บทที่ 1
"คุณก็จะไปทำงานที่เกาหลีเหมือนกันเหรอคะ" นางสาวผ่องอำไพ (ก่อนยายจะเสียได้ตั้งชื่อนี้ไว้ให้ เธอก็เลยไม่เปลี่ยน) มีชื่อเล่นว่า น้ำ อายุ23 สูง160 น้ำหนัก52 ผิวพรรณไม่ค่อยขาวมากนักเพราะเธอเป็นคนจังหวัดหนองคาย แต่ก็ไม่ใช่ค**ำหน้าตาจะออกไปทางน่ารักมากกว่า
"ครับ" ชายหนุ่มร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างหญิงสาวตัวเล็กหันไปตอบคำถามเธอ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท
"คุณไปแบบท่องเที่ยวหรือไปแบบทำงานผิดกฎหมายคะ"
"ถูกกฎหมายครับ" นายภูสิษฐ์นักธุรกิจ เขาเป็นคนร่างสูง หน้าตาดีหล่อเหลา อายุ 30 โสดแต่ไม่สดเพราะมีแฟนมาแล้วหลายคน ส่วนมากจะเบื่อผู้หญิงก่อนประจำ
วันนี้เขาต้องรีบไปประชุมงานที่ประเทศเกาหลีใต้ด่วน จองตั๋วเครื่องบินชั้นธุรกิจก็ไม่ทัน ถ้าจะรอเครื่องต่อไปคงประชุมไม่ทันก็เลยต้องนั่งชั้นธรรมดาไปกับคนอื่น
"คุณเป็นคนกรุงเทพฯ เหรอคะหน้าตาดีเชียว" เพราะเธอฟังสำเนียงที่เขาพูดแล้วมันไม่แปร่งเลย
"ครับ" ผู้หญิงคนนี้จะอะไรนักหนา ..เขาได้แต่คิดว่าถ้าไม่รีบจริงๆ ก็คงไม่มานั่งฟังผู้หญิงพูดมากแบบนี้หรอก
"ฉันขอเข้าห้องน้ำหน่อยค่ะ"
พอเครื่องนิ่งแล้วผ่องอำไพที่นั่งอยู่ด้านในริมหน้าต่าง ส่วนภูสิษฐ์นั่งอยู่ด้านนอก เขาต้องได้ขยับให้เธอเดินออกไปก่อน
"ท่านประธานเปลี่ยนที่นั่งกันไหมครับ" ภวัฐผู้ช่วยคนสนิทของภูสิษฐ์นั่งอยู่ด้านหลัง
"ไม่เป็นไร" ชายหนุ่มคิดว่าถ้าจะย้ายตอนนี้มันอาจจะดูไม่ค่อยดี ก็เลยไม่ย้ายดีกว่า
"ขอเข้าไปหน่อยค่ะ คุณไม่เข้าห้องน้ำเหรอคะห้องน้ำว่างแล้วนะ"
"ไม่ครับ"
"จริงๆ แล้วฉันก็ไม่อยากจะมาหรอก แต่ต้องได้หาเงินมาเลี้ยงครอบครัวฉันเป็นพี่สาวคนโตมีน้องอีกสองคนที่กำลังเรียนอยู่ พ่อก็ไม่ค่อยสบายแต่ต้องดูแลน้องเพราะไม่มีแม่แล้ว"
พอบรรยายเรื่องครอบครัวของตัวเองเสร็จ หญิงสาวก็พูดเรื่องหมู่บ้านของเธอต่อ เริ่มตั้งแต่งานปีใหม่ บุญเดือนสี่คือบุญมหาชาติ ต่อด้วยบุญเดือนหกคือบุญบั้งไฟ มีงานที่ไหนเธอก็เล่ามาหมด และยังเล่าไปถึงวันออกพรรษาที่หนองคายมีบั้งไฟพญานาค~~
"คุณง่วงแล้วเหรอคะ ฉันพูดมากไปไหม คุณเป็นคนกรุงเทพฯอาจจะไม่รู้เรื่องของทางภาคอีสานเท่าไร แต่บ้านเราสนุกนะคะ ถ้าคุณกลับมาจะไปเที่ยวบ้านฉันก็ได้นะแต่ต้องรอถึงอีกห้าปีนะ เพราะฉันคิดว่าจะหลบ ตม.ทำงานอยู่ที่เกาหลีเลย"
พอได้ยินเธอพูดประโยคเมื่อสักครู่เขาถึงได้หันมามองดูหน้า เธอก็จัดว่าเป็นคนสวยคนหนึ่ง ถ้าไม่พูดมากก็คงจะดีกว่านี้
"คุณมาคนเดียวเหรอ" จากที่เขานั่งฟังเธอบรรยายมาเป็นชั่วโมงๆ เขาก็เลยถามเธอบ้าง
"ใช่ค่ะ เพราะฉันมีเพื่อนทำงานอยู่ที่เกาหลี พอถึงแล้วคิดว่าจะติดต่อเพื่อนไป แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะมารับได้ไหมต้องเสี่ยงดวงดู"
อะไรของเธอยังไม่รู้ว่าเพื่อนจะมารับได้ไหม ยังกล้ามาก่อนอีก
[สนามบินเกาหลีใต้]
ผ่องอำไพผ่านตม.ได้อย่างง่ายดาย เพราะเธอพูดภาษาอังกฤษได้ เธอเป็นคนชอบเรียนรู้ อาจจะเรียนไม่สูงนักจบแค่ปวช. ต้องรีบออกมาทำงานช่วยพ่อ
"ผู้หญิงคนนั้นนี่ครับท่านประธาน" ภวัฐหันไปพูดกับภูสิษฐ์เมื่อเห็นผ่องอำไพยืนอยู่เหมือนกับเธอรอใครสักคน
พอทั้งสองได้กระเป๋าแล้วก็ลากออกมาด้านนอก ชายหนุ่มมองไปดูหญิงสาวนิดหนึ่ง
ผ่องอำไพพยายามโทรศัพท์หาเพื่อนแต่เพื่อนก็ไม่รับสาย เธอมองซ้ายมองขวาไปเจอเขาเข้าพอดี ก็รีบลากกระเป๋าวิ่งตามหลังเขามา "คุณยังไม่ไปอีกหรือค่ะ"
พอชายหนุ่มได้ยินเสียงที่คุ้นหู เขาก็หันกลับมา
"คุณจะไปไหนคะ ฉันขอไปด้วยได้ไหม ติดต่อเพื่อนไม่ได้เลย จะอยู่ตรงนี้ก็ไม่ได้เดี๋ยวพนักงานที่สนามบินเห็น คงจะส่งฉันกลับแน่เลย" เธอพยายามขอร้องอ้อนวอนเขา
"ให้เธอไปด้วยนะครับ" ภวัฐก็พูดช่วยผ่องอำไพอีกแรง
เพราะเป็นคนบ้านนอกเหมือนกัน ภวัฐเขาเป็นคนนครราชสีมา ก็เลยสงสารมาต่างถิ่นต่างแดน แต่ไม่มีที่ไป
"อือ" เขาตอบตกลงโดยที่ไม่ได้เอ่ยปาก แค่เปล่งเสียงออกมาจากลำคอ
ภูสิษฐ์เช่ารถไว้แล้วภวัฐเป็นคนขับให้
"พวกคุณสองคนเป็นเพื่อนกันเหรอคะ หรือเป็นเจ้านายกับลูกน้อง แล้วคุณมาทำงานนี่คืองานอะไรคะ" ทีแรกเธอนึกว่าเขามาทำงานแบบเดียวกับเธอ เห็นแต่งตัวธรรมดาแต่พอมาเจอลูกน้องที่ขับรถให้คงไม่ธรรมดาแล้ว
"ผมก็มาทำงานจริงๆ แต่งานของผมกับงานของคุณไม่เหมือนกัน"
เอาแล้วไง..นี่เราปล่อยไก่ไปตั้งหลายตัวเลยเหรอเนี่ย ถึงจะนึกได้ตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว
คนสนิทของเขาขับรถมาจอดที่แห่งหนึ่ง แล้วก็หันกลับมาพูดกับเธอ "รอพวกเราอยู่ที่รถนะ ท่านประชุมเสร็จเดี๋ยวเราก็จะออกมา แล้วค่อยไปพักด้วยกัน"
ผ่องอำไพพยักหน้าเล็กน้อย
แล้วทั้งสองก็เดินเข้าไปในสถานที่แห่งนั้นคล้ายบริษัท แต่เธอก็ไม่แน่ใจเพราะมันเป็นภาษาเกาหลี ผ่องอำไพไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับประเทศเกาหลีเลยเธอเสี่ยงมามั่วๆ เผื่อจะได้งานทำ
เวลาผ่านไปทั้งสองก็ออกมาจากบริษัทนั้น
"เป็นไงล่ะ คนดีของนาย"
ตอนนี้ผ่องอำไพนอนหลับอยู่ที่เบาะรถด้านหลัง
"ไปโรงแรมที่จองไว้เลยนะ" ภูสิษฐ์นั่งเบาะหน้าไปกับภวัฐเพราะเบาะหลังมีคนจองแบบนอนยาวเลยทีเดียว
โรงแรมที่จองไว้..
"นายเข้าไปเปิดห้องเพิ่มอีกห้องนึงนะ เผื่อยัยจอมยุ่งนี่ด้วย"
พอผู้ช่วยของเขาลงรถไปแล้ว "นี่เธอ ตื่นได้แล้ว!" ภูสิษฐ์พยายามจะปลุกเธออยู่นานพอสมควรกว่าเธอจะตื่นได้
"ที่นี่ที่ไหนคะ?" หญิงสาวลืมตาขึ้นมาก็รีบลุกขึ้นแล้วมองซ้ายมองขวา
"ถึงที่พักแล้ว ผมให้คนไปจองห้องให้คุณด้วย ตามมาสิ"
แล้วของผ่องอำไพก็รีบลากกระเป๋าตัวเองเดินตามหลังเขาเข้าไป
"ท่านครับไม่มีห้องว่างเลย ยังโชคดีหน่อยที่เราโทรมาจองไว้ก่อนแล้ว" ผู้ช่วยของเขาโทรมาจองล่วงหน้าแล้ว
พอไม่มีห้องว่างจริง ๆ ชายหนุ่มก็เลยให้เธอพักห้องของเขา แล้วเขาจะไปพักกับผู้ช่วยเอง
"คุณพักอยู่นี่ก่อนนะ วันนี้มีกินเลี้ยงที่บริษัทที่ผมมาประชุม พวกผมอาจจะได้กลับดึก" พอเขาไปส่งเธอที่ห้องนอนและเขากำลังจะเดินออกมา
"คุณจะไม่ทิ้งฉันไว้ที่นี่คนเดียวใช่ไหมคะ" ก่อนที่คนตัวโตจะเดินไปไกลกว่านั้น หญิงสาวรีบพูดขึ้นมา
"ไม่ทิ้งหรอก" จบคำพูดชายหนุ่มก็เดินออกไป
#หลังงานเลี้ยงจบ
ภูสิษฐ์ก็ได้โทรเรียกคนขับรถมาขับให้(เพราะทั้งสองเมามาก)
พอถึงที่พักภวัฐหิ้วเจ้านายกลับมา ต่างคนก็ต่างเมามายจนลืมไปว่ามีผู้หญิงคนนึงนอนอยู่ในห้องของเจ้านายเขา พอส่งเจ้านายถึงหน้าห้องภวัฐกำลังจะเดินเข้าไปส่งที่เตียงนอน
"นายยกลับห้องปายยดายยแล้วว"
"กร๊าาฟผม" แล้วภวัฐก็เดินเซกลับห้องไป
"ไอ้นี่มันรู้ใจ ส่งเด็กมานอนรอเลยเหรอวะ" พอเขาเดินมาถึงเตียงนอน ก็เห็นผู้หญิงร่างบางนอนหลับอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว
เขาเข้าใจผิดนึกว่าภวัฐ ส่งเด็กเข้ามาให้ เพราะมาแต่ละครั้งก็จะมีแบบนี้ประจำ