ตอนที่ 7 ฝึกงาน
ริสา!!!
แทบจะเป็นเสียงเดียวของทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ ที่เรียกชื่อริสาพร้อมกันๆ
“อะ อะไรของมึงเนียะ” มาวินลุกขึ้นยืนโวยวายหน้าเหวอ
“ริสา ธะ เธอทำอะไรอะ” กฤชตินซึ่งนั่งมึนงงอยู่ไม่หายถามขึ้น
“ขอโทษนะ พอดีเราเพิ่งท้ากับเพื่อนเล่นๆ หน่ะ ไม่มีอะไรหรอก ไปก่อนนะ” เธอฉีกยิ้มหวานก่อนจะเดินกลับไปหาที่กลุ่มเพื่อน
แม้ริสาจะรู้สึกอายมากแต่ก็แกล้งทำเป็นไม่แคร์ อย่างน้อยมันก็คุ้มที่ ไอคนชื่อแม็กซ์ นั่นจะไม่มารบกวนเธออีก
ทิ้งมาวิน กฤชติน และ เตชิต ยังคงอึ้งและงงไม่หาย
-เฮ้ย เป็นแบบนี้ได้ไงว่ะ-
มาวินหยิบโทรศัพท์อีกเครื่องขึ้นมาดู ก่อนจะเห็นข้อความในโทรศัพท์จากริสา
@Line
ริสา : ฉันหอมแฟนแก้มฉันแล้ว ทีนี้คุณเชื่อหรือยังว่าฉันมีแฟนแล้ว
แม็กซ์ : แฟนชื่ออะไร
ริสา : มาวิน
มาวินเงยหน้าจากโทรศัพท์มองร่างริสาที่เดินไปกดโทรศัพท์ไป อย่างโมโห
-ยัยบ้า บอกว่่าแฟนชื่อมาวินแต่เสือกไปหอมแก้มไอติน บ้าเอ้ย-
“มึงยิ้มอะไรนัก ไอติน”
“กูโดนหอมแก้มว่ะ”
“ริสามันของกู” มาวินพูดอย่างไม่ชอบใจ เมื่อเห็นเพื่อนยังคงนั่งเคลิ้ม เอามือถูแก้มตัวเองเบาๆ ตรงที่ริสาหอมไม่หยุด
“กูว่ามึงแห้วรอบสองว่ะ ไอวิน สงสัยริสาจะชอบไอตินว่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เตชิตนึกขำ
ผิดกับมาวินที่ถอนหายใจฮึดฮัดอย่างโมโหมองร่างบางที่เพิ่งเดินไปถึงกลุ่มเพื่อน
“ริสา ตัวเองทำอะไรนะ” ปลายฟ้ากับนัชชาเอ่ยขึ้นแทบจะพร้อมๆ กันเมื่อริสาเดินมาถึงพวกเธอ
“เรื่องมันยาวหน่ะ เอาไว้ฉันจะเล่าให้ฟัง พวกเราเข้าไปเรียนกันดีกว่านะ” ริสายิ้ม
-ใครว่าเธอไม่อาย อายมาก แต่มันก็คุ้มไม่ใช่หรือ เพื่อแลกกับนายแม็กซ์อะไรนั่น จะได้ไม่มายุ่งกับเธออีก-
ริสาถอนหายใจเฮือกใหญ่ คิดว่าตัวเองคนรอดพ้นจากหมอนั่น เพราะเขาไม่ส่งข้อความจากไลน์มารบกวนเธออีกเลย
หลังจากวันนั้น เหมือนริสาจะโชคดีที่นายแม็กซ์อะไรนั่นหายไป ไม่มารบกวนเธอจริงๆ
วันฝึกงาน
นัชชากับปลายฟ้าไปทำงานด้วยกันในบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง แต่ริสากลับถูกแยกมาทำที่บริษัทที่ทำเกี่ยวกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์
ตอนที่เห็นรายชื่อจากอาจารย์ เธอรู้สึกคุ้นชื่อบริษัท แต่เธอไม่คิดว่าจะเป็นบริษัทนี้ จรกระทั่งวันนี้ริสายืนอยู่หน้าบริษัท ถึงจำได้ว่าเป็นบริษัทของเพื่อนคุณพ่อ ที่พ่อกับแม่เธอเคยมายืมเงินเขาเพื่อไปลงทุน ตอนที่เธออยู่ปีหนึ่ง
-หรือที่บริษัทเพื่อนพ่อเรียกเธอมาฝึกงานที่นี่ เพื่อใช้หนี้ที่พ่อแม่เธอหนีหายหรือเปล่านะ-
ในวันนั้นเธอไม่รู้รายละเอียดที่ผู้ใหญ่คุยกันมากนัก ตอนนั้นไม่รู้เหตุผลที่ทำไมพ่อกับแม่ต้องพาเธอมาที่บริษัทนี้ด้วย นึกว่าแค่เพื่อนมาคุยกับเพื่อนธรรมดา รู้แต่ว่าเพื่อนของพ่อ ชื่อ ลุงยศวิน และเป็นคนที่ใจดีมาก
เธอเพิ่งมารู้ตอนหลัง ตอนที่พ่อใกล้จะล้มละลายหนีหนี้ ก็ตอนที่ได้ยิน พ่อไปขอโทษลุงยศวิน เรื่องยืมเงิน
ริสาสูดลมหายใจเพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้ตัวเองอีกครั้ง ก่อนก้าวเข้ามาในบริษัท
“สวัสดีค่ะหนูริสาค่ะ” ริสายื่นเอกสารส่วนตัวให้กับฝ่ายบุคคล
คุณสุดาเงยหน้ายิ้มให้ เธออายุราวๆ สามสิบต้นๆ ดูเธอเป็นคนใจดีมาก ริสานึกแปลกใจว่าทำไมถึงมีเธอคนเดียวที่มาทำที่บริษัทนี้ ปกติอย่างน้อยบริษัทหนึ่งต้องได้ส่งนักศึกษาฝึกงาน 2-3 คนไม่ใช่หรือ
“หนูริสาเป็นเพื่อนคุณแม็กซ์หรือคะ น่ารักจริงๆ เลย” คุณสุดารับเอกสารมาอ่านยิ้มๆ
“แม็กซ์?” ริสาทวนชื่ออย่างตกใจ
-อะไรเนียะ นี่เป็นบริษัทของนายแม็กซ์อะไรนั่น ไม่ใช่ของเพื่อนพ่อเธอเหรอ จริงสิ นาเดียบอกว่านายแม็กซ์อายุยี่สิบห้าเป็นเจ้าของบริษัท แต่โอ้ย งง นี่มันอะไรกัน ก็เธอเคยมาหาเพื่อนพ่อที่นี่นี่กับคุณพ่อคุณแม่นี่นา ทำไมไม่ใช่บริษัทของเพื่อนพ่อล่ะ-
จะว่าไปเธอแทบไม่รู้รายละเอียดของเพื่อนพ่อเลยด้วยซ้ำ เพราะตอนนั้นเพิ่งอยู่ปีหนึ่งไม่ได้คิดจะสนใจเรื่องธุรกิจ จึงไม่รู้รายละเอียดอะไรเลย
“เออ ที่นี่ไม่ใช่บริษัทของคุณยศวินหรือคะ” ริสาถามกลับอย่างประหลาดใจ
“ใช่จ้ะ คุณแม็กซ์เป็นลูกชายของคุณยศวิน อ้าวหนูไม่รู้จักคุณแม็กซ์เหรอคะ ไหนว่าระ…..”
กริ้งงง
คุณสุดาพูดยังไม่ทันจบ ก็มีสายเรียกเข้าที่โต๊ะก่อนเธอรับสายก่อนพยักหน้าหงึกๆ พูดไปพลางมองริสาไป ริสายิ้มบางๆ ให้ แต่ตอนนี้ใจริสาเธอไม่เป็นสุขเอาเสียเลย
- ทำไมหนีไม่พ้นคนชื่อแม็กซ์ไม่พ้นนะ-
“ป่ะน้องริสา พี่จะพาเราไปแนะนำตัว เรียกพี่สุดาละกันเนอะ เรียกน้าอะไรงี้ พี่จะดูแก่” คุณสุดายิ้มกว้าง
“เราเรียนบริหาร แต่ให้ฝึกงานผู้ช่วยเลขาไปก่อน คงไม่เป็นไรเนอะ”
“อ๊ะ เออ หนูทำได้หมดค่ะ” ริสายิ้ม แม้จะไม่ค่อยสบายใจนักเมื่อรู้ว่าเป็นบริษัทที่นายแม๊กซ์นั่นทำงานอยู่
ตลอดทางเดินที่คุณสุดาฝ่ายบุคคลพาริสาไปแนะนำตัวยังแผนกต่างๆ มีแต่คนมอง เพราะริสาดูเป็นลูกคุณหนูที่สำคัญที่สวยมาก ไม่แปลกที่จะมีคนมองขนาดนี้
“นี่คุณดาว เลขาผู้จัดการธนภพ น้องริสาฝึกงานตรงนี้แล้วกันเนอะ”
“คุณดาว นี่น้องริสา เด็กฝึกงาน เพื่อนคุณแม็กซ์”
“อ่อ คุณแม็กซ์ โทรมาย้ำเมื่อกี้แล้วค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ น้องริสา หนูสวยมากจริงๆ”
“สวัสดีค่ะ ขอบคุณนะคะ ริสายิ้มยกมือไหว้
“หนูนั่งโต๊ะข้างๆ พี่ตรงนี้แล้วกันเนอะ เดี๋ยวพี่พาไปพบบอส”
“บอส?”
“อ่อ คุณธนภพหน่ะ เป็นผู้จัดการของที่นี่”
“แล้วคุณแม็กซ์ล่ะคะ” ริสาอดไม่ได้ที่จะถามสิ่งที่เธอสงสัย
“คุณแม็กซ์หรือคะ ไม่ค่อยเข้ามาหรอกค่ะ นานๆ ที”
“แล้วคุณยศวินล่ะคะ”
“คุณยศวิน ท่านเป็นประธานบริษัทค่ะ ท่านเข้าบ้างไม่เข้าบ้าง ท่านระดับบริหารไม่ได้เข้าทุกวันหรอกค่ะ”
“อ่อค่ะ”
เพราะตอนที่เคยมากับคุณพ่อตอนนั้น เธอไม่ค่อยสนใจอะไร จึงไม่ค่อยรู้รายละเอียด คิดแค่ว่าบ้านรวยจบมาก็มาทำงานกับบริษัทของคุณพ่อ ใครจะคิดว่าชีวิตจะผกผันถึงเพียงนี้
ไม่ช้าคุณดาวก็พาเธอไปพบบอส
คุณธนภพดูเป็นคนนิ่งๆ แต่ก็ดูใจดี
“บอสค่ะ นักศึกษาฝึกงาน ชืิ่อริสาค่ะ”
“สวัสดีค่ะ” ริสายิ้มยกมือไหว้สุภาพ
“ครับ ยังไงคุณดาวมีอะไรก็สอนน้องแล้วกันนะ”
“ได้คะบอส”
นี่ถ้าไม่ติดว่าบริษัทนี้เป็นของนายแม็กซ์ ริสาว่าเธอโชคดีมากที่เจอแต่คนใจดี
ริสาเป็นเด็กหัวดีและเรียนรู้ได้รวดเร็วแม้งานที่ได้จะไม่ค่อยตรงกับสายงานที่เรียนมากนัก และงานที่ได้รับส่วนใหญ่ก็มีแค่จัดและเตรียมเอกสาร
ทำงานแปปเดียวก็เที่ยงแล้ว พี่ดาวเลขาชวนริสาออกไปกินข้าวข้างนอก แต่ไม่ทันที่จะตกลง
“ริสา ไปกินข้าวกัน” มาวินเดินมาหยุดยืนที่หน้าโต๊ะทำงานของริสา
“มาวิน นายมาทำอะไรทีีนี่” ริสาตกใจ หันไปมองพี่ดาวที่เลขาที่เอาแต่ยิ้ม
“ฝึกงานดิ ทำที่เดียวกันไม่รู้เรื่องเลยเหรอ”
“ไม่เห็นรู้” ริสาพึมพำ
“เออ พี่ดาวค่ะ นี่มาวินเพื่อนที่คณะคะ” ริสาแนะนำ เพราะกลัวพี่ดาวจะแปลกใจที่อยู่ดีๆ มาทำงานวันแรกก็เสียมารยาท ให้เพื่อนมาหาที่โต๊ะที่ทำงาน
“สวัสดีค่ะ คุณมะ..มาวิน” พี่ดาวเอ่ยทักมาวินก่อนจนริสาชะงักก่อนจะหันไปทำหน้าดุใส่มาวิน ที่ไม่มีมารยาทให้ผู้ใหญ่ทักก่อน
“สวัสดีครับ พี่ดาว” มาวินยิ้มกว้าง
“ผมมาพาเพื่อนไปกินข้าวเที่ยงก่อนนะครับ ป่ะริสา ลุก”
“ทำไมเราต้องไปกินกับนาย เราจะไปกินกับพี่ดาว” ริสาชักสีหน้าไม่พอใจ
“เฮ้ย ไรว่ะ มาจากมหาลัยเดียวกันแค่สองคน จะใจดำเกินไปแล้ว” มาวินบ่น
“น้องริสา ไปกับเพื่อนเถอะจ้ะ พอดีพี่นึกขึ้นได้ว่าจะออกไปกินข้าวกับบอส”
พี่ดาวดันมาสนับสนุนให้เธอไปกินข้าวกับไอหมอนี่แบบนี้อีก ริสาจำต้องลุกขึ้น เดินตามมาวินอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก
“วุ่นวาย ฉันมาทำงานวันแรก นายก็มาวุ่นวาย” ริสาบ่น
“วุ่นวายตรงไหนวะ แค่จะชวนไปกินข้าว”
“ทำไมต้องมาฝึกงานที่เดียวกับนายด้วย ไม่เห็นจะรู้เรื่อง ถ้ารู้ว่ามีชื่อนายนะ ฉันสละสิทธิ์ไปแล้ว”
“อะไรวะ รังเกียจกันขนาดนั้นเชียว ก็กูกะมึงมาบริษัทนี้แค่สองคน ไม่ชวนมึงกินข้าว มึงจะให้กูชวนใคร คิดว่ากูตามจีบมึงอีกแล้วงั้นสิ”
“ไม่ได้คิดว่าคนอย่างนายจะตามจีบ แต่นายช่วยพูดจาให้มันสุภาพหน่อยได้ไหม ที่นี่ไม่ใช่มหาวิทยาลัย นายจะมาพูดกูๆ มึงๆ ไม่ได้ ไม่สุภาพ” ริสาค้อน
“อ๋อ ต้องพูดแบบไอติน ที่มึงไปหอมแก้มมันอ่ะนะ”
“นั่นมัน!” ริสาอึ้งไม่พอใจครั้นจะมาอธิบายให้คนพรรค์นี้ฟังก็คงจะไม่มีประโยชน์ เธอถอนหายใจก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย
“จะไปกินที่ไหนก็ไปสิ ฉันไม่รู้จักแถวนี้”
“เออ เดี๋ยวพาไปร้านอร่อย” มาวินยิ้ม
❤️❤️❤️