ทานตะวัน Talks
“อือ ปวดหัวจัง”
ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหัวสุด ๆ มองไปรอบ ๆ ห้อง คอนโดเรานี่ ดีนะไม่ไปโผล่คอนโดใครก็ไม่รู้อีก ตั้งแต่ครั้งนั้นเมื่อห้าปีก่อนฉันไม่กล้าดื่มเหล้าอีกเลย บอกตามตรงว่า กลัว...กลัวพลาดอีกครั้ง
ใครพามาส่งที่ห้องนะ จำได้ว่าเธอสำลักข้าวปั้นญี่ปุ่น เลยคว้าสาเกมาดื่ม จากนั้นก็จำอะไรไม่ค่อยได้ เอ๊ะ เหมือนฉันจะได้กลิ่น กลิ่นหอมอะไร...ใครทำกับข้าว
ฉันเดินออกมาที่ห้องครัว...ก็ไม่มีใครอยู่ มองไปมองมาบนโต๊ะกินข้าวมีฝาชีครอบกับข้าวไว้...พร้อมโน้ต
“ทานข้าวต้มร้อน ๆ แล้วนอนพักจะดีขึ้น ขอโทษที่กลับโดยไม่ได้บอก ผมมีคนไข้ด่วน ...ก้อง”
“หือ...”
หมอก้อง...อยู่ห้องฉันทั้งคืนงั้นเหรอ เพื่อไม่ให้ความสงสัยติดอยู่ในใจตัวเองนาน ฉันรีบต่อสายหาเพื่อนรักทันที
“เมญ่า”
“อือ ว่าไง” เสียงปลายสายเหมือนยังไม่ตื่น
“เมื่อคืนทำไมหมอก้องมาส่งฉันได้”
“......”
“เมญ่า!” เมื่อไม่ได้คำตอบ ฉันเลยต้องถามเสียงดังกว่าเดิม จนเกือบกลายเป็นเสียงตะโกนด้วยซ้ำ
“อือ จะตะโกนทำไม”
“ฉันถามว่า ทำไมหมอก้องถึงมาส่งฉันได้”
“ก็หมอก้องเขาอาสาไปส่ง”
“เขาขอ...เธอก็ให้มาเนี่ยนะ ไม่เคยห่วงเพื่อนเลย”
ฉันจะบ้าตาย เพื่อนฉันมันห่วงความปลอดภัยของฉันบ้างไหมเนี่ย
“อือ เท่านี้นะง่วง”
“เออ” ฉันตอบไปแบบอารมณ์เสียสุด ๆ บ้าที่สุด คนที่ฉันคอยหลีกเลี่ยง ไม่อยากพบเจอดันมาส่งฉันถึงคอนโด แถมนอนอยู่ห้องเดียวกับฉันทั้งคืน บ้าไปแล้ว...ต่อไปอย่าไปเจอเขาอีก ใจเธอไม่ได้เข้มแข็งขนาดนั้น
แค่คิดแค่นี้หน้าฉันก็ร้อนขึ้นมาทันที
เดี๋ยวนะฉันลืมอะไรไปหรือเปล่า
ทำไม...ใส่ชุดนอนล่ะ อย่าบอกนะว่าหมอก้องเปลี่ยนให้ แล้วเขาจะเห็นอะไรอีกไหม ทานตะวันต่อไปเธอห้ามดื่มอีกเด็ดขาดเลยนะ
ระว่างที่ฉันกำลังเถียงกับตัวเองอยู่นั้น เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ที่ฉันถืออยู่ก็ดังขึ้น ทว่าไม่ใช่คนที่ฉันเมมชื่อไว้
“ค่ะ ทานตะวันค่ะ”
“ก้องภพครับ”
“คะ...” โทรมาทำไม
“ผมโทรมาปลุกเผื่อตะวันยังไม่ตื่น” เดี๋ยวนะเรียกตะวัน...เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นไหม...อย่าทำแบบนี้หมอก้อง ใจของตะวันได้บางลงอีก
“เอ่อ...ขอบคุณนะคะ”
“ครับ”
แล้วที่ฉันหนีเขามาตั้งห้าปีล่ะ บอกเลยพังพินาศ สุดท้ายก็วนมาจุดเดิม...จุดที่ฉันเมาแล้วอยู่กับเขา ดีนะเมื่อคืนไม่ได้เกิดอะไรขึ้น
ตอนนั้น...ห้าปีที่แล้ว...ครั้งแรกที่ฉันดื่ม
วันนั้น วันก่อนวาเลนไทน์ ฉันไปเที่ยวผับครั้งแรก เพราะเป็นวันที่ฉันอายุครบยี่สิบปี...ใช่ มันคือวันก่อนวันเกิดฉันหนึ่งวัน วันวาเลนไทน์คือวันเกิดฉัน วันแห่งความรัก...แต่คนเกิดวันนี้ดันไม่เคยมีความรัก
ไม่ได้ดื่มมาก...แต่เมา...
ฉันมาถึงคอนโด จำได้ว่าจะเปิดประตูเข้าห้องปกติ แล้วก็ฝันว่าเห็นคนที่อยู่ห้องตรงข้ามนอนหลับคาประตู ก็เลยหวังดีจะลากเขาเข้าห้องของเขา แล้วจะกลับมาที่ห้องตัวเอง แต่เขาดันระดมจูบฉันอย่างที่ไม่คาดคิด เอาวะในเมื่อเป็นความฝันก็ให้มันเต็มที่ไปเลย เหมือนฝัน...เป็นอะไรที่วาบหวิวสุด ๆ
ฝันแล้วเจ็บด้วยเหรอ...คิดแค่นั้น แต่ก็ด้วยความเมา...ก็เลยไปต่อให้สุดทาง
พอตื่นมาตอนเช้า...ทุกอย่างดันไม่ปกติ เพราะห้องที่ฉันนอนมันไม่ใช่ห้องฉัน แล้วมันห้องใครวะ...
“เชี่ย” เสียงอุทานของผู้ชายที่นอนข้าง ๆ ฉันอยากจะให้มันเป็นเพียงความฝัน แต่มันไม่ใช่ฝันแล้วน่ะสิ เพราะ...มันดันเจ็บจริง...เลือดจริง
“ก้องนี่มันอะไร” เสียงผู้หญิงอีกคนที่เข้ามาในห้อง...ก้องเหรอ...หวังว่าคงไม่ใช่ก้องเพื่อนปั้นที่เคยเจอตอนไปหาปั้นกับเมญ่านะ...โลกคงไม่กลมขนาดนั้น
“ขวัญฟังก้องก่อน”...ขวัญ อย่าบอกว่า...ของขวัญนะ
“ขวัญ ขวัญ”
พอทั้งสองคนออกจากห้องไปฉันก็รีบออกจากห้องนั้น ใช่ มันไม่ใช่ห้องของฉัน ห้องฉันอยู่ถัดไปอีกสองห้อง จะบ้าตาย จะเมาอะไรขนาดนั้น เจ็บจัง...เขาป้องกันไหมนะ...แล้วคนที่ฉันนอนด้วย เขาคือก้องภพ เพื่อนของปั้นจริง ๆ ดูจากรูปที่อยู่ในห้อง ซึ่งจัดวางไว้ทุกมุม แล้วยังมีกรอบรูปขนาดใหญ่แขวนอยู่บนผนังห้องอีก
หลังจากวันนั้นฉันก็ได้ยินข่าวว่าของขวัญหยุดเรียนไปเกือบสัปดาห์ แล้วมีข่าวว่าของขวัญกับปั้นคบกัน เป็นเพราะฉันใช่ไหม...ก้องกับขวัญ...เขาถึงเลิกกัน
เราบังเอิญเจอกันอีกครั้งตอนที่ไปออกค่าย แต่ก็ไม่ค่อยได้คุยกัน
แล้วไม่เจอกันอีกเลยจนฉันเรียนจบ ส่วนหมอก้องเรียนปีหก ...เราเจอกันอีกทีตอนหมอก้องไปเป็นแพทย์ฝึกหัดที่โรงพยาบาลจันทบุรี ส่วนฉันไปเที่ยวกับเมญ่า เรามีพูดคุยกันนิดหน่อย จากนั้นก็ไม่เจอกันอีกเลย
จนกระทั่งเจอกันเมื่อวาน ฉันก็พาเขาขึ้นห้อง เฮ้อ...
ถ้าเขารู้ว่าฉันคือผู้หญิงคนเดียวกับเมื่อห้าปีก่อน และเป็นคนที่ทำให้เขากับของขวัญเลิกกัน เขาคงไม่ใจดีทำข้าวต้มให้กินแบบนี้หรอก