บัวบูชากลับจากงานเลี้ยงต้อนรับที่อำเภอ ซึ่งในงานก็ไม่ได้มีแค่เธอคนเดียวที่ย้ายมา ยังมีคนอื่นที่โยกย้ายมาประจำตามโรงพยาบาลหรือสถานีอนามัยแห่งอื่นๆ อีกหลายตำแหน่ง
กว่าจะถึงบ้านพักก็เกือบสองทุ่ม หญิงสาวโยนกระเป๋าลงบนเตียงแล้วรีบคว้าผ้าเช็ดตัวและชุดคลุมเพื่อจะลงไปอาบน้ำและเปลี่ยนชุด ทว่าพอก้าวลงบันไดได้สองขั้น ก็มีเสียงตะโกนเรียกอย่างตื่นตกใจดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ
"หมอครับ! ช่วยด้วยครับหมอ มีคนบาดเจ็บครับ"
ด้วยว่าตอนนี้ทั้งสถานีอนามัยมีเจ้าหล่อนอยู่เพียงคนเดียว เนื่องด้วยว่าเจ้าหน้าที่คนอื่นยังไม่กลับเข้ามา บัวบูชาจึงต้องร้องถามกลับไปตามหน้าที่
"มีใครเป็นอะไรเหรอคะ"
"หมอครับ ช่วยเพื่อนผมด้วยครับ นั่งคุยกันอยู่ดีๆ มันก็หมดสติไป เรียกยังไงก็ไม่ตื่นครับ" น้ำเสียงสั่นเครือปนหอบตอบกลับมา ก่อนที่เจ้าของเสียงซึ่งเป็นชายวัยรุ่นอายุประมาณยี่สิบกลางๆ จะปรากฏตัวให้เห็น
คุณหมอสาวเห็นใบหน้านั้นดูตื่นตระหนกก็ลังเลใจ เพราะก่อนหน้านี้ได้รับคำแนะนำแกมเตือน ว่าหากมีเหตุฉุกเฉินตอนกลางคืนให้หาเพื่อนไปด้วย เพราะคนที่นี่ใช่ว่าจะเป็นมิตรและไว้ใจได้ทุกคน แต่เวลานี้ไม่มีใครอยู่ ก็ไม่รู้ว่าจะหาใครไปด้วย
ขณะที่บัวบูชากำลังครุ่นคิดอยู่นั้น น้ำเสียงสั่นเครือก็ดังเร่งเร้าขึ้นมาอีก
"เร็วเถอะครับหมอ ผมกลัวเพื่อนผมมันจะตายซะก่อน"
"แล้วตอนนี้เพื่อนของคุณอยู่ที่ไหนคะ ทำไมไม่พาที่นี่"
"อยู่ที่บ้านใกล้ๆ อนามัยนี่เองครับ แต่ให้หมอไปหาจะเร็วกว่าพามันมาครับ คนไม่ได้สติทำให้เคลื่อนย้ายได้ยาก รีบไปเถอะครับคุณหมอ"
"ก็ได้ๆ เดี๋ยวหมอขอไปหยิบกระเป๋าก่อนก็แล้วกัน" คุณหมอสาวบอกแล้วก็กลับขึ้นบันได เอาของไปเก็บในห้อง ครั้นพอก้มลงมองชุดที่ตัวเองกำลังสวมใส่อยู่ก็ถอนหายใจเฮือก แต่หากจะมัวเปลี่ยนอยู่ก็กลัวไม่ทันการณ์ เผื่อคนป่วยอาการหนักขึ้นมาจริงๆ
หลังจากหาเสื้อคลุมตัวโคร่งคลุมทับชุดกระโปรงสั้นที่สวมอยู่แล้ว บัวบูชาก็วิ่งลงจากบ้านพัก ไปหยิบกระเป๋าที่มีเครื่องมือปฐมพยาบาลเบื้องต้นในตัวอาคารสำนักงาน
"ไปกันเถอะ" หลังจากได้ของที่ต้องการแล้ว หญิงสาวก็รีบกลับออกไปหาชายที่รออยู่ด้านนอกด้วยความกระวนกระวาย
"เชิญทางนี้ครับหมอ" ชายคนดังกล่าวนำทางคุณหมอสาวไปในทันที
"ใกล้ถึงหรือยัง นี่เราเดินกันมาไกลแล้วนะ ไหนบอกว่าใกล้ๆ ไง" บัวบูชาเอ่ยถามเมื่อเดินห่างออกมาจากตัวสถานีไกลพอสมควรแล้ว ทั้งที่ตอนแรกบอกว่าอยู่ใกล้ๆ เธอหันซ้ายหันขวาอย่างระแวดระวัง มือก็กระชับกระเป๋าแน่นกว่าเดิม
"บ้านข้างหน้านี่เองครับ ที่เปิดไฟไว้ตรงนั้น" คุณหมอสาวมองตามมือที่ชี้ไปก็โล่งใจเมื่อถึงเสียที
"เชิญครับๆ คุณหมอ เพื่อนผมมันนอนหมดสติอยู่ตรงนั้นครับ" ดวงตากลมโตมองเข้าไปในตัวบ้านที่เป็นบ้านชั้นเดียว แสงไฟพอสลัวจึงต้องเพ่งสายตาเป็นพิเศษ จนเห็นร่างของคนที่หมดสตินอนอยู่บนโซฟาตัวยาวที่ทำจากไม้ บริเวณรอบๆ มีขวดเหล้าและกระป๋องเบียร์วางเกลื่อนอยู่บนพื้น เธอเริ่มรู้สึกใจคอไม่ดีจึงคิดจะถอยกลับไปตั้งสติเสียก่อน ทว่าพอจะหมุนตัวกลับก็ถูกผลักเข้าไปในตัวบ้านจนล้มลง
วันก่อนชายทั้งสองคนเข้ามาจ่ายเงินค่าเหล้าที่ติดร้านค้าในหมู่บ้านไว้ แล้วบังเอิญเห็นบัวบูชาเข้า พอลองถามเจ้าของร้านก็รู้ว่าเป็นหมอที่เพิ่งย้ายมาใหม่ ด้วยรูปร่างหน้าตา ผิวพรรณที่สะดุดตา เลยกระตุ้นนิสัยเจ้าชู้ ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีให้กำเริบ จึงพากันวางแผนล่อหญิงสาวออกมา
บัวบูชารู้ตัวทันทีว่าถูกหลอกเข้าเต็มๆ พลันนึกโกรธตัวเองที่เป็นคนใจอ่อนเกินไป ครั้นพอยันตัวลุกขึ้นไปเปิดประตู ก็พบว่ามันถูกล็อกจากด้านนอกด้วยฝีมือของชายหนุ่มคนที่ไปตามเธอมา
นาทีนั้น ความกลัวแล่นขึ้นมาจับหัวใจ ร่างบางค่อยๆ หมุนกลับมา แล้วก็คนที่นอนหมดสติอยู่บนโซฟาลุกขึ้นนั่งพร้อมด้วยเสียงหัวเราะชวนขนลุก หัวใจของเธอเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ อย่างหวาดกลัว แต่ก็พยายามข่มความกลัวเอาไว้สุดกำลัง
"ต้องการอะไร! ทำไมถึงทำแบบนี้ ถ้าคราวหน้าป่วยขึ้นมาจริงๆ ละก็ ระวังจะไม่มีใครเชื่อ" เธอต่อว่าด้วยความไม่พอใจ
"คนอย่างผมไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอก อย่าโกรธไปเลยคุณหมอ ที่ผมทำก็แค่เพราะว่าอยากคุยกับคนหมอเท่านั้นเอง"
"อย่าเข้ามานะ!" คุณหมอสาวตวาดเสียงดังลั่นพลางมองซ้ายมองขวาเพื่อหาทางหนีทีไล่ เมื่อชายฉกรรจ์ขยับเข้ามาหยุดยืนอยู่ใกล้ๆ จนได้กลิ่นสาบของคราบเหงื่อไคล
"ทำไมละครับ เราจะได้คุยกันแบบใกล้ชิดไงล่ะ"
"ฉันไม่มีอะไรจะคุย ถอยออกไป!"
"ถอยก็โง่สิครับ อุตส่าห์วางแผนล่อคุณหมอออกมาได้แล้ว" บัวบูชารู้สึกราวกับว่าหัวใจจะหยุดเต้น เธอกลั้นหายใจยามที่ชายคนดังกล่าวขยับเข้ามาใกล้ชิดกว่าเดิม กลิ่นสาบโชยเข้าจมูกจนต้องกลั้นหายใจเอาไว้
"กรี๊ด!" แม้จะพยายามควบคุมสติแล้ว แต่สุดท้ายเจ้าหล่อนก็กรีดร้องลั่นออกมา ยามที่ฝ่ามือสากยื่นมากระชากแขน
"ปล่อยฉัน! ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วย!"
"อย่าดีดดิ้นไปหน่อยเลยน่า เรามาหาความสุขกันดีกว่า บรรยากาศกำลังดีอย่าทำลายมันเลย แล้วก็ไม่ต้องร้องตะโกนไปหรอก เพราะไม่มีใครได้ยินแน่นอน เก็บเสียงไว้ครางดีกว่า"
พ่อขา ช่วยหนูด้วย...
หญิงสาวหลับตาแน่น พลางพร่ำเรียกหาสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจอย่างหวาดกลัว เมื่อถูกจับเหวี่ยงลงบนโซฟาไม้แข็งๆ
ร่างหนาของชายฉกรรจ์ตามมาคร่อมทับร่างบางไว้ เสื้อตัวโคร่งที่สวมทับมาถูกฉีกกระชากจนขาด มือสากลูบไล้ไปมาบนท่อนแขนที่ขาวเนียนทว่าบัดนี้เต็มไปด้วยรอยแดงอย่างจาบจ้วง
"ว้าว! สาวชาวกรุงนี่ผิวขาวดีจริงๆ" เสียงกระเส่ากระซิบที่ข้างหู นั่นทำให้หญิงสาวขนลุกเกรียว
"ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยที"
"ร้องไปเถอะคุณหมอ ไม่มีได้ยินหรอก หึหึ" ชายฉกรรจ์หัวเราะในลำคออย่างพอใจ ก่อนจะถอดเสื้อที่สวมใส่อยู่ออก ตามปลดเข็มขัด หญิงสาวรีบหลับตาลงเพราะไม่อยากเห็นภาพอุจาดตา สมองก็ประมวลหาทางหนี แต่แล้วก็มีเสียงตะโกนของใครหลายคนดังขึ้น
บัวบูชาลืมตาโพลงขึ้นทันใด รวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายผลักและถีบคนที่คร่อมทับร่างตัวเองไว้ออกเต็มแรง จนชายคนนั้นหงายหลังตกจากโซฟา
ทันใดนั้นประตูก็ถูกถีบเข้ามาจากด้านนอก คนหลายคนทั้งหญิงทั้งชายกรูกันเข้ามา เธอจึงรีบลุกขึ้นจะเข้าไปขอความช่วยเหลือ
"ช่วย..."
"นี่น่ะเหรอหญิงชู้ของมึง!"