ตอนที่ 3

1044 คำ
"ได้ข่าวอะไรบ้างหรือยังคะ" เขมจิราเอ่ยถามขณะเดินเคียงข้างร่างสูงไปยังรถที่จอดอยู่ในโรงรถ "ยังเลย แต่เดี๋ยวช่วงเย็นไอ้มิลจะแวะเข้ามา เมื่อคืนมันโทร.มาบอกว่ามีเบาะแสเพิ่มเติม แต่ก็น้อยนิดเหลือเกิน" ชายหนุ่มตอบกลับทันทีด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด "เรื่องมันก็ผ่านมาหกปีแล้ว เขมว่าคุณควรจะปล่อยวางได้แล้วนะคะ" "ไม่มีทาง! ยังไงผมก็จะหาตัวคนที่มันทำลายชีวิตพี่สาวผมมารับโทษให้ได้ และมันก็จะต้องชดใช้ด้วยชีวิตของมันเหมือนกัน!" "ชดใช้ด้วยชีวิตเลยเหรอคะ แต่ถึงยังไงเขาก็เป็นพ่อผู้ให้กำเนิดหนูทับทิมนะคะ" "พ่อเหรอ? คนแบบนั้นเรียกว่าพ่อได้เหรอ ถึงมันจะให้กำเนิดมาแต่มันก็ไม่เคยสนใจไยดี คุณไม่ใช่ผม ไม่ใช่คนในครอบครัวของผม คุณไม่มีทางเข้าใจความเจ็บปวดนั้นหรอก" "เขมขอโทษค่ะปัถย์ ต่อไปเขมจะไม่ถามและไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้อีกแล้ว เรารีบเข้าสวนกันเถอะนะคะ ป่านนี้คนงานคงรอแล้ว" เขมจิรารีบอ้อมไปขึ้นรถอีกฝั่ง เมื่อเผลอกวนอารมณ์พ่อเลี้ยงหนุ่มให้ขุ่นเข้าแล้ว พ่อเลี้ยงปฐวีสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับอารมณ์กรุ่นโกรธที่พุ่งปรี๊ด ก่อนจะก้าวขึ้นรถแล้วปิดประตูเสียงดัง จนคนที่นั่งรอสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ ต้นส้มบนพื้นที่กว่าร้อยไร่ แข่งกันอวดผลกลมมนสีส้มตัดกับสีเขียวของใบ ทำให้บรรยากาศของธรรมชาติโดยรอบดูสดใสและสดชื่น ปฐวีเองก็หายเหนื่อยเช่นกัน เมื่อผลผลิตรอบแรกของปีกำลังจะถูกส่งไปมาเลเซีย หลังจากเฝ้าฟูมฟักดูแลต้นส้มมาตลอดทั้งปี "ปีนี้ออกลูกดก เห็นแล้วก็ชื่นใจนะคะ" เขมจิราเอ่ยขึ้นขณะเดินเคียงข้างพ่อเลี้ยงหนุ่มไปตามทางเดินภายในสวน "ใช่ ชื่นใจจริงๆ" อากาศเย็นสบาย วิวสวยๆ ของสวนส้มที่ปลูกแบบขั้นบันได ช่วยให้อารมณ์เดือดปุดของชายหนุ่มสงบลงได้ "งั้นเรารีบไปกันเถอะค่ะ ป่านนี้คนงานคงรอกันแล้ว" ทั้งสองคนเดินไปตามทาง ตรงไปยังโรงงานคัดส้ม ซึ่งก่อนจะส่งออกผลผลิตในแต่ละล็อต ปฐวีจะคุมงานเอง เริ่มตั้งแต่กระบวนการคัดส้ม การแบ่งเกรด และการแพคใส่บรรจุภัณฑ์ ผลิตผลจากสวนส้มปัทมาตย์ สามารถการันตีคุณภาพของส้มได้เลยว่า อร่อย สด และปลอดภัย ทุกขั้นตอนผ่านกระบวนการที่พิถีพิถัน พ่อเลี้ยงหนุ่มคำนึงอยู่เสมอว่าหากผลิตผลไม่ได้มาตรฐาน หรือผิดพลาดไปเพียงนิดเดียว อาจทำให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภคได้ สำหรับสวนส้มปัทมาตย์แล้ว เรื่องความปลอดภัยจึงมาเป็นอันดับหนึ่งเสมอ ช่วงเย็นหลังจากงานในโรงงานเสร็จเรียบร้อย ปฐวีก็ตรงกลับบ้าน โดยมีเขมจิราขอติดรถกลับไปด้วย จนใกล้จะถึงเรือนไม้สักสไตล์ล้านนาที่ตั้งอยู่บนเนินเขา สามารถมองเห็นวิวสวนส้มด้านล่างได้อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นมรดกตกทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น บางส่วนก็สึกกร่อนไปตามกาลเวลา แต่เจ้าของคนปัจจุบันอย่างพ่อเลี้ยงหนุ่ม ก็คอยซ่อมแซมต่อเติม ดูแลรักษาให้มั่นคงแข็งแรงอยู่เสมอ ชายหนุ่มก็เอ่ยถามขึ้น "คุณจะให้ผมเลยไปส่งที่บ้านหรือเปล่า" "ไม่ต้องหรอกค่ะ จอดทีเดียวที่บ้านปัถย์ก็ได้ เดี๋ยวเขมเดินลัดเลาะไปทางด้านหลัง ยังไม่เย็นนัก เดินสูดอากาศไปเป็นการออกกำลังกายไปในตัวด้วยค่ะ" เขมจิรากับปฐวีเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ในสายตาของชายหนุ่ม เธอคือเพื่อนและเพื่อนร่วมงาน ทว่าในสายตาและหัวใจของหญิงสาว เขาคือคนที่เธอรักและหมายปองจะได้ครองคู่ เพราะไม่ว่าจะเป็นฐานะหน้าตาทางสังคม การศึกษา ความรู้ความสามารถ เหมาะสมกันทุกประการ ครอบครัวของเธอเองก็หมายมั่นอยากได้เขาเป็นลูกเขยด้วยเช่นกัน "งั้นก็ตามใจ แต่อย่าหาว่าผมปล่อยให้คุณเดินกลับบ้านเองทีหลังก็แล้วกัน" "ทำไมเขมต้องทำแบบนั้นด้วยละคะ ปัถย์คิดมากไปแล้ว" พ่อเลี้ยงหนุ่มไม่ตอบโต้อะไร เพียงแค่หัวเราะน้อยๆ ในลำคอ "ถึงแล้ว คุณลงไปก่อน ผมจะเอารถเข้าไปเก็บในโรงรถ" ร่างบางกระชับกระเป๋าและหยิบแฟ้มที่วางบนหน้าตัก ก่อนจะเปิดประตูลงไป เป็นจังหวะเดียวกับที่ทับทิมวิ่งออกมาเมื่อได้ยินเสียงรถ เขมจิราคลี่ยิ้มกว้างเมื่อเห็นหนูน้อยวิ่งออกมา ก่อนจะเอ่ยเสียงหวาน "รออยู่ตรงนี้ก่อนนะคะทับทิม คุณพ่อเอารถเข้าไปเก็บในโรงรถ เดี๋ยวก็มาค่ะ" "ค่ะ น้าเขมกลับมาพร้อมคุณพ่อเหรอคะ" หนูน้อยเอียงคอถามอย่างสงสัย "ใช่แล้วค่ะ ก็ที่นี่เป็นทางผ่านกลับบ้านน้าเขมนี่คะ ก็เลยขอติดรถมาด้วย ที่จริงคุณพ่อของทับทิมจะไปส่งน้าที่บ้าน แต่น้าอยากแวะทักทายทับทิมก่อนก็เลยขอลงที่นี่ค่ะ" อยากทักทาย หรืออยากอยู่ใกล้พ่อกันแน่... หนูน้อยลอบเบ้ปากไม่ให้อีกฝ่ายเห็นพลางคิดในใจ "ค่ะ คุณพ่อมาแล้วค่ะ คุณพ่อขา..." เขมจิรารีบหันไปหาร่างสูงกำยำที่กำลังเดินตรงมา จึงไม่ทันสังเกตว่าหนูน้อยยืนมือมาจับกระโปรงของตัวเอง ก่อนจะวิ่งเข้าไปกระโดดสวมกอดบิดาด้วยความดีใจ "หนูคิดถึงและนั่งรอคุณพ่อทั้งวันเลยค่ะ" "ขนาดนั้นเชียว" ผู้เป็นบิดาถามพลางหอมแก้มกลมๆ ทั้งสองข้างด้วยความรักใคร่ "ขนาดนั้นเลยค่ะ" หนูน้อยยืนยันคำพูดด้วยการยกแขนป้อมขึ้นไปกอดหมับที่ต้นคอจนแน่น เมื่อพ่อเลี้ยงหนุ่มนั่งยองๆ ลง "โอเคค่ะ พ่อเชื่อแล้ว ปล่อยก่อนนะ พ่อหายใจจะไม่ออกอยู่แล้วเนี่ย เอ๊ะ! อะไรติดอยู่ที่กระโปรงคุณน่ะเขม" ปฐวีกำลังจะอุ้มลูกสาวขึ้น แต่สายตาดันเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างสีเขียวๆ ติดอยู่ที่กระโปรงของผู้จัดการสาวเข้าซะก่อน "อะไรเหรอคะ"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม