ตอนที่ 4

1603 คำ
"อะไรเหรอคะ" หญิงสาวถามหน้าตาตื่นก่อนจะก้มลงมองกระโปรงของตัวเอง และแล้วก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมา เมื่อหนอนตัวอวบสีเขียวน่าเกลียดเกาะอยู่บนกระโปรงของตัวเอง ซึ่งมันเป็นสัตว์ที่เธอรู้สึกขยะแขยงทุกทีที่เห็น "กรี๊ด! เอามันออกไปที ช่วยเขมด้วยค่ะ" ปฐวีวางลูกสาวลงตามเดิมแล้วจึงขยับเข้าไปช่วยจับหนอนออกให้ เขามองมันอย่างพิจารณา พลางเหลือบตามองลูกสาวเล็กน้อย แต่พอเห็นท่าทางเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร จึงเอาเจ้าหนอนไปวางบนพุ่มไม้ใกล้ๆ "มันไม่มีพิษอะไรหรอก อย่ากลัวไปเลย คุณจะกลับบ้านเลยไหม ผมจะพาทับทิมเข้าบ้านแล้ว" "กลับเลยค่ะ เขมขอตัวก่อนนะคะ พรุ่งนี้เจอกันที่สวนค่ะ" "อืม" ชายหนุ่มรับคำสั้นๆ แล้วย่อตัวลงอุ้มลูกสาวขึ้นมา แม่หนูน้อยรีบเกาะคอแน่น แล้วอาศัยจังหวะที่ผู้เป็นบิดาไม่เห็นหันไปแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เขมจิรา เจ้าหล่อนทำอะไรไม่ได้เพราะมีพ่อเลี้ยงหนุ่มอยู่ด้วย ทั้งที่อยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ จึงทำได้เพียงแค่เก็บความเคืองแค้นไว้ในใจ และกัดฟันบ่นพึมพำเบาๆ คนเดียว "ฝากไว้ก่อนเถอะนังเด็กเวร แกควรจะตายไปพร้อมๆ แม่แกซะ จะอยู่เป็นมารขวางความสุขฉันทำไมก็ไม่รู้" พ่อเลี้ยงปฐวีพร้อมลูกสาวตัวน้อยเข้ามาในห้องรับแขก ก็เห็นพี่เลี้ยงคนใหม่นั่งรอด้วยใบหน้าไม่สู้ดีนัก ไม่รู้ว่าระหว่างที่รอทั้งวันเกิดอะไรขึ้นบ้าง "สวัสดีครับคุณโสภิดา ต้องขอโทษด้วยที่ให้รอเกือบทั้งวัน แต่วันนี้มีงานสำคัญจริงๆ" "ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันรอได้" พี่เลี้ยงสาวคนใหม่ยิ้มได้เมื่อได้รับไมตรีจากเจ้าบ้าน ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าหล่อนหาข้อมูลของเขามาแล้ว ไม่เช่นนั้นคงไม่รับงานและดั้นด้นมาไกลถึงเพียงนี้ จะติดก็คงแต่เด็กหญิงที่นั่งหน้าตูมอยู่ข้างๆ ผู้เป็นบิดา "ครับ นี่ทับทิมลูกสาวผม คงจะรู้จักกันแล้ว แล้วที่นี่เป็นยังไงบ้างครับ พอจะอยู่ได้หรือเปล่า" "ที่นี่อากาศดีมากเลยค่ะ วิวก็สวย น่าอยู่มากๆ เลยค่ะ" "ก็ดีครับ" พูดไม่ทันขาดคำก็ถูกลูกสาวหยิกสีข้างเข้าให้ พร้อมกับส่งสายตากดดัน "แต่เอ่อ...เห็นทีว่า...ผมคงจะทำให้คุณเสียเวลาแล้ว ต้องขอโทษจริงๆ นะครับที่ผมคงต้องบอกว่าไม่สามารถให้คุณทำงานที่นี่ได้ แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะจ่ายค่าเสียเวลาวันนี้ให้ และเพื่อแสดงความเสียใจอย่างจริงใจ ผมจะจ่ายเงินเดือนตามที่ตกลงกันไว้ให้อีกสามเดือน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายระหว่างที่คุณหางานใหม่" "อ้าว! ทำไมละคะ หรือว่าดิฉันทำอะไรผิด หรือทำให้พ่อเลี้ยงไม่พอใจ" หญิงสาวถามอย่างละล่ำละลัก "ไม่ใช่อย่างนั้นครับ คุณไม่ได้ทำอะไรผิดเลย แต่..." "คุณพ่อก็บอกเธอไปตรงๆ สิคะ จะอ้อมค้อมทำไม งั้นหนูตอบแทนละกันว่าหนูไม่ต้องการพี่เลี้ยง โดยเฉพาะพี่เลี้ยงที่ยังไม่ได้แต่งงาน ที่คิดจะมาจับคุณพ่อโดยเอางานมาบังหน้า" "ทับทิมคะ! พูดจาไม่น่ารักเลย รีบขอโทษคุณโสภิดาเดี๋ยวนี้เลย ผมเองก็ต้องขอโทษแทนลูกสาวด้วยนะครับ" ปฐวีรีบขอโทษขอโพยแทนลูกสาว ในขณะที่โสภิดาได้แต่นั่งนิ่ง เพราะยังอึ้งกับคำพูดคำจาของเด็กหกขวบไม่หาย นี่ขนาดหกขวบคำพูดคำจายังขนาดนี้ แล้วต่อไปโตขึ้นกว่านี้จะขนาดไหน... "ขอโทษทำไมคะ หนูไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย" "ทับทิม! นี่ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าตัวเองทำอะไรผิด นิสัยไม่น่ารักแบบนี้ เดี๋ยวใครก็หาว่าพ่อไม่สั่งสอนหรอก" ด้วยความลืมตัว เขาเผลอตะคอกใส่ลูกสาว จนน้ำตาของเด็กหญิงไหลออกมาอาบแก้ม "ใช่ค่ะ หนูมันนิสัยไม่ดี เพราะว่าหนูไม่มีแม่เหมือนคนอื่น หนูมันเหมือนตัวประหลาด ใครๆ ก็ไม่รักหนู" พูดจบหนูน้อยก็วิ่งขึ้นบันไดเสียงดังตึงตัง ตามมาด้วยเสียงปิดประตูดังโครมคราม "ผมต้องขอโทษแทนลูกสาวด้วยนะครับ แกไม่เหมือนเด็กทั่วไป เข้ากับคนอื่นได้ยาก ชีวิตมีแต่ความระแวงกลัวว่าจะถูกแย่งความรัก กลัวว่าคนอื่นจะแย่งผมไปจากแก ผมเลยต้องหาพี่เลี้ยงมาดูแลที่บ้าน แต่ไม่ว่าคนไหนมาก็อยู่ได้ไม่นาน เพราะทนความเอาแต่ใจของแกไม่ได้ ส่วนเคสของคุณก็เพราะว่าแกยืนกระต่ายขาเดียวว่าไม่เอา ผมเองก็ไม่อยากตามใจ แต่หากฝืนก็คงไม่ต่างกับคนก่อนๆ" "ดิฉันเข้าใจค่ะ แต่ขอแนะนำหน่อยได้ไหมคะ พ่อเลี้ยงควรจะพาแกไปพบจิตแพทย์เด็กนะคะ หากปล่อยไว้แบบนี้ โตไปจะแก้ยาก" "ผมรู้ครับ แต่แกยืนยันเด็ดขาดว่าไม่ไป แม้ว่าไม่อยากตามใจแกนัก แต่ก็อดสงสารไม่ได้ ชีวิตแกผ่านเรื่องร้ายๆ มาตั้งแต่เกิด เลยไม่อยากบังคับแกจนเกินไป" "ค่ะ งั้นดิฉันก็เอาใจช่วยนะคะ หวังว่าแกจะพบใครสักคนที่เข้ามาเติมเต็มชีวิต ให้ความรักความอบอุ่น ลำพังแค่ความรักจากพ่อเลี้ยงคนเดียวคงไม่พอ" แม้ตอนแรกที่มาจะหวังมากกว่าตำแหน่งพี่เลี้ยง แต่พอเห็นพฤติกรรมของเด็กหญิงแล้ว โสภิดาจึงคิดว่าควรจะถอยตั้งแต่ยังไม่เริ่มจะดีกว่า "ผมก็หวังอย่างนั้นครับ เอาเป็นว่าตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว ขับรถลงเขาตอนนี้คงจะอันตราย ถ้าคุณโสภิดาไม่รังเกียจอะไรก็พักที่นี่สักคืน ผมจะให้แม่บ้านจัดห้องพักให้" "ก็ดีเหมือนกันค่ะ ที่นี่วิวสวย ดิฉันขอดื่มด่ำกับบรรยากาศดีๆ สักคืน พรุ่งนี้ค่อยกลับก็ได้ค่ะ" "ขอบคุณมากครับที่ไม่รังเกียจ แล้วก็ช่วยอย่าถือสาลูกสาวผมเลยนะครับ" "ค่ะ ดิฉันเข้าใจ ไม่ถือสาแกหรอกค่ะ" หลังจากแม่บ้านพาโสภิดาไปยังห้องพักที่อยู่อีกหลัง พ่อเลี้ยงหนุ่มก็ตรงขึ้นบันไดไปหาลูกสาวทันที เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเคาะประตู และพอจะเปิดเข้าไปเช่นทุกครั้ง แต่ปรากฏว่าคราวนี้ประตูล็อก หมุนอย่างไรก็เปิดไม่ออก "ทับทิม เปิดประตูให้พ่อเดี๋ยวนี้เลยนะ ทับทิม" เขาทั้งเคาะประตู ทั้งเรียก แต่ก็มีแต่ความเงียบตอบกลับมา "ทับทิม! นับวันยิ่งนิสัยเสีย พ่อไม่อยากดุเรานะ แต่ในเมื่อเราทำตัวแบบนี้ พ่อก็จำเป็นต้องดุและลงโทษนะ" "..." เช่นเคย มีเพียงความเงียบราวกับว่าเขาคุยกับสายลมที่พัดมาแล้วก็พัดผ่านไป "พ่อเลี้ยงคะ อย่าเพิ่งเรียกเลยนะคะ ปล่อยให้เธออยู่คนเดียวไปก่อนดีกว่า คุยกันตอนนี้ต่างคนต่างใจร้อน ไม่เป็นผลดีเลยค่ะ" ป้าสายดูแลทับทิมมาตั้งแต่เกิด จึงรู้นิสัยของหนูน้อยดี "ก็ได้ครับ แล้วแขกเรียบร้อยดีใช่ไหมคะ" "เรียบร้อยดีค่ะ ป้าให้ส้มเช้งยกอาหารเย็นไปให้แล้ว พ่อเลี้ยงเองก็ไปอาบน้ำ ทำใจให้เย็นแล้วลงไปทานข้าวเถอะค่ะ" "ครับ งั้นผมฝากดูยัยหนูด้วยนะครับ" "ค่ะ พ่อเลี้ยง" หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ พ่อเลี้ยงปฐวีก็ออกไปเดินสูดอากาศที่หน้าบ้าน ในมือเขาถือบุหรี่ไปด้วย ซึ่งนานๆ ทีจะดูด ในยามที่มีเรื่องกลุ้มอกกลุ้มใจอยากระบายเท่านั้น แต่ในระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงคนคุยกันเสียงดังมาตามทางที่จะเข้าไปในหมู่บ้าน พอลองเงี่ยหูฟังดูก็จำได้ว่าเป็นคนงานในสวนที่มาจากหมู่บ้านอื่น พักอยู่ในบ้านพักที่ทางสวนจัดให้ "จะไปไหนกันค่ำๆ มืดๆ" "ฉันจะไปตามผัวจ้ะพ่อเลี้ยง แอบได้ยินไอ้พวกคนงานที่บ้านพักคุยกัน ว่าไอ้เรืองผัวฉันกับไอ้เหว่งนัดกันเข้าไปในหมู่บ้าน เหมือนนัดผู้หญิงอะไรไว้นี่แหละจ้ะ สันดานเจ้าชู้ของมันแก้ยังไงก็ไม่หายซะที ทั้งที่ลูกเมียนั่งหัวโด่รอกินข้าวอยู่ที่บ้านแท้ๆ" "แล้วรู้เหรอว่ามันสองคนนัดกันที่ไหน" "ก็คงบ้านหลังนั้น ที่ประจำของมันสองคนแหละจ้ะพ่อเลี้ยง" บ้านที่ว่านี้คือบ้านที่เจ้าของย้ายออกไปตั้งถิ่นฐานที่อื่นแล้ว แต่สภาพบ้านยังดีอยู่ บางทีเด็กวัยรุ่นผู้ชายก็รวมกลุ่มกันไปตั้งวงกินเหล้าที่นั่น "เดี๋ยวฉันไปด้วย ถ้าไอ้เรืองผัวเอ็งมันทำเรื่องอย่างว่าจริงๆ ฉันจะจัดการให้" ชายหนุ่มเองก็นึกฉุน เพราะเขามีอคติกับผู้ชายที่ไม่มีความรับผิดชอบต่อลูกเมีย ต่อครอบครัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว "ขอบคุณจ้ะ พ่อเลี้ยง" ปฐวีทิ้งบุหรี่ในมือที่ยังไม่ได้จุดลงพื้น ใช้เท้าเหยียบๆ แล้วเดินกลับเข้าไปหยิบอาวุธติดกายไปด้วย ข่าวซุบซิบเรื่องใต้เตียงของผัวๆ เมียๆ ไม่ว่าจะอยู่ในสังคมแบบไหน ก็เป็นที่น่าสนใจของคนอื่นอยู่เสมอ คนงานที่ได้ยินข่าวเรื่องเรืองกับเหว่งที่แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็วปานไฟลามทุ่ง จึงตามมาสมทบกับเมียของเรืองอีกโขยงใหญ่ ก่อนจะตรงไปยังบ้านหลังดังกล่าว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม