่ความทุกข์ระทมมาตลอด เมื่อสิ้นเสด็จพ่อท่านเหมือนได้ปลดปล่อยตัวเองกลับไปมีชีวิตเยี่ยงสามัญชนที่บ้านเกิดอย่างที่ได้ใฝ่ฝันเอาไว้ "ท่านแม่อยากให้เราอยู่รับใช้ท่านพี่" "ท่านก็กำลังทำอย่างสุดความสามารถ เมืองฮามาลแห่งนี้เลยเจริญรุ่งเรืองและสุขสงบ" "ยังหรอกอาลี ท่านพี่ส่งข่าวมาว่า มีกลุ่มพวกก่อการร้ายกลุ่มหนึ่งกำลังตามรุกรานไล่ยึดเมืองเล็กๆต่างๆและตอนนี้พวกมันก็กำลังมุ่งหน้าเข้ามาเรื่อยๆ เราเกรงว่ามันจะเข้ามารุกรานในเมืองฮามาลของเรา..ในอดีตใช่ว่ามันจะไม่เคยเกิด" "เมืองของเราเข้มแข็ง" เป็นจริงดังที่อาลีกล่าว เมืองฮามาลมีกองทัพและอาวุธสงครามที่เข้มแข็ง รวมทั้งทหารกล้าหลายหมื่นนาย ไม่มีทางที่กลุ่มโจรเหล่านั้นจะเข้ามารุกรานได้ แม้จะเป็นไปได้ก็เหมือนแมลงเม่าบินเข้ากองเพลิงหรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ รนหาที่ตาย "อย่าประมาทเลยอาลี เร่งฝึกฝนเหล่าทหารของเจ้าเอาไว้เตรียมพร้อมสำหรับสงครามตลอดเวลา" "ครับนายท่าน" "กลับเรือนท่านไปพบหน้าลูกเมียบ้างเถิด" อาดัมหันมามองหน้าอาลีก่อนจะแย้มยิ้มออกมาบางๆ อาลีตามติดเขามาเป็นอาทิตย์แล้วเข้าใจดีว่าเมียใหญ่เมียรองต่างๆก็ต่างเฝ้ารอการกลับมาของสามีอยู่ "โทรหากระผมได้ตลอดเวลาที่ท่านต้องการ" เอามือขึ้นลูบท้ายทอยแก้เขินเล็กน้อยก่อนจะโค้งกำนับเพื่อทำความเคารพก่อนจะลาออกไปจากห้อง "อาลี!" อาลีหยุดกึกหันควับกลับมา "ส่งผู้หญิงมาให้เราสักสองคน" "เมื่อสักครู่ท่านบอกว่าไม่มีอารมณ์" ย้อนจนผู้เป็นนายทำหน้าไม่ถูก "เราแค่เมื่อยต้องการคนมาบีบนวด...อ้อ..ไม่ต้องไปเถอะ" โบกมือขึ้นเพราะคิดอะไรบางอย่างได้ อาลีทำหน้างงกับความคิดกลับไปกลับมาของผู้เป็นนายก่อนจะถอยร่นออกไปจากห้องจริงๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม