หลังจากกลับถึงบ้านในตอนเย็นของวันนั้น เพลงขวัญก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อช่วยงานบ้านบุปผาเหมือนเช่นทุกครั้ง พอเสร็จจากงานเธอก็กลับไปที่ห้องของตัวเองเพื่อนำชุดตรวจครรภ์อันใหม่ที่ซื้อมา ลองทดสอบดูอีกครั้งแต่ผลมันก็ยังขึ้นมาเป็นสองขีดเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
“มันจะเป็นไปได้ยังไง” ความสับสนแล่นปราดขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะหยิบมือถือขึ้นมาเลื่อนหาข้อมูลจนพบว่ายาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้แค่เจ็ดสิบห้าเปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่ถ้ากินภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงประสิทธิภาพก็จะขึ้นมาเป็นแปดสิบห้า
แต่วันนั้นเธอดันปล่อยเวลาให้ล่วงเลยมานานแล้วค่อยกินไป ผลลัพธ์ที่ได้คือยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ที่เหลือ
“แล้วฉันจะทำยังไงดี” เพลงขวัญพยายามคิดหาทางออก สิ่งแรกที่แวบเข้ามาในหัวคือการทำแท้ง แต่เธอก็ยังไม่กล้าพอที่จะไปทำอยู่ดี
“ยัยขวัญ!” ในขณะที่กำลังคิดหนักอยู่นั้น จู่ ๆ พิมพ์พลอยก็กระชากประตูเปิดออกทำให้เจ้าของห้องไม่ทันได้ตั้งตัวรีบปัดชุดตรวจครรภ์ทิ้งบนพื้นแล้วหันไปเอ่ยถามคนมาใหม่
“พี่พิมพ์ ทำไมไม่เคาะประตูก่อนล่ะคะ”
“นี่มันบ้านของฉัน ฉันจะเดินไปไหนมันก็เรื่องของฉัน” อีกฝ่ายถือวิสาสะเข้ามาในห้อง สายตาที่มองมาทำให้เพลงขวัญรู้สึกได้ทันทีว่าพิมพ์พลอยต้องมาหาเรื่องอะไรเธออีกแน่ “แกมันเป็นแค่ปรสิต หัดสำเหนียกตัวเองซะบ้าง”
“แต่นี่มันห้องส่วนตัวของหนูนะคะ อย่างน้อย...”
“ฉันเองก็ไม่อยากจะเข้ามาในห้องแคบ ๆ เท่ารังหนูนี่หรอกนะ แต่ฉันมีเรื่องต้องคุยกับแกให้รู้เรื่อง” พิมพ์พลอยสวนกลับทันควันทั้งที่เพลงขวัญยังพูดไม่ทันจบ
“เรื่องอะไรคะ”
“ก็เรื่องคุณราเมศร์ไง ได้ยินพนักงานที่โรงแรมคุยกันว่าวันนี้แกพาเขาเดินชมรอบโรงแรมแล้วหว่านเสน่ห์ใส่จนเขามองแกตาเชื่อม”
“อะไรจะขนาดนั้นคะ หนูก็ทำเหมือนเขาเป็นแขกปกตินั่นแหละค่ะ พี่พิมพ์คิดมากไปเองหรือเปล่าคะ” หญิงสาวอธิบาย
“ทำเป็นเรื่องปกติ งั้นก็หมายความว่าแกแกล้งเป็นลมเวลาไปส่งลูกค้าทุกคนอย่างนั้นสิ”
“หนูไม่ได้แกล้งนะคะ หนูท้องเสียจะอาเจียนจริง ๆ ”
“แกอย่านึกนะว่าฉันมองไม่ออกว่าแกกำลังคิดอะไรอยู่ ขนาดคุณราเมศร์เขาลงทุนซื้อน้ำหอมราคาเป็นแสนมาให้ แสดงว่าแกคงจะไปอ่อยจนเขาติดใจแล้วใช่ไหมล่ะ” พิมพ์พลอยบีบแขนเรียวเอาไว้แน่นด้วยความโกรธ “แกมันเป็นแค่ลูกคนใช้ อย่าคิดมาตีเสมอฉัน คุณราเมศร์เขาไม่คู่ควรกับคนต่ำต้อยอย่างแกหรอก...จำไว้”
“แต่คุณราเมศร์เขามีภรรยาอยู่แล้วนะคะ เขาเพิ่งบอกหนูวันนี้นี่เอง”
“แกว่าไงนะ” อีกฝ่ายชะงักไปทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น
“เขาบอกว่าภรรยาเขาก็กำลังท้อง...”
“แกไม่ต้องมาตอแหล คงจะหาเรื่องมาอ้างไม่ให้ฉันไปยุ่งกับคุณราเมศร์น่ะสิ มันไม่ได้ผลหรอกนะ”
พอพูดจบ เธอก็ออกแรงผลักเพลงขวัญจนอีกฝ่ายเซไปชนเข้ากับขอบโต๊ะทำให้ข้าวของที่อยู่บนนั้นล้มเกลื่อนกลาดไปทั้งห้อง ดึงดูดสายตาให้พิมพ์พลอยมองตามจนกระทั่งไปสะดุดเข้ากับชุดตรวจครรภ์ที่ตกอยู่ตรงมุมห้อง
“นั่นอะไรน่ะ”
“ไม่มีอะไรค่ะ” เพลงขวัญรีบใช้ตัวเองบังสิ่งนั้นเอาไว้แต่ก็ถูกอีกฝ่ายผลักเธอออกไปจนพ้นทางแล้วรีบหยิบมันขึ้นมา
“ไม่มีอะไรได้ยังไง” พิมพ์พลอยคลี่ยิ้มอย่างผู้ชนะเมื่อสามารถแย่งของชิ้นนั้นขึ้นมาได้ พอเธอละสายตาจากเพลงขวัญจ้องมองแถบสีแดงที่ปรากฏขึ้นบนนั้น คิ้วคู่สวยก็ขมวดเข้าหากันเป็นปมทันที “ยัยขวัญ...นี่แกท้องเหรอ”
“ไม่ใช่นะคะ...”
“จะไม่ใช่ได้ยังไง ก็นี่ไงสองขีด...ฉันไม่ได้โง่นะ คนที่ท้องน่ะเป็นแก ไม่ใช่ภรรยาคุณราเมศร์หรอกนะ” รอยยิ้มร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าพร้อมกับเสียงหัวเราะถากถาง “แบบนี้ก็แสดงว่าคืนนั้น แกได้สนุกกับเพื่อนฉันน่ะสิ พวกมันคงจะเมาหนักจนจำไม่ได้ซะมากกว่า ตอนส่งข้อความไปถามถึงได้ปฏิเสธ”
“นี่พี่ตั้งใจจะทำลายชีวิตหนูขนาดนี้เลยเหรอ”
“ใช่ ยิ่งแกออกไปจากบ้าน ออกไปจากชีวิตของพวกเราได้ก็ยิ่งดี” ว่าแล้วพิมพ์พลอยก็นำที่ตรวจครรภ์ถือไว้ในมือแน่นแล้วตรงดิ่งไปเคาะประตูเรียกภูริตทันทีในขณะที่เพลงขวัญก็พยายามขอร้องให้เห็นใจ
“อย่าบอกพ่อนะพี่พิมพ์...ขอร้อง”
“เรื่องใหญ่ขนาดนี้จะไม่ให้บอกได้ยังไง แกไม่ดีใจเหรอ พ่อคงจะภูมิใจในตัวแกมากเลยล่ะ” อีกฝ่ายยิ้มอย่างผู้ชนะ บรรจงเคาะประตูเรียกพ่อกับแม่อีกครั้ง “พ่อคะ แม่คะ พิมพ์มีเรื่องจะคุยด้วยหน่อยค่ะ”
“อะไรกันยัยพิมพ์ ดึกป่านนี้แล้วยังไม่นอนอีกหรือไง” หลังจากเคาะประตูเรียกเพียงไม่นาน นุชรีก็เปิดประตูออกมาด้วยสีหน้างุนงง “มีอะไร เกิดอะไรขึ้น”
“คุณพ่อล่ะคะ”
“พี่พิมพ์...อย่า...ขอร้อง...ฮือ...” เพลงขวัญกระพุ่มมือไหว้ด้วยความหวาดกลัวในขณะที่ภูริตก้าวเดินออกมาจากห้องเอ่ยถามขึ้นอีกคน
“มีอะไรกัน เอะอะโวยวายดังลั่นบ้าน”
“พิมพ์มีของขวัญจะให้คุณพ่อดูน่ะค่ะ” ว่าแล้วพิมพ์พลอยก็วางที่ตรวจครรภ์นั้นลงบนฝ่ามือใหญ่ของบิดา “ท้าดา...เซอร์ไพรส์ไหมคะ”
“นี่มันอะไรกันยัยพิมพ์ แกท้องเหรอ”
“ไม่ใช่ของหนูนะพ่อ ของลูกรักของพ่อต่างหาก ยัยขวัญเขาท้องค่ะ” หญิงสาวยิ้มตอบพลางผายมือไปที่คนตัวเล็กที่ยังยืนอยู่ข้างหลัง ถึงตอนนั้นเพลงขวัญก็เข่าทรุด รีบกระพุ่มมือไหว้ผู้เป็นพ่อทันที
“ฮือ...พ่อ หนูขอโทษ”
“ตายแล้วคุณ...เห็นว่าเรียบร้อย ทำแต่งานอยู่แต่บ้าน ทำไมถึงท้องได้ล่ะคะเนี่ย” นุชรีได้ทีจึงรีบใส่ไฟ ภูริตจึงต้องเค้นถามลูกสาวอีกครั้ง
“จริงเหรอยัยขวัญ แกท้องจริงๆ เหรอ”
“ค่ะพ่อ...หนูขอโทษ...หนูไม่ได้ตั้งใจ” เพลงขวัญสารภาพผิดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลนองอาบแก้ม
“แล้วแกท้องกับใคร”
“หนู...หนูไม่รู้ค่ะพ่อ ฮือ...” หญิงสาวก้มหน้ายอมรับไปตามความเป็นจริง คืนนั้นเธอไม่รู้เลยว่าหลังจากที่ราเมศร์พาเธอมาส่งที่โรงแรม เขาอาจจะทิ้งเธอไว้แล้วมีใครอีกคนหิ้วเธอเข้าห้องไป เพราะตอนที่ตื่นมา เธอไม่ได้สังเกตเห็นหน้าอีกฝ่ายด้วยซ้ำ
“แกว่าไงนะ แกจะบอกว่าแกนอนกับไปทั่วจนไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อของลูกแกงั้นเหรอ”
“ใจเย็นก่อนนะคุณ ค่อยๆ พูดกันก็ได้” นุชรีแกล้งจีบปากจีบคอปลอบใจสามี “แกจำไม่ได้จริง ๆ เหรอขวัญ ว่าแกไปนอนกับใคร”
“คงจะหลายคนคงนึกไม่ออกมากกว่าค่ะแม่” พิมพ์พลอยหัวเราะชอบใจ ภูริตจึงต้องหันไปถามเพลงขวัญด้วยตัวเอง
“กี่เดือนแล้วขวัญ”
“ประจำเดือนหนูไม่มาเดือนกว่าแล้วค่ะ”
“เดือนกว่า...มันก็เท่ากับตอนที่ฉันพาแกไปฝรั่งเศสเลยนี่” เขาสันนิษฐาน ยิ่งทำให้พิมพ์พลอยกับนุชรีชอบใจ
“คงจะเป็นลูกฝรั่งตาน้ำข้าวมั้งคะ แบบนี้คงจะตามหาตัวยากเพราะยัยขวัญจำไม่ได้ด้วยว่าไปนอนกับใคร”
“ฮือ...พ่อ หนูขอโทษ” มือเรียวเอื้อมไปจับเท้าของบิดาไว้ก่อนจะก้มลงกราบลงบนนั้นด้วยความรู้สึกผิด “พ่ออย่าโกรธหนูเลยนะ...”
“แบบนี้จะเอายังไงดีคะคุณ ที่โรงแรม ใคร ๆ เขาก็เข้าใจว่ายัยขวัญเป็นหลานของคุณ เกิดท้องไม่มีพ่อแบบนี้มันจะไม่ส่งผลมาถึงคุณจริง ๆ เหรอคะ ยิ่งตอนนี้คุณเองก็บอกว่าสถานการณ์ที่โรงแรมไม่ค่อยจะสู้ดีด้วย ฉันเกรงว่า...มันจะยิ่งส่งผลเสียต่อบริษัทนะคะ” นุชรีพยายามยุแหย่ จ้องมองคนตัวเล็กที่กำลังร้องไห้ด้วยความสะใจ
“ฮือ...หนูขอโทษค่ะป้านุช หนู...ผิดไปแล้ว” เพลงขวัญเงยหน้าขึ้นร้องขอความเห็นใจ “หนูขอโทษค่ะพ่อ...หนูไม่ได้ตั้งใจ...ฮือ...”
“เลิกพูดว่าขอโทษสักทีเถอะ พูดไปแล้วจะมีอะไรดีขึ้นมาไหม” ภูริตดึงเท้ากลับ สายตาที่มองหน้าลูกสาวมีแต่ความผิดหวัง “เสียแรงที่ฉันเอ็นดูและส่งเสียเลี้ยงดูแกจนได้มีงานทำ แต่แกดันตอบแทนฉันด้วยวิธีแบบนี้ ฉันผิดหวังในตัวแกจริง ๆ ”
“พ่อ...หนูขอโทษ”
“เก็บเสื้อผ้าแล้วออกไปจากบ้านฉันซะ แล้วก็ไม่ต้องไปทำงานที่โรงแรมอีก นับตั้งแต่วันนี้ฉันจะขอตัดขาดกับแกทุกทาง ต่อให้ฉันตายแกก็ไม่ต้องมาเผาผี!” เสียงทรงอำนาจตวาดกร้าวเหมือนสายฟ้าที่ฟาดลงกลางใจของเพลงขวัญ
“ฮือ...พ่อ...ไหนพ่อสัญญากับแม่ว่าจะดูแลหนูไง ฮือ...”
“ก็แกมันไม่รักดี จะให้ฉันเลี้ยงดูแกให้เปลืองข้าวสุกอีกทำไม ออกไปจากบ้านฉันซะ แล้วอย่ากลับมาที่นี่อีก” พูดจบ ภูริตก็หมุนตัวกลับเข้าไปในห้องแล้วกระแทกประตูปิดเต็มแรงด้วยความโกรธ
“ได้ยินแล้วใช่ไหมขวัญ” นุชรีอดไม่ได้ที่จะหันมายิ้มเยาะ “รีบออกไปสิ จะให้พ่อแกมาไล่อีกรอบหรือไง”
“ไปสิ ไป...ยังไม่ไปอีก” พิมพ์พลอยขบกรามแน่น ก่อนจะออกแรงกระชากร่างบางกลับลงไปที่ห้องคนรับใช้ชั้นล่าง ท่ามกลางสายตาของบุปผาและทับทิมที่เข้ามาห้ามไว้ด้วยความตกใจ
“อะไรกันคะคุณพิมพ์ ทำไมต้องทำรุนแรงขนาดนี้ด้วย”
“ก็หลานสาวตัวดีของป้าน่ะสิ มันไปท้องกับผู้ชาย แถมยังไม่รู้ด้วยนะว่าใครเป็นพ่อของเด็ก ตอนนี้คุณพ่อไล่มันออกจากบ้านไปแล้ว ใครให้ความช่วยเหลือมัน ฉันก็จะไล่ออกไปด้วย” พิมพ์พลอยกระแทกเสียงใส่ เธอปรายมองน้องสาวนอกไส้อีกครั้งแล้วจึงกลับขึ้นไปบนบ้าน ถึงตอนนั้นทั้งบุปผาและทับทิมก็รีบทรุดกายนั่งลงเคียงข้างเพลงขวัญเพื่อจะถามให้รู้ความ
“จริงเหรอขวัญ”
“จริงค่ะป้าบุปผา หนูท้องจริง ๆ ฮือ...” คนตัวเล็กก้มหน้าตอบทั้งที่น้ำตายังไหลไม่ขาดสาย
“ตายแล้ว ขนาดคนกำลังท้องอยู่ยังจะไล่ให้ออกไปลำบากข้างนอกอีก คุณท่านก็เหลือเกินจริง ๆ ”
“หรือว่าแกจะออกไปอีกคนล่ะนังทับทิม” เสียงแหลมเล็กของนุชรีดังขึ้นเพราะรู้ดีว่าคนรับใช้ทั้งสองต้องถ่วงเวลาเอาไว้ “รีบเข้าไปเก็บของสิ จะมัวพิรี้พิไรอยู่ทำไม”
“ค่ะ...” เพลงขวัญไม่มีทางเลือกจึงต้องหันไปกล่าวลาคนทั้งสอง “หนูไปก่อนนะคะ ขอบคุณป้าบุปผากับพี่ทับทิมมากนะ ที่ดูแลหนูมาตลอด”
พูดจบ หญิงสาวก็กลับเข้าไปในห้อง ใช้เวลาเก็บข้าวของเพียงไม่นานเธอก็กลับออกมาอีกครั้งโดยที่นุชรีเองก็ยังรอดูให้แน่ใจว่าเธอออกไปจากบ้านแล้วจริง ๆ