ตอนที่ 7

1385 คำ
คุณหมองั้นเหรอ... ปฐวีที่ยืนฟังบทสนทนาอยู่ก็รู้สึกผิดขึ้นมา ที่ไม่ถามต้นสายปลายเหตุก็ดันด่าหญิงสาวไปเสียยกใหญ่ "ตกลงว่าเรื่องมันเป็นยังไง" เขาตะคอกด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด "เอ่อ..." คนถูกถามถึงกับพูดคำใดไม่ออก ตัวสั่นเป็นเจ้าเข้าด้วยความกลัว "ไอ้เรืองกับไอ้เหว่งมันวางแผนกันหลอกล่อคุณหมอออกมาเพื่อจะทำมิดีมิร้ายครับ" ลุงคำเห็นบัวบูชาขับรถกลับมาที่สถานีอนามัย ขณะปั่นจักรยานกลับจากร้านค้า แต่เพราะต้องรีบเอาของกลับไปให้เมียที่บ้านจึงไม่ได้แวะหา ทว่าพอกลับถึงบ้านแล้วเกิดรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ จึงกลับมาที่อนามัยอีกครั้ง เห็นไฟบนบ้านพักเปิดไว้ทุกดวง แต่พอเรียกหากลับไม่มีเสียงตอบรับ ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ จึงเดินออกมาบอกว่าได้ยินเสียงเหว่งมาตามให้ไปดูอาการเพื่อนให้ พอนึกได้ว่าเพื่อนของเหว่งก็คงมีแต่เรือง จึงรีบตามมาที่บ้านหลังดังกล่าวทันที เพราะเป็นแหล่งซ่องสุมของทั้งสองคน "มีชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ อนามัยบอกว่ามันไปตามหมอออกมาดูอาการเพื่อนมัน ผมก็นึกสังหรณ์ใจอยู่แล้วว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ ระหว่างทางมาที่นี่เห็นมันทำลับๆ ล่อๆ อยู่ตรงลานกลางหมู่บ้านก็เลยให้คนช่วยจับตัวมันครับ" "จริงอย่างที่ลุงคำว่าหรือเปล่า" เสียงเย็นเยียบดังขึ้นอย่างสะกดกลั้นอารมณ์ คนที่อยู่ใกล้เขาจะได้ยินเสียงกัดฟันกรอดๆ "ผมผิดไปแล้วครับพ่อเลี้ยง ผมขอโทษ ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้วครับ" เสียงของชายที่ชื่อเหว่งสั่นเครือ พร้อมกับก้มตัวลงจนหน้าผากชิดกับพื้นอย่างลนลาน แม้มือทั้งสองข้างจะถูกมัดไพล่หลังไว้ก็ตาม "ผิดไปแล้ว? ขอโทษ? ต่อไปจะไม่ทำอีกงั้นเหรอ? กูถามว่าพวกมึงทำอย่างที่ลุงคำว่าหรือเปล่า!" คราวนี้พ่อเลี้ยงหนุ่มไม่อาจสะกดกลั้นอารมณ์โทสะไว้ได้อีกต่อไป แม้เขาจะมีอคติในบางเรื่อง แต่ก็เป็นคนมีคุณธรรมและเที่ยงตรง ทำผิดก็คือผิด "จริงครับ พวกเราทำแบบนั้นจริงครับ" เรืองยอมสารภาพความจริงในที่สุดเพราะความกลัวตาย "มึงมีลูกมีเมียอยู่แล้วไอ้เรือง เมียมึงก็ยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ ลูกมึงก็ยังเล็ก มึงไม่คิดถึงความรู้สึกของพวกมันสองคนบ้างเหรอ! หรือว่าถูกความอยากความใคร่ครอบงำจิตใจจนแยกแยะผิดชอบชั่วดีไม่ออกแล้ว" "ก็...ผู้หญิงคนเมืองเธอสวย ผมก็เลย..." "ไอ้เวรตะไลเอ๊ย! ใครอยู่ข้างนอกมาลากตัวพวกมันสองคนไปซิ จับมันไปมัดไว้ในสวน กูจะตามไปจัดการทีหลัง" สิ้นเสียงคำสั่ง ลูกน้องรูปร่างสูงใหญ่ที่ตามมา ก็เข้ามาคุมตัวเรืองกับเหว่งออกไป "พ่อเลี้ยงจ๊ะ อย่าลงโทษผัวฉันเลยนะจ๊ะ ลูกของฉันยังเล็กอยู่ พ่อเลี้ยงได้โปรดเมตตาด้วยนะจ๊ะ" เมียของเรืองร่ำไห้น้ำตานองหน้า แม้ว่าผัวของตนจะทำผิดคิดชั่ว แต่ถึงอย่างไรก็คือคู่ชีวิตของตน "กลับบ้านไปหาลูกเถอะ นี่ไม่ใช่ความผิดครั้งแรกของไอ้เรือง กูให้โอกาสเผื่อว่ามันจะคิดกลับตัวกลับใจ แต่สุดท้ายก็ไม่ กูเองก็ไม่มีโอกาสและความเมตตาจะให้มันแล้ว" "โฮ! พ่อเลี้ยง เมตตามันอีกสักครั้งเถอะนะจ๊ะ" "กลับไป!" พ่อเลี้ยงหนุ่มตวาดลั่นอีกครั้ง ทำเอาวงแตก ต่างคนต่างแยกย้ายกันไปคนละทาง "ฉันจะแจ้งความ!" บัวบูชาที่ยังสะอื้นไม่หายพูดแทรกขึ้นมา "ไม่จำเป็น คนของผม ผมจะจัดการเอง" แต่ปฐวีก็สวนกลับทันทีทันควัน "บ้านป่าเมืองเถื่อนที่สุด" "คนเมืองอย่างคุณอาจจะคิดแบบนั้น แต่สำหรับที่นี่เราจัดการกันเอง ใครผิดก็ว่าไปตามผิด ทำผิดก็ต้องถูกลงโทษไม่มียกเว้น ดีไม่ดีบทลงโทษของผมอาจจะหนักกว่าบทลงโทษของกฎหมายซะอีก" "เผด็จการ" คุณหมอสาวเอ่ยลอยๆ "แต่ก็เอาเถอะ ช่วยลงโทษให้หนักๆ หน่อยละกัน จะได้ไม่กล้าทำชั่วกับใครอีก ลุงคำคะ รบกวนไปส่งหนูที่อนามัยได้ไหมคะ" "ได้ครับคุณหมอ" "ขอบคุณค่ะ" หญิงสาวกระพุ่มมือไหว้ลุงคำแล้วเดินไปหยิบกระเป๋าที่ตกอยู่ข้างผนังห้องอีกด้าน ปฐวีมองตามอย่างไม่ละสายตา จนกระทั่งเธอก้าวออกไปจากตัวบ้านที่มีแสงสว่างพอสลัว "เดี๋ยวผมไปด้วยอีกคนแล้วกัน" บัวบูชาชะงักแล้วหมุนตัวกลับไปมอง ทันใดนั้นหัวใจของพ่อเลี้ยงหนุ่มก็บีบตัวรัวๆ จนรู้สึกปวดหนึบ ยามได้เห็นคราบน้ำตาที่ยังเกาะอยู่เต็มสองแก้ม ชายหนุ่มยืนมองอยู่อย่างนั้นเพราะไม่อาจถอนสายตาไปจากเธอได้ เมื่อได้เห็นใบหน้านั้นอย่างชัดเจน เครื่องหน้างดงามไร้ที่ติอันประกอบด้วยหน้าผากมนโค้งนูน คิ้วดำเรียงตัวสวยไม่โก้งโค้งจนเกินไป นัยน์ตาที่ยังคลอด้วยหยดน้ำตาแลดูเจิดจรัสราวกับอัญมณีน้ำเอก จมูกโด่งเป็นสันเชิดตรงปลายน้อยๆ ริมฝีปากหยักได้รูปสวยดูงดงามราวกับภาพวาด ลำคอระหงรับกับลาดไหล่นวลเนียน เรือนร่างสูงโปร่ง ผิวพรรณขาวสว่างราวกับมีแสงสว่างฉายออกมาจากในกายนั้น ในขณะที่บัวบูชาก็ได้เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายชัดๆ ภาพพ่อเลี้ยงที่เห็นในละครแวบขึ้นมาในทันที พ่อเลี้ยงตัวจริงเสียงจริงไม่อิงละคร นี่ถ้าไม่รู้ว่าเป็นพ่อเลี้ยง ฉันคงคิดว่าเป็นโจรภูเขาแหงๆ หน้าตาก็รกรุงรัง หนวดเครานี่เฟิ้มเชียว สงสัยที่นี่ไม่มีที่โกนหนวดแน่ๆ เลย เห็นแล้วอยากจะถักเปียให้จริงจริ๊ง... "ไม่ต้อง!" เสียงเขียวสวนกลับ ใบหน้างามก็แลดูบูดบึ้ง ทำให้พ่อเลี้ยงหนุ่มที่ยืนจดจ้องชนิดที่ว่าลืมหายใจไปชั่วขณะได้สติกลับมา "อะ...เอ่อ...ให้พ่อเลี้ยงไปด้วยเถอะนะครับคุณหมอ พ่อเลี้ยงน่ะเป็นคนกว้างขวางและเป็นที่นับหน้าถือตาของชาวบ้านที่นี่และใกล้เคียง ทำความรู้จักกันไว้เผื่อว่าวันหน้าต้องการความช่วยเหลือใด จะได้พึ่งพากันได้ครับ" "ไม่จำเป็นค่ะ หนูคงไม่ขอความช่วยเหลือจากคนที่ด่าหนูจนไม่เหลือหน้าไปพบใครแล้วหรอกค่ะ" "เป็นความผิดของผมเอง ที่ตอนแรกไม่ได้ถามที่มาที่ไปก็ด่าคุณหมอของลุงไปเสียยกใหญ่ เมื่อครู่ที่ผมพูดจาไม่ดีกับคุณไว้ ก็ถือโอกาสนี้เป็นการขอโทษเลยก็แล้วกัน" "เอาคำขอโทษกองไว้ตรงนั้นแหละ" หญิงสาวว่าแล้วก็สะบัดหน้าหนี ก่อนจะเดินจ้ำอ้าวไม่รอใครกลับไปที่สถานีอนามัยทันที "คุณหมอบัวบูชาหรือหมอบัวครับ เธอเพิ่งย้ายมาประจำการที่นี่ได้ไม่ถึงอาทิตย์ พอดีวันนี้มีงานเลี้ยงต้อนรับที่อำเภอ เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ เลยเข้าอำเภอกันหมด แต่คุณหมอบัวเธอกลับมาก่อน ไอ้พวกนั้นคงจ้องอยู่แล้วเลยสบโอกาส ผมเองก็เตือนตั้งแต่วันแรกที่เธอมาแล้วว่าอย่าไว้ใจใคร แต่คงจะเพราะความเป็นหมอ ได้ยินว่ามีคนเจ็บคนไข้เลยรีบออกมาดู" หลังจากส่งบัวบูชาถึงบ้านพักเรียบร้อยแล้ว ปฐวีกับลุงคำก็อยู่คุยกันต่อ "อ๋อ...อย่างนี้นี่เอง แล้วเธอย้ายมาจากไหนละครับ" "มาจากกรุงเทพฯ ครับ" พอได้ยินว่ามาจากกรุงเทพฯ เท่านั้น มือของพ่อเลี้ยงหนุ่มก็กำเข้าหากันแน่นโดยไม่รู้ตัว คนกรุงเทพฯ ได้ยินแล้วกูเกลียดนัก!... "งั้นลุงก็สบายใจเถอะ คนกรุงเทพฯ น่ะ เอาตัวรอดได้สบายอยู่แล้ว ลุงเองก็อย่าเชื่อใจ ไว้ใจคนกรุงเทพฯ นักล่ะ เห็นทีผมคงต้องขอตัวกลับไปจัดการไอ้สองคนนั้นก่อน" พูดจบพ่อเลี้ยงหนุ่มก็ลุกพรวดขึ้นแล้วเดินจากไปโดยไม่หันหลังกลับมามองอีกเลย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม